25 พ.ย. 2022 เวลา 05:45 • ไลฟ์สไตล์
¤ ปริเฉทที่ ๔
ลักขณปริคคาหกปริวรรต
ลักษณะของพระมหาบุรุษ
**********
ในสมัยนั้น ดาบสผู้คุ้นเคยกับตระกูล
ของพระเจ้าสุทโธทนมหาราช
ชื่อกาลเทวละ (กาลเทวินดาบส หรือ อสิตดาบส)
สำเร็จสมาบัติ ๘ มีฤทธิ์มาก
ได้ทราบข่าวจากเทพยดาว่า
พระเจ้าสุทโธทนะ ได้พระราชโอรส ที่มีบุญญาธิการแล้ว
จึงเข้าไปยังพระราชนิเวศน์
กราบทูลว่า
"ข้าแต่มหาบพิตร ได้ยินว่าพระราชโอรสของพระองค์อุบัติแล้ว
อาตมภาพอยากเห็น พระราชโอรสของพระองค์"
พระราชาจึงมีรับสั่ง ให้พาพระราชกุมารมา
แล้วทรงอุ้มไป เพื่อให้นมัสการดาบส
แต่พระบาททั้งสองของพระโพธิสัตว์
กลับขึ้นไปปรากฏบนเศียรเกล้าของอสิตะดาบสเป็นอัศจรรย์
**********
เพราะเหตุที่ว่า
มนุษย์ เทวดา พรหม ทั้งหลาย
ที่พระโพธิสัตว์ จะพึงกราบไหว้ได้นั้น "ไม่มี"
ถ้าคนที่ไม่รู้ แล้ววางศีรษะของพระโพธิสัตว์
ที่บาทมูล (เท้า) ของดาบส ศีรษะของดาบสนั้น
จะแตกออกเป็น ๗ เสี่ยง
**********
พระดาบสเห็นดังนั้น ก็สะดุ้งตกใจ
ครั้นพิจารณาดู ก็พบลักษณะของพระกุมาร
ถูกต้องตามตำรา "มหาปุริสลักษณะ ๓๒" ทุกประการ
พระดาบสคิดว่า
การทำให้คนทั้งหลาย ที่ไม่รู้คุณของพระโพธิสัตว์
ให้พินาศ นั้นไม่สมควร จึงลุกจากอาสนะแล้ว
ประคองอัญชลี แก่พระโพธิสัตว์...
พระราชาทอดพระเนตรเห็นเหตุอัศจรรย์นั้น
จึงทรงไหว้บุตรของตน
ดาบสระลึกได้ชาติ ๘๐ กัป
คือ ในอดีต ๔๐ กัป ในอนาคต ๔๐ กัป
เห็นลักษณสมบัติของพระโพธิสัตว์จึงใคร่ครวญดู
แล้วทราบว่า "จักได้เป็นพระพุทธเจ้าโดยมิต้องสงสัย"
จึงได้กระทำ ความยิ้มแย้ม ให้ปรากฏ...
ต่อนั้นจึงใคร่ครวญดูว่า
เราจักได้ทันเห็นความเป็นพระพุทธเจ้านี้หรือไม่หนอ ?
ก็เห็นว่า
เราจักไม่ได้ทันเห็น จักตายเสียก่อนในระหว่างนั้นแหละ
แล้วจักไปบังเกิดในอรูปภพ ที่พระพุทธเจ้าตั้งร้อยพระองค์ก็ดี
ตั้งพันพระองค์ก็ดี ก็ไม่สามารถที่จะเสด็จสั่งสอนเพื่อให้ตรัสรู้ได้
เมื่อคิดว่า
"เราจักไม่เห็นอัจฉริยบุรุษ ผู้เป็นพระพุทธเจ้า
เราจักมีความเสื่อมใหญ่" ดังนี้
แล้วร้องไห้ลั่นไป.
**********
ชนทั้งหลายเห็นดาบสเป็นเช่นนั้นแล้ว จึงเรียนถามว่า
" พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา เมื่อตะกี้นี้เอง
หัวเราะแล้ว ทำไมกลับร้องไห้ อีกเล่า?
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ อันตรายอะไรจักเกิด
แก่พระลูกเจ้าของพวกเราหรือหนอ "
ดาบสตอบว่า "พระองค์ไม่มีอันตรายจักได้
เป็นพระพุทธเจ้าโดยไม่ต้องสงสัย"
พวกมนุษย์ถามว่า
"เมื่อเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุไร ท่านจึงร้องไห้ลั่นไป"
ดาบสตอบว่า "เราเศร้าโศกว่า จักไม่ได้ทันเห็นพระมหาบุรุษ
เป็นพระพุทธเจ้า ความเสื่อมใหญ่จักมีแก่เรา จึงได้ร้องไห้"
**********
ต่อจากนั้น ดาบสใคร่ครวญอยู่ว่า ในวงญาติของเรา
มีใครบ้างจักได้เห็นความเป็นพระพุทธเจ้านั้น
ได้มองเห็น "นาลก" ผู้เป็นหลาน
เขาจึงไปยังเรือนของน้องสาว ถามว่า
"นาลกะ บุตรของเจ้าอยู่ไหน"
"ข้าแต่พระคุณเจ้า เขาอยู่ในเรือน" น้องสาวตอบ.
"จงเรียกเขามาที" ให้น้องสาวเรียกมาแล้ว
ดาบสพูดกะเขาผู้มายังสำนักของตนว่า
"นี่แน่ะพ่อ พระราชโอรสอุบัติแล้วในตระกูล
ของพระเจ้าสุทโธทนมหาราชเป็นหน่อพุทธางกูร
พระองค์จักได้เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อล่วงได้ ๓๕ ปี
เจ้าจักได้เห็นพระองค์ เจ้าจงบวชในวันนี้ทีเดียว"
เด็กเกิดในตระกูลนี้ ทรัพย์ได้ ๘๗ โกฏิ
คิดว่า ลุงคงจักไม่ชักชวนเราในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์
จึงให้คนซื้อผ้ากาสาวพัสตร์ และบาตรดินจากตลาด
ให้ปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ประคองอัญชลี
บ่ายหน้าไปทางพระโพธิสัตว์ แล้วกล่าวว่า
"บุคคลผู้สูงสุดในโลกพระองค์ใด ข้าพเจ้าขอบวชอุทิศบุคคลนั้น"
กราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์
แล้วไปยังหิมวันตประเทศบำเพ็ญสมณธรรม
**********
ในภายหลังท่านนาลก
เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ได้บรรลุพระสัมโพธิญาณ
ทูลขอให้พระองค์ทรงแสดง "นาลกปฏิปทา"
แล้วเข้าไปยังป่าหิมพานต์อีก
บรรลุพระอรหัต...
ปฏิบัติข้อปฏิปทาอย่างเคร่งครัด
รักษาอายุมาได้ตลอด ๗ เดือน
ยืนพิงภูเขาทอง แล้วปรินิพพาน.
**********

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา