25 พ.ย. 2022 เวลา 11:01 • เกม
The Witcher 3: Wild Hunt
หนึ่งในสุดยอด RPG แห่งปี 2015!
Wild Hunt ภาคต่อภาคที่ 3 ของ The Witcher เกม RPG ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสงคราม การเหยียดเผ่าพันธ์และจิตใจอันดำมืดของมนุษย์บนทวีป Temeria ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Witcher นาม Geralt of Rivia โดยเนื้อเรื่องของภาคนี้จะเริ่มต้นด้วยความฝันของ Garath เกี่ยวกับโรงเรียน Witcher ที่ Kaer Morhen ในความฝันเค้าเห็น Ciri ลูกบุญธรรมของเค้ากำลังถูกราชาของเหล่า Wild Hunt จับตัวไป หลังจาก Gerath รู้สึกตัวเค้าจึงถอดวิญญาณ Playboy และสวมวิญญาณ Liam Neeson ออกตามหาเบาะแสของลูกสาวคนนี้ในทันที
การเปลี่ยนแปลงที่เด่นที่สุดของภาคนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ถูกพัฒนาให้เป็นเกม Open World โลกของเกมนี้ถึงมันจะไม่ละเอียดเท่าเกมชื่อดังอย่าง GTA แต่ความสนุกและความน่าค้นหาไม่เป็นลองเลยสักนิดโดยเฉพาะเรื่องเควสย่อยที่สนุกแทบจะทุกเควส โดยปกติเควสที่ทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ แบบนี้จะเป็นเควสที่ค่อนข้างน่าเบื่อแต่กับเกมนี้มันเป็นอะไรที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ต่อลองราคาค้าจ้าง สืบหาเป้าหมายจากร่องลอยที่ถูกทิ้งไว้ เตรียมอุปกรณ์สำหรับต่อสู้และกำจัดเป้าหมาย ที่สำคัญทุกๆ เป้าหมายมันไม่ต่างอะไรกับให้ผู้เล่นได้สู้กับบอสเลย
มินิเกมกับเกม Open World เป็นของคู่กันเสมอแต่มินิเกมแทบทุกชนิดที่มากับเกม Open World ส่วนใหญ่จะค่อนข้างน่าเบื่อแต่กับเกมนี้มันกลับตรงกันข้าม CD Projekt หยิบเอาการ์ดเกมที่ชื่อว่า Gwent ที่นำเหล่าตัวละครในโลกของ Wicther มาใส่ไว้เป็นมินิเกมของเกมนี้ โดยผู้เล่นจะต้องทำการตามหาคู่มือตามเมืองต่างๆ ทำการท้าดวลเพื่อยึดการ์ดหรือเงินที่เดิมพันเอาไว้ ต้องบอกเลยว่าเจ้า Gwent Card เป็นมินิเกมที่สนุกที่สุดเท่าที่เคยมีมา มันสนุกถึงขนาดที่ผู้เล่นยอมทิ้งภารกิจหลักเพื่อเล่นมันหลายชั่วโมงได้เลยทีเดียว
ระบบต่อสู้อันยอดเยี่ยมของเกมนี้ก็เป็นอีกข้อที่ต้องพูดถึง ตั้งแต่การออกอาวุธ การหลบหลีก การป้องกันไปจนถึงการใช้เวทย์มนต์และอุปกรณ์ต่างๆ ทุกอย่างมันถูกขัดเกลาเข้าด้วยกันเป็นอย่างดี ศัตรูแต่ละแบบต้องใช้วิธีที่แตกต่างกัน ต้องใช้จังหวะที่แม่นยำและชั้นเชิงต่างๆ ในการต่อสู้ไม่ใช่เพียงแค่การรัวปุ่มบดขยี้ศัตรูแบบเกมทั่วๆ ไป และเรื่องสุดท้ายที่ต้องชมคงหนีไม่พ้นระบบเสียงของเกมนี้ ทั้งเสียงเพลงและเสียงประกอบของเกมนี้มันน่าตื่นตะลึงมากเลยทีเดียว
แต่ก็ใช่ว่าเกมนี้จะไม่มีข้อเสียเลย ข้อเสียหลักๆ ของเกมนี้จะมีด้วยกัน 3 ข้อใหญ่ๆ ด้วยกัน หนึ่งคือเรื่อง Curve ความยากของเกมนี้ในช่วงกลางๆ ค่อนไปทางท้ายตัวเกมค่อนข้างง่ายเกินไปถึงแม้ว่าผู้เล่นจะเล่นในระดับยากสุดก็ตามแตกต่างจากช่วง 15 รีเวลแรกที่เกมค่อนข้างท้าทายและมีมิติในการเล่นผู้เล่นต้องหาจุดอ่อนศัตรู เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ และต่อสู้ด้วยความสุขุม
แต่บรรยากาศอันท้าทายเหล่านั้นกลับเปลี่ยนไปเมื่อผู้เล่นปลดล็อคยาระดับสูงได้และมีรีเวลที่สูงในระดับหนึ่ง เรื่องที่สองคือการสรุปเนื้อเรื่องของเพื่อนๆ ที่ร่วมพจญภัยมา มันช่างน้อยนิดเสียเหลือเกินและสุดท้าย Bug ยิบย่อยจำนวนมหาศาลของเกมนี้ ที่ทำให้ผู้เล่นต้องโหลด Save อยู่บ่อยๆ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไปลดความสนุกของเกมนี้ลง
สุดท้ายคงไม่ผิดนักถ้าจะกล่าวว่า The Witcher 3 : Wild Hunt คือการปิดไตรภาคที่สมบูรณ์แบบของซีรีย์นี้ มันเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดเกมหนึ่งเท่าที่เคยมีการสร้างมา แนะนำให้หามาเล่นไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนซีรีย์นี้หรือไม่ก็ตาม
จัดทำโดย:Pachara Jankai
โฆษณา