ลมหายใจอยุธยายุคปลายใจกลางกรุงเทพฯ
วัดช่องนนทรี(วัดนางหนี)
ตำนานของชื่อวัดเดิม"วัดนางหนี"
นิทานพื้นบ้านเรื่องนี้เป็นเรื่องราวชื่อเดิมของวัดช่องนนทรี
มีสตรีชาวเมียนมาร์หนีทัพบุกกรุงศรีอยุธยา แอบซ่อนตัวอยู่ในวัดพุทธรอดชีวิต ผู้คนจึงเรียกกันว่า วัดนี้ "วัดนางนี"
(วัดที่ผู้หญิงซ่อนตัวอยู่) ต่อมาเรียกว่า "วัดช่องนนทรี"
(เครดิตข้อมูล " รายการมา 100 ปี ของเขตยานนาวา"
("100 ปี อ.ยานนาวา")
วัดช่องนนทรี เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย
ตั้งอยู่ที่แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันออก ตรงข้ามกับบริเวณฝั่งบางกะเจ้า ก่อตั้งวัดเมื่อ พศ. 2119 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อพศ. 2528
กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานสำคัญ
ของชาติ เมื่อปี พศ. 2520
ศิลปะทางสถาปัตยกรรม
อยู่ในยุคต้นรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์
ต้นพุทธศตวรรษที่ 23พระอุโบสถฐานเป็นโบสถ์แอ่นท้องสำเภา มีขนาด 5 ห้อง 2 มุข คล้ายโบสถ์มหาอุด ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของพระอุโบสถมีส่วนฐานแอ่นโค้งท้องสำเภา ด้านหน้าทำเป็นมุขเด็จ ด้านหลังต่อเป็นมุขยื่น
มีเสารองรับหลังคา หน้าบันเป็นฝาประกนไม่สลักลวดลาย
มุงกระเบื้องลอนประดับกระเบื้องเชิงชาย อาคารมีช่องประตูหน้าต่างเป็นรูปโค้งคล้ายกลีบบัว คือสอบแหลมที่ปลายบน บานหน้าต่างประกบกันเป็นรูปโค้งกลีบบัว
เจดีย์รายภายในวัดเป็นศิลปะอยุธยาตอนปลายทั้งสิ้น
เจดีย์ประธานบริเวณด้านหลังพระอุโบสถเป็น
เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองมีมุกทางขึ้นขนาดเล็กบริเวณ
ด้านหน้าฝั่งพระอุโบสถภายในสันนิษฐานว่าน่าจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุตามหลักขนบการสร้างวัด
เจดีย์รายโดยรอบพระอุโบสถ
มีทั้งเป็นแบบทรงระฆังและแบบย่อมุมไม้สิบสองแต่ที่น่าสนใจคือเจดีย์ทรงปรางค์ซึ่งมียอดปรางค์แบบฝักข้าวโพดลักษณะเจดีย์เป็นลักษณะผอมสูงรอบองค์เจดีย์มีลักษณะเป็นช่องตามข้อมูลระบุเจดีย์ในลักษณะนี้ว่า
"เสาประทีบ"เป็นเสา(เจดีย์)ทรงสูง ทำช่องไว้วางตะคัน
จุดไฟถวายเป็นพุทธบูชา
เสมาหินทรายแดง
เสมาหินทรายแดงเป็นลักษณะเสมาคู่บ่งบอกว่าวัดนี้เป็นวัดหลวงศิลปะเสมาเป็นเสมาแบบอยุธยาตอนปลาย
พุทธศตวรรษที่23-24เป็นเสมาที่มีขนาดเล็กศิลปะแบบราชวงศ์ปราสาททอง มีขนาดความสูงไม่เกิน 1เมตร
เอกสารของ ผศ.ดร.ประภัสสร ชูวิเชียร
จากเอกสารอยุธยาย่านกรุงเทพฯ
กล่าวไว้ว่า ใบเสมาวัดช่องนนทรีน่าจะมีเก่าที่สุดในกลุ่มนี้คือสามารถเทียบเค้าโครงลวดลายได้กับ
ใบเสมาวัดไชยวัฒนาราม(พศ.2172)
ตัวลายภายใน แม้จะอยู่ในแนวประดับเดียวกัน
แต่ก็ได้ลดความซับซ้อนลงแล้วกล่าวคือลายแผ่นสามเหลี่ยมโคนเสมานั้นตัวกระหนกที่ออกจากศูนย์กลางสองข้างมี ลวดลายแบบง่ายและสลับซับซ้อน ลวดลายแบบนี้เป็นที่นิยมกันตั้งแต่ในช่วงแรกของพุทธศตวรรษที่21
โดยได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน-ล้านหน้า
เครดิตข้อมูล
" รายการมา 100 ปี ของเขตยานนาวา"
("100 ปี อ.ยานนาวา")
หนังสืออยุธยาในย่านกรุงเทพฯ
ผู้แต่ง ผศ.ดร.ประภัสสร์ ชูวิเชียร
เกี่ยวกับเจดีย์ น.269-270
เกี่ยวกับเสมา น.162-163
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
