27 พ.ย. 2022 เวลา 02:12 • ไลฟ์สไตล์
การเปรียบเทียบมันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่มีมานานแล้ว มันเป็นธรรมชาติของการเอาตัวรอดเมื่อได้เห็นพฤติกรรมของคนอีกกลุ่มที่มีความแตกต่าง
เพราะฉะนั้น การเปรียบเทียบมันจะเกิดขึ้นอย่างอัติโนมัติ
เพื่อขับเคลื่อนให้เราต้องกระทำบางอย่าง เพื่อความอยู่รอดจากสภาพการณ์นั้นๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดกันมาตั้งแต่ยุคโบราณ..
แต่ปัจจุบันมันมีความซับซ้อนมากกว่า เพราะมีช่องทางที่หลากหลาย ที่ทำให้เรารับรู้ข้อมูลของกลุ่มคนต่างๆซึ่งเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย และมันยากต่อการปิดหูปิดตาตัวเองในยุคที่สะดวกสบายเช่นนี้
เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะปรับวิธีคิดของเราได้ เพื่อลดความอ่อนไหวต่อการเปรียบเทียบ
1
ปรับวิธีคิดใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้สภาพจิตใจให้มีความทนทานต่อสิ่งที่ทำให้เราท้อเมื่อได้รับรู้ข้อมูลของบุคคลอื่น ที่เขาอาจแสดงแค่ด้านมุมดีๆเท่านั้นต่อสาธารณชน
และบังเอิญว่าคนที่พบเห็นนั้น เป็นคนที่อ่อนไหวง่ายอยู่แล้วเป็นทุนเดิม มันจึงเกิดการสะสมและให้เกิดเป็นความซึมเศร้าภายในใจ จนส่งผลกระทบต่อร่างกาย..
ไหนๆมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรามาลองเปิดใจยอมรับการเปรียบเทียบในเชิงบวกดูไหม เช่นการเปรียบเทียบกับคนอื่นเพื่อการเติบโตของเรา เมื่อเรามองเห็นความสำเร็จของบุคคลหนึ่งที่เรายกให้เขาเป็นไอดอล และสักวันหนึ่งเราจะเติบโตและสำเร็จเช่นเขาคนนี้ให้ได้ ฯลฯ…
1
ในทางกลับกัน เราต้องพยายามยับยั้งชั่งใจไม่ให้เราเปรียบเทียบในเชิงลบ เพราะมันอาจทำให้เราด้อยค่าตัวเอง หรือ มองข้ามคุณค่าของตัวเองไป
เราต้องพยายามตระหนักรู้ให้ได้ว่าสิ่งที่เรากำลังเปรียบเทียบอยู่นั้น มันอยู่คนละเส้นทาง และแตกต่างกันในด้านเงื่อนไข ซึ่งบางอย่างไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
แต่คนที่มีความอ่อนไหวกับปัจจัยภายนอกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันอาจลำบากหรือยากหน่อย เพราะเขาอาจมีความต้านทานต่ำ เนื่องจากบริบทหรือภูมิหลังที่มีความแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม เราก็ยังเชื่อว่าการตระหนักรู้ในเรื่องนั้นๆ ยังเป็นสิ่งสำคัญที่เราทุกคนควรมี
หากเรากำลังเปรียบเทียบ ก็ให้รู้ว่าเรากำลังเปรียบเทียบ
ขอแค่เรารับรู้อย่างมีสติ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้เราจมดิ่งหรือติดกับดัก ในสิ่งที่มนุษย์อย่างเราๆ หลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่มารูปภาพ: https://blog.singulart.com/
โฆษณา