27 พ.ย. 2022 เวลา 04:20 • ข่าวรอบโลก
ไต้หวัน ไม่มั่นคง! ผู้นำแพ้เลือกตั้งโบกมือลาออกหัวหน้า ฝ่ายค้านโปรจีนผงาด
10
ไต้หวัน สถานะรัฐที่สหประชาชาติ (UN) และสมาชิกกว่า 195 ชาติ รวมทั้งขาใหญ่สหรัฐฯ ให้การรับรองคือ "ไม่ใช่ประเทศ" เป็นมลฑลหนึ่งของจีน มีประชากรราว 22 ล้านคน
แต่ไต้หวัน คิดเข้าข้างตนเองว่าตน คือ สาธารณรัฐจีน จึงตั้งอำนาจทางการเมืองขึ้นมาปกครองตนเอง พยายามแยกเอกราชออกจากประเทศจีน ซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ มากมาย หวังให้ช่วยรับรองเอกราช แต่ก็กินแห้วมาตลอด
7
ปัจจุบันไต้หวัน จึงไม่มีสถานทูตนานาชาติไปตั้ง มีเพียงสำนักงานการค้าเท่านั้น ตอกย้ำว่าใต้หวัน ไม่มีสถานะของรัฐ ที่สังคมนานาชาติให้การยอมรับในสากล
มีพรรคการเมือง 2 พรรคใหญ่ที่แข่งขันกัน คือ พรรค ประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) โปรสหรัฐฯ และพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) มิตรจีน ผลัดกันเป็นฝ่ายบริหารตามวาระเลือกตั้ง
6
ปี 2008 พรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ไต้หวัน มีนโยบายผูกมิตรกับจีนแผ่นดินใหญ่ นายหม่า อิงจิ่ว ได้ดำเนินนโยบายร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีน เปิดเที่ยวบินตรงระหว่าง 2 ดินแดน
ประนีประนอมและสนับสนุนการค้ากับจีน จนพรรค KMT ชนะเลือกตั้งได้บริหารไต้หวัน ต่อมาถูกพรรคฝ่ายค้าน DPP โจมตีให้ร้ายสาดโคลนว่านำอธิปไตยของไต้หวันไปผูกไว้กับจีน
4
ปี 2020 พรรค DPP หัวหน้าพพรคคือ นางไช่ อิงเหวิน โปรสหรัฐฯ เต็มตัวได้รับการเลือกตั้งให้เป็นฝ่ายบริหาร และพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) มิตรจีนเป็นฝ่ายค้าน
เมื่อได้อำนาจพรรค DPP เริ่มมีนโยบายทุนนิยมจัด ปฏิรูปภายในประเทศ ตัดสวัสดิการเงินบำนาญ ลดอายุการลงคะแนนเสียงจาก 20 เป็น 18 ปี หวังได้คะแนนจากวัยรุ่น
5
มุ่งแยกเอกราช ต่อต้านจีนตามที่สหรัฐฯ ชี้นำให้เป็นปฏิปักษ์ต่อความสัมพันธ์กับจีนที่ย่ำแย่ลง ช่วงหลังมาจึงสร้างความขุ่นเคืองให้ชาวใต้หวันมากขึ้นเรื่อยๆ
และฝ่ายบริหารมาถึงจุดแตกหักกับชาวไต้หวัน เมื่อนางแนนซี ไพโรซี อดีตประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯ เดินทางแอบมาเยือน ทำให้เกิดม็อบและกระแสต่อต้านจากชาวใต้หวันจนคะแนนนิยมลงดิ่งเหว
7
ส่วนพรรค KMT ที่เคยเป็นรัฐบาล ปัจจุบันเป็นฝ่ายค้าน มุ่งรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน อยู่ร่วมกันปรองดองออมชอมอย่างพี่น้อง ให้คำมั่นนโยบายว่าจะทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาสันติภาพในภูมิภาค คะแนนนิยมจึงดีวันดีคืน
ล่าสุดใต้หวันจัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นนายกเทศมนตรี และตำแหน่งบริหารอื่นๆ ใน 22 เมือง และเทศมณฑล พร้อมจัดการลงประชามติว่าจะลดอายุผู้ลงคะแนนเสียงจาก 20 เป็น 18 ปีหรือไม่
5
ก่อนการลงคะแนนเสียง เจ้าหน้าที่ของนางไช่ และพรรค DPP ประโคมข่าวทางสื่อให้ร้ายป้ายสีซ้ำๆ อ้างว่าจีนเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งผ่านการรณรงค์ ข่าวปลอม
ซึ่งจีน และพรรค KMT ปฏิเสธ ไม่มีมูลความและเป็นการเมืองน้ำเน่าที่นักการเมืองสหรัฐฯ ชอบใช้วิธีสาดโคลนใส่ฝ่ายตรงข้าม
6
ผลการลงคะแนนออกมากลับตาลปัตรพลิกล็อคมากไม่เป็นทางการ คือ
1. ไม่เห็นชอบให้ลดอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้งเหลือ 18 ปี เพราะชาวใต้หวันมองว่ายังขาดวุฒิภาวะ ถูกนักการเมืองปั่นหัวหลอกใช้ได้ง่าย
2. พรรค KMT โปรจีน พลิกล็อคชนะเลือกตั้งสัดส่วน 68% ได้ราว 15 -16 ที่นั่งจาก 22 เมืองและเทศมณฑล
3. พรรค DPP โปรสหรัฐฯ แพ้เลือกตั้งสัดส่วนราว 27% ได้ 6 ที่นั่งจาก 22 ตำแหน่ง ที่อึ้งคือ แพ้เขตที่เลือกนายกเทศมนตรีไป 4 ที่นั่ง จากทั้งหมด 6 ที่นั่ง
*หมายเหตุ..จำนวนที่นั่งอาจเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อย
5
ซึ่งรวมถึงเมืองเอกกรุงไทเป ที่สำคัญคือสูญเสียฐานที่มั่นดั้งเดิมในเมืองเกาสง เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เมืองนี้ทำการเกษตรส่งออกไปจีนมหาศาล เมื่อถูกจีนแบนสินค้า จึงมองว่าเป็นความผิดของพรรค DPP
นางไช่ อิงเหวิน ผู้นำฝ่ายบริหารไต้หวัน แถลงข่าวว่า “ผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามคาด ฉันต้องแบกรับความรับผิดชอบความผิดพลาดทั้งหมด และขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค DPP ทันที”
4
โดยธรรมเนียมแล้ว เมื่อลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้ว ทางพรรคจะต้องเลือกหัวหน้าคนใหม่ เพื่อเปลี่ยนตัวผู้นำฝ่ายบริหารเกาะไต้หวันกลางเทอม และจะทำลายโอกาสของนางไช่ อิงเหวิน ในการลงเลือกตั้งเป็นผู้นำในสมัยหน้าอีกด้วย
จีน ใช้กลยุทธ์ชั้นครู เพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวันภายใต้การนำของนางไช่ โดยเพิ่มการฝึกซ้อมทางทหาร รุกยึดพันธมิตรทางการทูตไต้หวัน 5 ชาติเล็กๆ หันมาซบจีน
7
แบนการนำเข้าสินค้าเกษตร อาหาร ในเขตฐานเสียงพรรคของนางไช่ และประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ธุรกิจระหว่างประเทศแสดงรายชื่อไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนบนเว็บไซต์ของบริษัทเหล่านั้น
ฝ่ายค้านพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ที่มีท่าทีเป็นมิตรและพี่น้องกับจีน จึงส้มหล่นโดนใจชาวไต้หวันยามนี้ ฟื้นคืนชีพได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ จากผลเลือกตั้ง
6
พรรค KMT แถลงข่าวประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าจะอุทิศตนเพื่อชาวไต้หวัน และจะเสียสละสร้างสันติภาพเพื่อให้มีโอกาสชนะใจในการเลือกตั้งในปี 2024
สรุป..ฝ่ายโปรจีน ที่เดินทางสายกลางมุ่งเน้นสร้างสันติภาพรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน อยู่ร่วมกันปรองดองอย่างพี่น้องกับจีนเป็นฝ่ายชนะ แต่ก็ไม่มีจุดยืนที่จะให้จีนมาปกครองเต็มรูปแบบ
5
เป็นเพียงพรรคโปรสหรัฐฯ ปั่นกระแสสาดโคลนสร้างภาพความน่ากลัวให้ชาวไต้หวันคิดเช่นนั้น และยังสมคบสหรัฐฯ ยั่วยุทางทหารต่อจีน เพื่อหาข้ออ้างซื้ออาวุธมาซ้อมรบทิ้งขว้างและสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนจีนเอง ถ้าสหรัฐ ไม่มาป่วนก่อกวนรุกรานอธิปไตย จีนก็ไม่ได้มีท่าทีจะทำร้ายชาวไต้หวันมาก่อน แต่ที่ซ้อมรบก็เพื่อรักษาอธิปไตยน่านน้ำเขตแดนที่สหประชาชาติ (UN) และนานาชาติรับรองเท่านั้นเอง
4
ในช่วงหลังมา พรรคการเมืองแนวอนุรักษ์นิยมชาติทั่วโลก ชนะใจคนส่วนใหญ่ได้เป็นฝ่ายบริหาร ส่วนพรรคแนวโปรสหรัฐฯ พากันแพ้เลือกตั้งเป็นทิวแถว
เป็นยุคสมัยเสื่อมระเบียบโลกเก่าขั้วเดียว Trend นี้ระบาดไปทั้งโลก และมาถึงยุคจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว
กระแสอนุรักษ์นิยมกำลังเฟื่องฟู พรรคการเมืองทุกชาติเดินแนวนี้ ชนะเลือกตั้งแน่นอน 🤗🤭😂
3
ที่มา : บางส่วนจาก trtworld , วิเคราะห์สถานการณ์
#WorldUpdate
2
ช่องทางติดตามบทวิเคราะห์ข่าวเชื่อมโยงกัน
😘 VK :
🤭 Twitter :
😍 Instagram :
🤗 Blockdit :
โฆษณา