27 พ.ย. 2022 เวลา 07:45 • ปรัชญา
ร่างกายของเรามันก็เหมือนเครื่องยนต์ จิตของเรามีอารมณ์ อย่างไปตรงนั้นตรงนี้ ก็สั่งให้กาย ก้าวขา เดินไป นำวิญญาณทั้งหก ไปสัมผัส..สิ่งที่มีชีวิต ไม่มีชีวิต สัมผัสรูรสกลิ่นเสียง มีอารมณ์ชอบใจไม่ชอบใจ ชอบสิ่งนั่นสิ่งนี่ ไม่ชอบสิ่งนั่นสิ่งนี้ ไปเห็นสิ่งนั่นดี บ้างก็อยากได้ สิ่งไม่ดี ก็ปฏิเสธ ..
หากปฏิเสธไม่ได้ ก็หงุดหงิดรำคาญ . มีความเบื่อ ..เกิดขึ้น ..กายก็อ่อนล้า ปวดเมื่อย..อยากพัก ..พักผ่อน..บางครั้งจะพักกาย แต่จิตก็ไม่ยอมหยุดพัก ..อารมณ์ก็ทำความวุ่นวาย คิดเรื่องราว เรื่องนั่นเรื่องนี้ ไม่หยุดหย่อน ก็เลยไม่ได้พักทั้งกายทั้งจิต มันก็เลย หมดเรียวแรง สมองก็มึนงง คิดอะไรไม่ออก ..
เพราะกายมันไม่นิ่ง มีเรื่องลืมสิ่งของวางตรงนั้นตรงนี้.หาไม่เจอเสียแล้ว ก็กระพลุกกระพล่าน ลุกลี้ลุกลน วิตกกังวล..วางของตรงไหนว้า. นั่นก็เป็นเรื่องราวของอารมณ์ที่ปกปิดจิตของเราอยู่ จิตของเราเป็นทาสอารมณ์อยู่ เราก็หาทางพักกายพักจิต .หยุดยั้งอารมณ์โลกไปชั่วขณะหนึ่ง นั่นก็คือ การนำกายวาจาใจ ..มาสร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรมไป ให้จิต ..เกิดสมาธิ ..
เมื่อจิตเกิดสมาธิ ..เราก็นำเรื่องที่เรา.จึงตได้สมาธิ เอามาขจัด อารมณ์ วางอารมณ์ลงไปก่อน จิตไม่นึกคิดอะไร ..นำกายมาอยู่นิ่ง จิตนิ่งได้ ..บังคับกายให้นิ่ง จิตก็นิ่งไปตามกาย จิตที่นิ่งตายกาย กายนิ่ง.เฉยๆ ..กายก็ได้พัก ..จิตนิ่งเฉยๆ จิตก็ได้พัก พักทั้งกายทั้งจิต ทั้งกายทั้งจิต ก็จะมีกำลัง สดชื่นขึ้น
กายที่อยู่นิ่งๆ จิตควบคุมกายให้นิ่งได้ จิตก็เฉย นิ่งไปตามกาย กายก็ไม่ได้ใช้พลังงานอะไร ..การทำงานของกายก็น้อยลง ..ยิ่งกายนิ่งได้ จิตนิ่งได้ ..แม้ชั่วขณะหนึ่ง ..ทั้งกายทั้งจิตก็มีกำลัง..ปลอดโปร่งจากอารมณ์นึกคิดชั่วขณะหนึ่ง พักกายพักจิตได้..ทั้งจิตทั้งกายก็เบา ..สมองก็ปลอดโปร่งขึ้น..เมื่อได้พักกาย ..จิตจะสั่งกายให้นึกคิดอะไร ..กายก็พร้อมให้ใช้ มีกำลัง..ขึ้น
ถ้าหากรู้จัก คำว่า กายกรรม ..เราอยู่กับกายที่เป็นกรรม ..เราก็นำกายนี้มาสร้างให้เป็นกายบุญเกิดขึ้น เมื่อกาย เป็นกายบุญ ..กายของผู้ที่ สร้างบุญกุศลบารมี ห้อมล้อมเรือนกาย ห้อมล้อมจิต กายที่เป็นบุญท..บุญก็จะไปทำอะไร ก็ผ่านพ้นอุปสรรคราบรื่น
โฆษณา