Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นิทานชาดก
•
ติดตาม
28 พ.ย. 2022 เวลา 13:56 • หนังสือ
เรื่องที่ 3 ฝูงนกทะเลาะกัน
บทที่ 3
3.1ที่เมืองพาราณสี แคว้นกาสี รัชกาลของพระเจ้าพรหมทัต พระองค์หนึ่ง มีนกกระจาบฝูงใหญ่นับได้หลายพันตัวอาศัยอยู่ในป่า แห่งหนึ่ง ชาตินั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นนกกระจาบตัวฉลาด เป็นหัวหน้าฝูง ส่วนพระเทวทัตเกิดเป็นนกกระจาบตัวไม่ฉลาด ครั้งนั้น มีนายพรานคนหนึ่งเลี้ยงชีวิตอยู่ด้วยการจับนก กระจาบขาย วิธีจับของเขา คือ ใช้แหเหวี่ยงคลุมลงไปบนฝูงนก กระจาบที่กำลังจิกหาเมล็ดข้าวอยู่กลางทุ่งนา แล้วก็เดินไปบนแห
3.2ปลดนกกระจาบใส่ตะกร้าทีละตัวจนหมด จากนั้นก็หิ้วตะกร้ากลับ บ้าน เพื่อนำนกกระจาบไปเร่ขาย แล้วนำเอารายได้จากการขาย นกกระจาบนั้นไปเลี้ยงครอบครัว นกกระจาบตัวฉลาด รู้เห็นการกระทำของนายพรานอยู่ ตลอดเวลา และคิดเสมอว่าเขาคือศัตรูตัวสำคัญของพวกตน “พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย...” เขาพูดขึ้นในวันหนึ่ง “ท่านทั้งหลายคงจำนายพรานคนที่เอาแหมาเหวี่ยงจับพวก เราได้นะ นั่นแหละเขาคือผู้ฆ่าเรา ญาติพี่น้องของเราต้องล้มหาย ตายจากไปมากต่อมาก ก็เพราะฝีมือของเขา” พ “แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกันดีถึงจะไม่ให้เขาจับได้
3.3” นกกระจาบตัวหนึ่งปรึกษา “นั่น....พวกเราควรช่วยกันคิด” นกกระจาบตัวฉลาดเสนอ แนะ “ข้าพเจ้าเองก็มีวิธีช่วยเหลือพวกเราอยู่อย่างหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่า พวกเราจะยอมรับกันหรือเปล่า” “วิธีอะไร ว่ามาเลย ท่านบัณฑิต” นกกระจาบหลายตัว ซึ่งพร้อมกัน “หากทำตามได้ พวกเรายินดีทำตาม ครั้นแล้ว นกกระจาบตัวฉลาดก็บอกวิธีช่วยเหลือตัวเอง เก่นกเหล่านั้น ซึ่งสรุปได้ว่า นับแต่นี้ไปพอนายพรานเหวี่ยงแห คลุมลงถึงตัว นกแต่ละตัวต้องสอดหัวเข้าไปในตาแห แล้วพร้อมใจ
3.4กันออกแรงยกแหขึ้นไป บินลงบนพุ่มไม้ที่มีหนามทุ่มหนึ่ง แล้วจาก นั้นค่อย ๆ ลอดลงข้างล่าง วิธีนี้จะช่วยให้นกทุกตัวปลอดภัย “วิเศษมาก วิเศษมาก ท่านบัณฑิต” นกกระจาบร้องรับ กันเสียงขรม “พวกเราทำตามคำแนะนำของท่านได้” วันต่อมา นกกระจาบก็ออกหากินกันเหมือนอย่างเคย ฝ่าย นายพรานก็ออกล่านกกระจาบเหมือนอย่างเคยเช่นกัน นกกระจาบ พอเห็นนายพรานถือแหมากระวังตัวกันแจ และพอนายพรานเหวี่ยง แหเข้าใส่ก็นึกถึงคำของนกกระจาบตัวฉลาด ทุกตัวสอดหัวเข้าไปใน ตาแห จากนั้นก็พร้อมกันยกแหขึ้นบินไปลงบนพุ่มไม้มีหนามแห่ง หนึ่ง
3.5แล้วแต่ละตัวค่อย ๆ ลอดลงข้างล่างแล้วบินหนีไปได้สำเร็จ นายพรานเองก็ตามนกกระจาบไปติด แต่ครั้นปลดแหออกจาก ๆ พุ่มไม้ได้ก็สายไปเสียแล้ว ไม่มีนกกระจาบติดแหแม้แต่ตัวเดียว ผล ปรากฏก็คือเขาต้องเดินแบกแหและหิ้วตะกร้าเปล่ากลับบ้าน วันรุ่งขึ้นนายพรานขอแก้มือใหม่ ผลปรากฏออกมาเช่นเดิม กกระจาบพร้อมใจกันยกแหไปทิ้งไว้บนพุ่มไม้ คราวนี้กว่าจะปลด เหออกได้ตกถึงเย็นพอดี ภรรยาของนายพรานเริ่มไม่พอใจตั้งแต่ มื่อวานที่เห็นสามีกลับบ้านมือเปล่าไม่ได้นกมาสักตัว มาวันนี้เห็น ช่นนั้นอีก ก็ยิ่งไม่พอใจหนักขึ้น
3.6“อะไรกันจ๊ะพ่อคุณ....เห็นมามือเปล่าทุกวัน” นางตวาดเสียงแข็ง “หรือว่าเดี๋ยวนี้มีคนจะต้องเลี้ยงดูอยู่นอกบ้าน ถึงได้เอา ของไปประเคนให้หมด” “ใจเย็น ๆ เมียพี่ใจเย็น ๆ” นายพรานพยายามข่มความ โกรธ “เดี๋ยวนี้นกกระจาบมันฉลาด เวลาพี่เหวี่ยงแหลงไป มัน พร้อมใจกันยกแหไปทิ้งไว้ที่พุ่มไม้มีหนาม แล้วก็ลอดลงข้างล่างหนี ไปหมด พี่เลยจับไม่ได้” “ต่อไปนี้คงต้องเปลี่ยนอาชีพใหม่ละมั้ง” นางประชด “เพราะนกมันฉลาดกว่าคนแล้ว คิดหาอาชีพใหม่ไว้บ้าง เรือยังล่ะ” “ไม่ต้องหาอาชีพใหม่หรอก” นายพรานให้เหตุผล
3.7“อาชีพ นี้แหละเลี้ยงตัวได้ แต่ต้องรอเวลาสักนิดหนึ่ง เอาไว้ให้นกมันแตก สามัคคีกันเมื่อไร เมื่อนั้นจับได้หมดแน่” หลังจากนายพรานให้ความหวังภรรยาไปได้ไม่กี่วัน ก็เกิด เหตุการณ์ที่ทำให้นกกระจาบต้องทะเลาะกันถึงขั้นแตกสามัคคี กล่าว คือ มีนกกระจาบตัวหนึ่งสะเพร่า ขณะร่อนลงหาอาหารกินไม่ทัน ได้สังเกต ก็พลาดไปเหยียบหัวนกกระจาบอีกตัวหนึ่งเข้า
3.8“ใครเหยียบหัวกูวะ” นกกระจาบตัวถูกเหยียบ ร้องถาม ง อย่างโกรธจัด “ขอโทษ...ขอโทษ ฉันไม่ทันสังเกตเลยพลาดไปเหยียบแก เข้า” นกกระจาบตัวที่เหยียบรีบขอโทษ นกกระจาบตัวที่ถูกเหยียบไม่ยอมยกโทษให้ ในที่สุดนก กระจาบทั้งสองก็ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นจะเกี่ยงกันยกแห นกทั้ง สองมีพวก ดังนั้นการทะเลาะกันของนกทั้งสองนั้นจึงขยายไปถึง นกตัวอื่น ที่เป็นพวกด้วย ๆ ฝ่ายนกกระจาบตัวฉลาด เห็นนกกระจาบแตกสามัคคีกัน แล้วก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เขาพยายามเกลี้ยกล่อมนกกระจาบเหล่า นั้นให้กลับปรองดองเหมือนอย่างเดิมก็ไร้ผล
3.9“เมื่อพวกนกกระจาบขัดแย้งกัน ความปลอดภัยก็จะไม่มีอีก ต่อไป” เขาคิด “พวกเราจะต้องล้มตายกันอีกมากมาย เพราะขาดความสามัคคีกัน” เมื่อไม่เห็นทางจะให้พวกนกกระจาบที่แตกแยกกันกลับคืน ความสามัคคีได้ดังเดิม นกกระจาบตัวฉลาดที่คำนึงถึงความปลอดภัย ของพวกนกกระจาบที่ยังสามัคคีกันดีอยู่ เขาจึงจำใจพานกกระจาบ ฝูงนั้นไปอยู่ที่ป่าใหญ่อีกแห่งหนึ่ง
3.10นายพรานหวังที่จะจับนกกระจาบได้คราวละมาก ๆ เหมือน คราวก่อนๆ เพียงแต่ว่าเขารอเวลาให้นกกระจาบแตกสามัคคีกัน เท่านั้น ซึ่งบัดนี้เวลาที่รอคอยนั้นก็มาถึงแล้วโดยที่เขาไม่รู้ตัว เช้าวันนั้น เขาแบกแหหิ้วตะกร้าแล้วเดินท่อม ๆ ไปตาม ท้องทุ่ง เห็นฝูงนกกระจาบฝูงหนึ่ง กำลังจิกกินเมล็ดข้าวอย่าง เอร็ดอร่อย “เอาละวะ วันนี้เป็นที่ของกูบ้าง” เขาคิดพร้อมกับเหวี่ยง แหลงไปอย่างแม่นยำ แหแผ่คลุมนกไว้ได้ทั้งหมด ฝ่ายนกกระจาบถูกแหเหวี่ยงคลุมต่างนิ่งดูดาย ไม่พยายาม คิดหนีเหมือนเมื่อก่อน
3.11มิหนำซ้ำแต่ละตัวยังพูดเยาะเย้ยกันอีก “เฮ้ย...ระวังนะ เอาหัวตันแห่มาก ๆ เข้า ระวังขนจะร่วง หัวโกรุ่นนะโว้ย” “หัวโกนก็ยังพอทำเนา แต่นี่ปีกก็จะพลอยโกรุ่นไปด้วย” ขณะที่นกกระจาบต่างเยาะเย้ยและเกี่ยงกันยกแหอยู่นั้น นายพรานก็เดินมาสาวแห แล้วรวบใส่ลงไปในตะกร้าแบก ขึ้นบ่าเดินกลับบ้านทันที “อย่างนี้ถึงจะน่ารัก” ภรรยานายพรานหัวเราะร่าเมื่อเห็น เขาแบกนกกระจาบเต็มตะกร้ากลับบ้าน “พี่บอกแล้วไง” นายพรานพูดกับภรรยาอย่างอารมณ์ดี
3.12รอให้ถึงเวลาก่อน ก็จะจับนกได้มากเอง เพราะตอนนั้นก กระจาบมันทะเลาะกัน เกี่ยงกันยกแห เลยในที่สุดจึงถูกพี่ยกมาทั้ง พวกนี่แหละ” สองสามีภรรยาพูดคุยหยอกล้อกัน พลางปลดนกออกจาก แหพลาง ปรากฏว่านกแต่ละตัวตายหมดแล้วตั้งแต่ถูกรวบยัดใส่ ตะกร้า
3.13๏ ชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า... การอยู่แบบตัวใครตัวมันเป็นอันตรายที่สุด เพราะถึงคราว มีภัย จะไม่มีใครช่วยใครได้ เหมือนนกกระจาบฝูงหนึ่งที่ อยู่แบบตัวใครตัวมัน แล้วในที่สุดก็ถูกนายพรานจับตัวไป ฆ่าขายเลี้ยงชีวิตเขาและครอบครัว
1
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย