เทคนิค ค้นหา และ เขียน Problem Statement ลูกค้า ที่เอาไปใช้ได้จริง
Clayton Christensen อดีตศาสตราจารย์ของ Harvard Business School ผู้โด่งดังเรื่องทฤษฎีนวัตกรรม ได้แนะนำ
ทฤษฎี Jobs To Be Done
ไว้ในหนังสือ Competing Against Luck
แนวคิดหลักคือ
ลูกค้า จริงๆแล้ว ไม่ได้ซื้อตัว Product แต่ลูกค้าจ้าง Product ให้ทำงานบางอย่างที่เขาต้องการในชีวิต
ในตัวอย่างคลาสสิคคือ คนอเมริกันซื้อมิลค์เชค ของแมคโดนัลด์ ไม่ใช่เพราะความอร่อยหรืออิ่ม
พอไปสัมภาษณ์เจอว่า ส่วนใหญ่เลยเลือกซื้อมิลค์เชคตอนขับรถไปทำงานตอนเช้า เพราะกินได้นานเพลินไปขณะขับรถให้ไม่เบื่อ
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะ มิลค์เชคมีความหนึบที่ต้องค่อยๆกิน ทำให้ซื้อถ้วยเดียวก็กินได้นานจนขับรถไปถึงที่ทำงาน และถือกินมือเดียวได้ ไม่เลอะเทอะ
อันนี้คืองานที่ลูกค้าต้องการให้มีคนทำให้ตอนขับรถ และมิลค์เชคทำงานได้ดี ลูกค้าจึงจ่ายเงินซื้อ
พอมองที่งาน ไม่ได้มองที่ Product หรือ Category ของ Product
คุณจะมองลูกค้า ปัญหาลูกค้า และการแข่งขัน ในมุมใหม่
งานที่ลูกค้าต้องการ เป็นได้ทั้ง
Functional ตอบโจทย์การใช้งาน
Emotional ตอบโจทย์ด้านอารมณ์
Social ตอบโจทย์ด้านสังคม
Product ที่ตอบโจทย์งานของลูกค้าอาจเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ตัวงานนั้นแทบไม่ค่อยเปลี่ยน
.
วิธีหา Jobs To Be Done
คือคุยกับลูกค้า เพื่อหา
1. งานหรือปัญหาที่ลูกค้าต้องการหลีกเลี่ยง แต่ไม่มีตัวเลือกในปัจจุบันเลย
2. งานที่ลูกค้า ใช้ตัวเลือกที่มี แต่ไม่แฮปปี้
3. ลูกค้าเอา Product ไปใช้ตอบโจทย์งานอื่น ที่ไม่คาดคิด
(เทคนิคสัมภาษณ์ลูกค้าเพื่อให้ได้ Insight เหล่านี้ ผมได้เขียนไว้ในโพสก่อนๆ)
โดยยังไม่ต้องคิด ไม่ต้องสนใจว่า Product หรือไอเดียจะเป็นยังไง
ขอแค่เข้าใจ งานที่ลูกค้าต้องการ ก่อน
หลังสัมภาษณ์ลูกค้าเสร็จ เจอและเข้าใจปัญหาที่ต้องการจะแก้
ก่อนที่จะเริ่มคิดไอเดีย หา solution
สิ่งที่คุณควรทำคือ
เขียน Jobs To Be Done
ออกมา
.
วิธีเขียน Jobs To Be Done Statement
1. ระบุ กลุ่มเป้าหมาย
2. ระบุ งานที่กลุ่มเป้าหมาย ต้องการให้ทำ
3. ระบุ ว่า ทำไม พวกเขาถึงต้องการให้ทำ
4. ระบุ สถานการณ์ของงานว่า ที่ไหน เมื่อไร
5. ระบุ ผลลัพธ์ ถ้างานนั้นสำเร็จ
6. เขียน Problem Statement ออกมาว่า
ในฐานะที่เป็น (กลุ่มเป้าหมาย), ฉันต้องการที่จะ (งาน) เพื่อที่ว่า (ผลลัพธ์) เพราะว่า (ทำไม)
ตัวอย่าง
ในฐานะคนขับรถไปทำงาน
ฉันต้องการสิ่งที่ทำให้ไม่เบื่อและอิ่มตอนขับรถไปทำงานโดยที่ใช้มือเดียวและไม่เลอะมือ
เพื่อให้ไปถึงที่ทำงานแล้วไม่หงุดหงิด พร้อมทำงาน
เพราะการขับรถคนเดียวเจอรถติดทุกวันนั้นน่าเบื่อมาก
พอคุณเขียน Problem statement ออกมาได้
มันจะช่วยเฟรมปัญหา ให้คุณโฟกัสที่ไปปัญหาและงานที่ลูกค้าต้องการให้คุณทำ
เพื่อให้คุณคิดไอเดียได้กว้างและตรงจุด
.
ถ้าชอบ content การทำของใหม่ หาไอเดีย ทดสอบไอเดีย ทำ new tech product
ฝากกด Like กด Share ด้วยนะครับ
จะได้ไม่พลาดคอนเทนท์ที่ตั้งใจเขียนทุกวัน
ใครมีอะไรอยากพูดคุย สอบถาม, message มาได้เลยครับ
ขอบคุณครับ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
