1 ธ.ค. 2022 เวลา 13:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กนง. ขึ้นดอกเบี้ย และดอกเบี้ยอาจจะขึ้นโดยไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ย
1
คณะกรรมการนโยบายการเงิน ตัดสินโดยเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ไปตามคาด และประเมินว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นอย่างต่อเนื่อง เงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและน่าจะทยอยปรับลดลง แต่ก็ยังมีแรงกดดันและความเสี่ยงที่อาจจะไม่ปรับเข้าเป้า 1-3% จนถึงปี 2024
ดอกเบี้ยยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง...
ด้วยแรงกดดันเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ และธนาคารกลางอื่นก็ยังขึ้นดอกเบี้ยกันยังไม่สุด เชื่อได้เลยว่าแบงก์ชาติยังต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปเรื่อยๆ ในการประชุมทุกครั้ง ผมเชื่อว่าอย่างน้อยเราอาจจะต้องเห็นดอกเบี้ยนโยบายขึ้นไปเกิน 2% ในช่วงกลางปีหน้า แม้ว่าเฟดอาจจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยไปตั้งแต่ต้นปี
ยกเว้น ว่าเงินเฟ้อไทยจะร่วงเร็วกว่าคาด หรือมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะหดตัวเร็วกว่าคาด
ขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ย…
แบงก์ชาติยังยืนยันด้วยว่าเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวแล้ว ความจำเป็นที่ต้องใช้มาตรการพิเศษจะมีลดลง เช่น ที่ผ่านมามีการประกาศไม่ต่ออายุมาตรการ LTV อีกมาตรการที่สำคัญคือการลดเงินนำส่งกองทุนฟื้นฟู ที่ลดลงมาจาก 46 bps เหลือ 23 bps
แบงก์ชาติบอกว่ามาตรการนี้ คงหมดอายุในสิ้นปีนี้ และต้องมีการปรับอัตราเงินนำส่งนี้กลับขึ้นไป 46 bps ในเดือนมกราคมนี้แน่ๆ
ทบทวนกันนิดนึงครับว่า “เงินนำส่ง” นี้คืออะไร แต่เดิม เงินนำส่งนี้เก็บจากฐานเงินฝากของธนาคารเพื่อสมทบสถาบันประกันเงินฝาก เพื่อการสะสมเงินกองทุนไว้ในกรณีที่มีธนาคารโดนปิด จะได้มีเงินชดเชยความเสียหายโดยไม่ต้องไปรบกวนเงินงบประมาณของรัฐ
แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นการนำส่งเพื่อชดเชยหนี้กองทุนฟื้นฟูที่เกิดจากการชดเชยความเสียหายจากวิกฤตการเงินปี 40 และลดสัดส่วนที่ส่งให้สถาบันประกันเงินฝาก
หรือพูดง่ายๆคือการ “เก็บภาษี” ผู้ฝากเงินในปัจจุบัน ไปจ่ายคือความเสียหายที่เกิดขึ้นในอดีต
1
และเก็บจากเงินฝากและเงินกู้ยืมของธนาคารเกือบทุกประเภท
ช่วงโควิด มีการปรับลดลงมาเพื่อลดต้นทุนทางการเงินของธนาคาร เพื่อให้ธนาคารช่วยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ในช่วงนั่น
ตอนนี้เงินนำส่งนี้กำลังจะปรับเพิ่มขึ้น แปลว่าต้นทุนทางการเงินของธนาคารจะเพิ่มขึ้นทันที และเพิ่มขึ้นจากแหล่งเงินทุนทุกประเภท (ไม่เหมือนกับการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก ที่อาจจะไม่ได้ปรับขึ้นในทันที เพราะต้องรอเงินฝากครบอายุก่อน และอาจจะขึันไม่เท่ากับในแต่ละประเภทเงินฝาก)
แน่นอนว่าธนาคารพาณิชย์ก็คงต้องส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นนี้ผ่านไปยังดอกเบี้ยเงินกู้แน่ๆ
ถ้าแบงก์ชาติปรับเงินนำส่งนี้อย่างที่ว่า เราอาจจะเห็นอัตราดอกเบี้ยกู้ของธนาคารพาณิชย์ปรับเพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม แม้ว่าดอกเบี้ยนโยบายและดอกเบี้ยเงินฝากอาจจะไม่ได้ขยับขึ้นก็ตาม
เราจึงน่าจะเห็นแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า บริการจัดการความเสี่ยงและการลงทุนกันดีๆ ครับ
#MacroTalk
โฆษณา