1 ธ.ค. 2022 เวลา 17:19 • ไลฟ์สไตล์
i) สมบัตินำ้แข็ง”
จากโอวาทของท่านหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
“ที่แกทำ ๆ ไปน่ะ มันสูญเปล่า ชีวิตจะมีค่าก็ตอนไหว้พระ สวดมนต์ ภาวนาเท่านั้น
เงินทอง ทรัพย์สมบัติที่หากันมาก็แค่ "หาอยู่ หากิน" เลี้ยงอัตภาพร่างกายเท่านั้น พอหมดลมแล้วก็หมดกัน เอาติดตัวไปไม่ได้ ไม่เหมือนการภาวนาเพื่อพัฒนายกระดับจิตใจให้มันกินลึกไปข้างในและเอาติดตัวข้ามภพข้ามชาติไปได้
สมบัติทางโลก จะมากมายและวิจิตรประณีตขนาดไหน มันก็เป็นแค่ "สมบัติน้ำแข็ง" อยู่ดีเพราะมันจะค่อยๆ ละลายไปๆ
เรากำมันไว้ได้แค่ชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น”
หลวงปู่เคยเล่าว่า
"เด็กทารกทั่วไปเกิดมาก็กำมือมา บ่งบอกการเกิดมาพร้อมกับความยึดมั่นถือมั่น"
พวกเราลองพิจารณาดูเถิด สุดท้ายตอนตายทุกคนก็ต้องแบมือหมด แม้น้ำที่คนเขามารดน้ำศพก็ยังกำเอาไว้
ไม่อยู่เลย
อาหารที่สุดแสนประณีตก็ได้แค่อิ่ม บ้านที่เป็นดุจคฤหาสน์ก็แค่ที่พักอาศัยหลับนอนไปคืนหนึ่งๆ มนุษย์สร้างสมมุติที่ซับซ้อนหรอกตัวเองเสียจนหลงลืมความจริงพื้นฐานของชีวิต”
"สมบัติน้ำแข็ง"
คือข้อที่ควรคิดคำนึงเพื่อเตือนจิตเตือนใจตนเองไว้เสมอ ๆ เพื่อให้ตระหนักว่ากิจกรรมชีวิตอันใดที่เราควรทุ่มเท กิจกรรมชีวิตอันใดที่ทำเพียงแค่พอเป็นเครื่องอาศัย
ii) อย่าไป “บ้ากับชีวิต” ให้มาก
เพราะมันเป็น “สิ่งสมมุติ”
เพราะชีวิตมันไม่มีจริง มันเป็นเพียง
“การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ”
จงทำหน้าที่ให้ดี โดยไม่มีความทุกข์
ให้สงบ เย็น และ เป็นประโยชน์
เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง เราต้อง
คืนให้ “กลับสู่ธรรมชาติ” ดังเดิม
แม้แต่ร่างกายที่เราเฝ้าดูแลก็ตาม”
โดย
ท่านพุทธทาสภิกขุ
โฆษณา