อีกเรื่องที่ผู้ใช้งาน Crypto Wallet ต้องทำความรู้จักคือ Public Key และ Private Key ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเป็นกุญแจเข้ารหัสการใช้งานเพื่อโอนหรือทำธุรกรรมต่างๆเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยส่วนที่เป็น Public Key คือกุญแจที่เราสามารถเผยแพร่ให้คนอื่นเพื่อที่จะสามารถทำธุรกรรมการโอนระหว่างกันได้จะทำหน้าที่เหมือนเป็นบัญชีธนาคารนั่นเอง โดยรหัสที่ถูกเจนขึ้นมาอาจจะเป็นตัวอักษรและตัวเลขจำนวนหลายหลักแต่ทั่วไปแล้วจะสามารถ Copy และ Paste ระหว่างแพลตฟอร์มได้
สำหรับ Private Key ตรงนี้คือกุญแจหลักที่จะสามารถเข้าสู่กระเป๋าเงินดิจิทัลของเราจึงต้องปกปิดเป็นความลับไม่เช่นนั้นอาจจะถูกโจรกรรมได้ โดย Private Key จะถูกจัดมาในรูปแบบที่เรียกว่า Seed Phrase ซึ่งจะมีคำศัพท์อยู่ด้วยกัน 16 คำ เช่น dog apple egg rain smile big eye friend you king boy love
ส่วน Non Custodial Wallet จะเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบที่ผู้ใช้งานต้องจัดการดูแลสินทรัพย์ต่างๆและทำธุรกรรมด้วยตัวเอง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญของการใช้งาน Web3 โดยจะต้องทำการเชื่อมต่อ Wallet ของเรากับทางแพลตฟอร์มเพื่อใช้งานและสามารถถอนสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าออกได้ด้วยตัวเองตลอดเวลาและยังใช้เสมือนเป็นรหัสในการ Log In เข้าใช้งานอีกด้วย
Non Custodial Wallet ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของซอฟท์แวร์ทั้งบน Web Browser ซึ่งสามารถติดตั้งได้เลยอย่างเช่นใน Google Chrome หรือจะเป็นรูปแบบโมบายแอปพลิเคชั่น โดยผู้ให้บริการที่ได้รับความนิยมอย่างเช่น Metamask หรือ Trust Wallet