Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ความทรงจำในหนังสือ
•
ติดตาม
2 ธ.ค. 2022 เวลา 09:01 • หนังสือ
สรุปหนังสือ Psychology of Money ครั้งนี้เป็นโพสต์แรกของผม อยากสรุปให้ละเอียดหน่อย ครั้งหน้ามาทบทวนจะได้เก็บเนื้อหาทั้งหมด สรุปตามเนื้อหาสารบัญแต่ละบทไปเลยนะครับ
การเผยแพร่ความจริง
- โลกนี้มีคนฉลาดที่หมดตัว ภารโรงที่ร่ำรวย
- สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความอดทน => การยืนระยะ => การทบต้น ควบคุมความโลภ
- ผลลัพธ์ทางการเงิน
1. โชค ความพยายาม ความฉลาดส่วนบุคคล
2. เป็นเรื่อง soft skill อารมณ์บริหารจัดการความคิด มากกว่า วิทยาศาสตร์ตรงไปตรงมา
- สุขภาพ + เงิน Balance ให้ได้สุดท้ายไม่มีใครหนีมันได้
- ประวัติศาสตร์ไม่เคยซ้ำรอย แต่พฤติกรรมคนที่ซ้ำรอย
1
1.ไม่มีใครบ้า
- ทุกคนต่างเกิดมาช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เหตุการณ์ที่เจอต่างกัน ไม่มีใครบ้า
- สิ่งที่รู้อาจจะแค่ 0.0000001 % แต่อาจจะคิดว่ารู้หมดแล้ว 80%
- การตัดสินใจของคนผูกติดกับประสบการณ์ในอดีต (ความเต็มใจรับความเสี่ยงอยู่ใรสิ่งที่ได้เจอมาในอดีต)
- ทุกการตัดสินใจของคนอยู่ที่ข้อมูลที่มีช่วงนั้นๆ และเอกลักษณ์ของแต่ละคน แผนความคิดช่วงนั้น
2. โชคและความเสี่ยง
- ไม่มีอะไรดีหรือแย่
- ทุกอย่างมีทั้งโชค รอบตัว ฐานะทางบ้าน การศึกษา เพื่อน เหตุการณ์ต่างๆ
- เวลาล้มแล้วลุกให้ไว
- ความกล้าหาญที่สร้างแรงบันดาลใจ กับ ความสะเพร่างี่เง่า เป็นแค่เส้นบางๆกันระหว่างกัน
- การเรียนรู้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมีความเสี่ยง ควรเรียนรู้จากหลายๆคนมากกว่า focus ที่หลายบุคคล
1
- ความสำเร็จ เป็นครูที่แย่ แต่ความล้มเหลวก็เป็นครูที่น่ารังเกียจ เพราะมันทำให้คนฉลาดคิดว่าการตัดสินใจเขาเป็นสิ่งที่แย่ แต่แท้ที่จริงเป็นเรื่องความเสี่ยง
- เคล็ดลับรับมือความล้มเหลว เตรียมความพร้อมทางการเงินในการลงทุนที่แย่ และพลาดเป้าหมายทางการเงินไม่สามารถเขี่ยคุณได้ อยู่ในเกมจนในนานแล้วจะได้โอกาสครั้งใหญ่ ยืนระยะให้ได้
- ให้อภัยตัวเอง
3. ไม่เคยพอ
- มีคนรวยหลายคน หมดตัวตอนหลัง เพราะความไม่รู้จัก “พอ”
ข้อคิดเตือนสติของคนรวยที่หมดตัวตอนหลัง
1. ทักษะทางการเงินที่ยากที่สุดคือการทำให้เป้าหมายหยุดเคลื่อนที่
2. การเปรียบเทียบทางสังคมคือปัญหา
3. “พอ” นั้นไม่น้อยจนเกินไป
4. มีหลายสิ่งที่ไม่ควรค่าแก่การเสี่ยง ไม่ว่ามันจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากแค่ไหน
- ชื่อเสียงนั้นประเมินค่ามิได้ อิสรภาพและเสรีภาพนั้นประเมินมิได้ ครอบครัวและเพื่อนฝูงนั้นประเมินค่ามิได้ การถูกรักจากคนที่คุณต้องการให้รักนั้นประเมินค่ามิได้ ความสุขนั้นประเมินค่ามิได้ เวลา มิตรภาพ ความพอใจในชีวิต ความรู้ ประเมินค่ามิได้
4. การทบต้นที่ทำให้งงงวย
- การทบต้นเหมือนยุคน้ำแข็ง คุณไม่จำเป็นต้องสร้างผลลัพธ์มหาศาลเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่
- การเริ่มต้นเล็กๆก็สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่ามหัศจรรย์
- บัฟเฟต ใช้การทบต้น กับ เวลานานพอ ทำให้เงินงอกเงยทบต้นขึ้นมา
- การทบต้นจะขัดต่อสัญชาตญาณของคน ทำให้เราละเลยมันไป แม้แต่คนฉลาด
5. ได้มาซึ่งความมั่งคั่ง กับ รักษาไว้ซึ่งความมั่งคั่ง
- การลงทุนที่ดีไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องของการตัดสินใจที่ดี แต่มันเป็นเรื่องของการไม่ทำพลาดอย่างต่อเนื่อง
- วิธีทำให้ไปสู่ความมั่งคั่ง คือ ความมัธยัสถ์ และความหวาดระแวง
- มีหลายคนที่ร่ำรวยมั่งคั่งขึ้นมาได้ แต่รักษาความมั่งคั่งไว้ไม่ได้เพราะความโลภ
2
- สิ่งที่สำคัญ คือ การอยู่รอด
- การหาเงินได้นั้น ต้องใช้การแบกรับความเสี่ยง การเป็นคนมองโลกในแง่ดี และการเอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ถูกต้อง
- การเก็บรักษาเงิน ต้องใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตนและความหวาดกลัวว่าสิ่งที่คุณสร้างขึ้นมานั้นจะหายไปเร็วพอๆกันกับตอนที่ได้มันมา ความตระหนี่ และการยอมรับว่ามีบางส่วนที่คุณสร้างมาได้จากโชค
เหตุผลที่ต้องอยู่รอด
1. การทำเงินสองสามครั้งนั้นเยี่ยมมากเสียจนคุณพร้อมที่จะทำลายมันและก้าวขึ้นไปอีกขั้น
2. การทบต้นที่ขัดกับสัญชาตญาณของเรา
คุณค่า 3 สิ่งที่จะนำไปการเอาตัวรอดได้จริง
1. สิ่งที่ฉันต้องการมากว่าผลตอบแทนจำนวนมาก คือ เป็นคนที่ฆ่าไม่ตายทางการเงิน และถ้าฆ่าไม่ตายฉันจะได้รับผลตอบแทนทางการเงินที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เนื่องจากฉันจะสามาระยืนระยะได้มากพอที่การทบต้นจะทำงานได้อย่างน่าอัศจรรย์
2. การวางแผนนั้นสำคัญ แต่แผนที่สำคัญที่สุดของทุกแผนก็คือการวางแผนว่าจะไม่เป็นไปตามแผน
3. บุคลิกภาพที่สมดุลแบบบาร์เบล มองโลกในแง่ดีเรื่องอนาคตแต่วิตกกังวลกับสิ่งที่จะขัดขวางไม่ให้คุณไปถีงอนาคตนั้นสำคัญ
6. หางยาว คุณชนะ 20/80
- คุณตัดสินใจผิดได้ครึ่งหนึ่งและยังคงสามารถสร้างความมั่งคั่งได้
- ในหลายอย่างส่วนที่ไกลที่สุดที่กระจายความเสี่ยงส่วนเล็กๆถ้ารวมกันอาจจะสร้าผลตอบแทนได้ดีกว่าสินทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีที่เรากระจุกเงินลงไป
- อะไรก็ตามที่ยิ่งใหญ่ ทำกำไร มีชื่อเสียง หรือมีอิทธิพล้วนเป็นผลลัพธ์ของเหตุการณ์ปลายหาง
- คำแนะนำ คุณควรจะทำอะไรในตอนนี้ ซื้อตัวไหนดี แต่นั้นไม่ได้มีความสำคัญ เท่ากับ การลงทุนตลอดช่วงชีวิตคุณ
1
7. อิสรภาพ
- การควบคุมเวลาของตัวคุณเองได้ คือเงินปันผลสูงสุดที่เงินจะมอบให้คุณ
- ความมั่งคั่งสูงสุด คือ การตื่นนอนมาทุกๆเช้าแล้วสามารถทำอะไรตามที่ตัวเองต้องการได้ ในเวลาที่ต้องการ ความสามารถในการทำสิ่งที่คุณต้องการได้ กับผู้คนที่คุณต้องการนั้นเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้
- ด้านจิตตกและไม่มีความสุข อย่างเช่นความซึมเศร้า ความวิตกกังวล และโรคจิตเภท ไม่จำเป็นต้องแบ่งคนที่รายได้ ภูมิประเทศ หรือการศึกษา ตัวบ่งชี้ความสุขที่ทรงพลังที่สุดนั้น คือ ความเรียบง่าย
- คุณค่าแท้จริงของเงิน คือ ศักยภาพในการมอบการควบคุมเวลาให้กับคุณ อิสรภาพที่ละเล็กละน้อย และทรัพย์สินที่คุณไม่ได้จ่ายออกไปจะมอบการควบคุมเหนือเวลาได้
- ความมั่งคั่งน้อย หมายถึง ความสามารถในการหยุดงานได้ 2-3 วันโดยที่เงินบัญชีธนาคารคุณไม่หดหายไป
- ความมั่งคั่งที่มากขึ้นอีกหน่อยนั้น คือ ความสามารถในการรอคอยให้ได้งานดีๆผ่านเข้ามาถ้าคุณถูกไล่ออก เงินสำรองฉุกเฉินหกเดือนนั้นหมายถึงการไม่เกรงกลัวต่อเจ้านายหากคุณจำเป็นต้องหางานใหม่ ความสามารถในการรับงานที่ให้ค่าจ้างน้อยกว่าแต่ชั่วโมงการทำงานยืดหยุ่น งานที่ใช้ระยะในการเดินทางน้อยกว่า หรือความสามารถในการรับมือถ้าเกิดเรื่องฉุกเฉิน ความสามารถเกษียณอายุในเวลาที่คุณต้องการแทนที่จะเป็นในเวลาที่คุณจำเป็น
- การใช้เงินซื้อเวลา และทางเลือกนั้นมีประโยชน์ต่อวิถีชีวิตคุณมากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย
- แต่การทำอะไรที่คุณรักในเวลาที่มากเกินไป หรือ คุณกำหนดไม่ได้ บางทีอาจเป็นการทำอะไรบางอย่างที่คุณเกลียดอยู่ เรียกว่า แรงเสียดทาน
8. ความย้อนแย้งของชายในรถยนต์
- มีแค่ตัวคุณเองเท่านั้นที่หลงใหลในสิ่งที่คุณครองครอง
- คนไม่ได้มองมาที่คุณแต่เขามองมาที่รถแล้วเขาก็จินตนาการว่าเขาเป็นเจ้าของรถคันนั้น
- คนต้องการความเคารพและยกย่องจากผู้อื่น สิ่งของอาจไม่ใช่ แต่จริงๆมันคือเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
9. ความมั่งคั่งคือสิ่งที่คุณมองไม่เห็น
- ความร่ำรวยคือสถานะรายได้ในปัจจุบัน ความมั่งคั่งคือรายรับที่ไม่ได้ถูกจ่ายออกไป ความมั่งคั่งคือทางเลือกที่ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้ คุณค่าของมันคือทำให้มีทางเลือก มีความยืดหยุ่น และงอกเงยเพียงพอที่จะทำให้คุณสามารถซื้อของได้มากกว่าวันนี้
10. เก็บออม
- การเก็บออมเป็นสิ่งที่ควบคุมได้
แนวคิดความสำเร็จในโลกการเงิน
1. การสร้างความมั่งคั่งนั้นแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับรายได้หรือผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณ แต่สิ่งที่สำคัญคืออัตราการออมของคุณ การออม ความมัธยัสถ์ส่วนบุคคล
2. ปริมาณความมั่งคั่งนั้นมีความสัมพันธ์กับสิ่งที่คุณอยากได้
3. เมื่อคุณผ่านรายได้มาระดับหนึ่งแล้ว สิ่งที่คุณต้องการก็คือสิ่งที่อยู่ใต้ ego ของคุณ
4.ความสามารถในการออมเงินจึงอยู่ในการควบคุมของพวกเขามากกว่าที่คิด กิเลสจะน้อยลงถ้าคุณสนใจสิ่งที่คนคิดกับคุณน้อยลง
5. และคุณไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลในการออมเงิน
6. ความยืดหยุ่นและความสามารถใรการควบคุมเวลาของคุณคือผลตอบแทนจากความมั่งคั่งที่มองไม่เห็น
7. ผลตอบแทนที่ซ่อนอยู่นั้นกำลังกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากขึ้น โลกนี้ต้องการความยืดหยุ่น ต้องแข่งขันที่สูงจะโน้มเอียงไปที่ทักษะ การสื่อสาร การเห็นอกเห็นใจ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความยืดหยุ่น
11. สมเหตุสมผล > ยึดเหตุผล
- การตั้งเป้าเป็นคนที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลนั้นใช้ได้ผลดีกว่าการพยายามเป็นคนที่ยึดเหตุผลอย่างเย็นชา
- คุณไม่ใช่ตารางเอกสาร เราเป็นมนุษย์ มีอารมณ์ มีความรู้สึก
- ความสมเหตุสมผลจะทำให้เป้าหมายคุณสมจริงมากขึ้น และทำได้จริงในระยะยาว
- กลยุทธ์ที่ทำให้สามารถนอนหลับสนิทตลอดคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่แรก ลดความเสียใจในอนาคตให้มากที่สุด อย่างที่สอง คือ มันโอเค
12. เซอร์ไพรส์
- ประวัติศาสตร์คือการศึกษาความเปลี่ยนแปลงในอดีตน่าขันที่มันถูกใช้เป็นแผนที่เพื่อนำทางไปสู่อนาคต สิ่งที่ทำให้วิบัติคือมันถูกเอามาพยากรณ์อนาคต มันใช้ได้แต่ต้องอิงพฤติกรรมมนุษย์ ไม่ใช่อิงแต่วิทยาศาสตร์
- สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
2 เรื่องที่อันตรายถ้าอิงข้อมูลในดีตเพื่อทำนายอนาคตมากเกินไป
1. คุณอาจมองไม่เห็นเหตุการณ์ผิดปกติที่เป็นตัวการสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลง
2. ประวัติศาสตร์อาจเป็นตัวชี้นำที่ทำให้เข้าใจผิดเรื่องอนาคตเศรษฐกิจและตลาดหุ้น เพราะมันไม่นับรวมโครงสร้างที่เกี่ยวข้องปัจจุบันเข้าไปด้วย
13. เผื่อที่ให้ความผิดพลาด (margin of safety)
- สิ่งที่สำคัญที่สำคัญที่สุดของทุกแผน คือ การวางแผนหากแผนไม่เป็นไปตามแผน
- ความสำคัญของการเงิน คือ การเผื่อพื้นที่ให้กับความผิดพลาด (การถ่อมตัว ยอมรับว่าตัวเองไม่รู้ และไม่สามารถรู้ได้)
กฎการเก็งกำไร
1. เราไม่มีวันรู้อนาคต
2. เก็งกำไรเป็นเรื่องของตัวเลข ความน่าจะเป็น
3. มองการณ์ไกล แสวงหาความยั่งยืน (ยืนระยะ) => ทบต้น
4. ให้ความสำคัญกับกระบวนการ มากกว่า ผลลัพธ์
5. การเก็งกำไร คือ ธุรกิจอย่างหนึ่ง
- กำหนดเป็นช่วงระยะโซนในการขาย การซื้อ เป็นการเผื่อความปลอดภัยอย่างหนึ่ง
- สิ่งที่ทำให้ละเลยความผิดพลาด 1. แนวความคิดที่ใครบางคนต้องรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในอนาคต 2. การทำลายตัวเองเกิดจากหากคุณไม่ลงมือทำอะไรเลยสักอย่างเมื่อคุณเห็นมันกำลังจะกลายเป็นจริง
- การประเมินผลตอบแทนในอนาคตเป็นศิลปะมากกว่าวิทยาศาสตร์
- วิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุความสุขคือการตั้งเป้าหมายให้ต่ำ
- ต้องระวังพลังทวี มันคือปีศาลร้ายที่ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นถ้าเราใช้ผิดจังหวะ
- หลีกเลี่ยงจุดตายของความล้มเหลว
14. คุณจะเปลี่ยนไป
- การวางแผนระยะยาวนั้นยากกว่าที่เห็นเพราะเป้าหมายและความปรารถนาของเราเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
- แต่ละช่วงชีวิตความต้องการเราจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
- ตอนเด็กความันอยากเป็นคนขับรถแทร็กเตอร์พอเป็นแล้วก็รู้ว่ารายได้ไม่พอ จึงไปเป็นทนายพอเป็นทนายก็รู้ว่าเงินมากก็จริงแต่ไม่มีเวลา จึงเปลี่ยนมามีเงินน้อยลงแต่มีเวลาที่ยืดหยุ่นขึ้น พอถึงจุดหนึ่งที่ค่าใช้ไม่พอก็เลือกทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย แต่พอ 70 ขึ้นก็รู้ว่าเงินไม่พอเกษียณ
- การวางแผนอนาคตเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดนั้นคือสิ่งที่อยู่ในรอบตัวคุณ เป้าหมาย ความปรารถนา บุคลิกของคุณ ซึ่งเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ตัวคุณเองก็ไม่รู้ว่าตัวคุณในอนาคตจะต้องการอะไรอีก และน้อยคนนักที่จะรู้
- กฎข้อแรก การทบต้นคืออย่าไปขัดจังหวะมันถ้าไม่จำเป็น แม้แผนการเงิน อาชีพ การลงทุน ค่าใช้จ่าย งบประมาณ
- กฎข้อที่สองทำสิ่งเดิม ๆซ้ำจนกว่าจะสำเร็จการทบต้นจะดำเนินไปอย่างบ้าคลั่ง
- คนหนุ่มสาวหลายคนยอมรับรายได้น้อย และพวกเขามีความสุขกับมันดี อีกกลุ่มใช้ชีวิตหรูหรา รายได้เยอะเขามีความสุขเช่นกัน ทั้งสองกลุ่มมีความเสี่ยง กลุ่มแรกความเสี่ยงเรื่องครอบครัวและกองทุนเพื่อการเกษียณ แต่อีกกลุ่มจะเสียใจว่าใช้ชีวิตหนุ่มสาวไปและสุขภาพไปกับคอกทำงานเล็กๆ
2 สิ่งที่ควรคำนึงถึงถ้าคุณกำลังตัดสินใจระยะยาว
1. เราควรหลีกเลี่ยงแผนการเงินที่สุดโต่งมากจนเกินไป
2. เราควรยอมรับความจริงของการเปลี่ยนใจ
- ผมไม่สนใจต้นทุนจมในอดีตที่จ่ายไปแล้วและไม่สามารถนำกลับมาได้
15. ไม่มีอะไรได้มาฟรี
- ทุกสิ่งทุกอย่างมีราคาของมันแต่ป้ายราคานั้นไม่ได้ปรากฏอยู่ในทุกสิ่ง
- ทุกๆ งานล้วนดูง่ายเมื่อคุณไม่ได้เป็นคนที่กำลังทำมันอยู่
- สิ่งที่ต้องจ่ายไม่ใช่สกุลเงินบาท ดอลล่าร์ แต่มันคือ ความผันผวน ความกลัว ความลังเลสงสัย ความไม่แน่นอน เสียใจสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คุณมองข้ามถ้าคุณไม่ได้เจอกับมันจริงๆ
- ราคาของผลตอบแทนในตลาดคือค่าธรรมเนียม ต้นทุนค่าผ่านทาง และมันเจ็บปวด
- คุณจะยอมรับความผันผวน และการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ให้พยายามหลีกเลี่ยงมัน
- ค่าธรรมเนียมในตลาดเหมือนบัตรผ่านทาง ค่าตั๋วเครื่องบิน หนทางเดียวที่จะรับมือกับความผันผวนและความไม่แน่อนได้อย่างเหมาะสม ไม่ใช่ทุนกับมัน แต่คุณต้องตระหนักว่ามันเป็นค่าผ่านประตูที่คุ้มค่า
1
16. คุณและผม
- จงระวังคำแนะนำทางการเงินจากคนที่เล่นเกมต่างจากคุณ
- สาเหตุที่ฟองสบู่เกิดขึ้นซ้ำๆ เพราะคนที่ความโลภ และความโลภก็เป็นคุณลักษณะที่ไม่สามารถลบล้างออกไปจากธรรมชาติของมนุษย์ได้ มนุษย์จะหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองในข้อมูลเท่าที่มีช่วงนั้น
- นักลงทุนจะรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนคนอื่นอย่างไร้เดียงสา แม้พวกเขาไม่ได้เล่นเกมเดียวกับคุณ แต่แนวคิดที่สำคัญทรัพย์สินนั้นมีราคาที่สมเหตุสมผลเพียงราคาเดียวในโลกในขณะที่นักลงทุนมีเป้าหมายและระยะเวลาลงทุนที่แตกต่างกัน
- กฎเหล็กของเงินนั้นมีอยู่ว่าเงินสามารถไล่ล่าผลตอบแทนไปจนสุดความสามารถของมัน ถ้าทรัพย์สินนั้นยังมี momentum
ฟองสบู่นั้นเกิดจากการที่นักลงทุนระยะยาวเปลี่ยนมาลงทุนระยะสั้นเพื่อเก็งกำไร
17. ความเย้ายวนของการมองโลกในแง่ร้าย
- การมองโลกในแง่ดีนั้นฟังดูเหมือนเป็นการเสนอขาย การมองโลกในแง่ร้ายฟังดูคล้ายใครบางคนกำลังพยายมช่วยคุณ
- ผมไม่ได้เป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่ผมเป็นคนเชื่ออย่างจริงจังในความเป็นไปได้
- ไม่มีใครบ้า
สาเหตุที่การมองโลกในแง่ร้ายดีกว่าการมองโลกในแง่ดี
1. สิ่งแรกก็คือ เงินนั้นอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ฉะนั้น เวลาที่เกิเรื่องบางอย่างที่เลวร้ายขึ้น มันก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อทุก ๆ คนและดึงความสนใจของทุก ๆ คนเข้ามา
2. ผู้มองโลกในแง่ร้ายมักจะคาดการณ์แนวโน้มปัจจุบันโดยไม่ได้คำนึงเรื่องความสามารถในการปรับตัวของตลาด
3. กระบวนการนั้นเกิดขึ้นข้าเกินกว่าที่จะสังเกตเห็นแต่ความพ่ายแพ้นั้นเกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าที่จะเพิกเฉย
18. เวลาที่คุณเชื่อเรื่องใดก็ตาม
- เรื่องแต่งล่อใจและทำไมเรื่องเล่าจึงมีพลังมากกว่าสถิติ
- ในระดับบุคคลมีสองสิ่่งที่ต้องระลึกเอาไว้เสมอเกี่ยวกับเรื่องเล่าขับเคลื่อนโลกในเวลาที่บริหารจัดการเงิน
1. ยิ่งคุณต้องการให้อะไรบางอย่างเป็นจริงมากเท่าไหร่ คุณก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อเรื่องเล่าที่ประเมินโอกาสของการเกิดสิ่งนั้นไว้สูงเกินไปมากขึ้นเท่านั้น ในเวลาที่คนฉลาดต้องการหาวิธีแก้ไขอะไรมั้งจะเชื่อเรื่องเล่าและวางเดิมพันที่สูงขึ้น ยิ่งมีเวลาจำกัดด้วยแล้ว
2. ไม่มีใครที่จะสามารถมองโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกมุมมองแต่เราสร้างเรื่องเล่าขึ้นมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้น
19. เอาเรื่องทั้งหมดมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน
- ผมไม่สามารถบอกคุณได้คุณควรทำอะไรกับเงินของคุณเพราะผมไม่ได้รู้จักคุณ ผมไม่รู้คุณต้องการอะไร คุณต้องการมันเมื่อไหร่ และทำไมคุณถึงต้องการมัน
แนวคิดจากทั้งหมด
1. พยายามค้นหาความถ่อมตัวในเวลาที่สิ่งต่าง ๆ เป็นไปตามที่คุณคิดและค้นหาการให้อภัยและความเห็นอกเห็นใจในเวลาทิ่ส่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด
2. ego น้อย ความมั่งคั่งเพิ่ม
3. บริหารจัดการเงินของคุณในแบบที่จะทำให้คุณนอนหลับสนิทได้ตลอดคืน
4. ถ้าหากว่าคุณต้องการเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้น สิ่งที่มีพลังมากที่สุดสิ่งเดียวที่คุณทำได้คือการเพิ่มระยะเวลาการลงทุนของคุณ
5. เป็นคนที่โอเค กับสิ่งจ่าง ๆ ที่ไม่เป็นไปตามที่คิด คุณสามารถที่จะทำผิดได้ครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด แต่ยังคงสามารถสร้างความมั่งคั่งได้ เพราะสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ จะนำมาสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่
6. ใช้เงินเพื่อควบคุมเวลาของคุณ
7. เป็นคนที่ดีขึ้นและหรูหราน้อยลง
8. ออมเงินเพื่อออมเงิน คุณไม่จำเป็นจะต้องหาเหตุผลเฉพาะให้กับการออมเงิน
9. หาต้นทุนของความสำเร็จให้เจอแล้ะตรียมพร้อมที่จ่ายมัน
10. ยกย่องบูชาพื้นที่เผื่อความผิดพลาด
11. หลีกเลี่ยงการตัดสินใจทางการเงินแบบสุดโต่ง
12. คุณควรที่จะขอบความเสี่ยงเนื่องจากมันจะจ่ายผลตอบแทนให้คุณเมื่อเวลาผ่านไป
13. กำหนดเกมที่คุณกำลังเล่นอยู่
14. เคารพความยุ่งเหยิง
การเงิน
หนังสือ
การลงทุน
13 บันทึก
10
10
13
10
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย