3 ธ.ค. 2022 เวลา 03:30 • ข่าวรอบโลก
"ยุโรปไม่แข็งแกร่งพอจะปกป้องตัวเองได้ โดยปราศจากสหรัฐฯ"
1
นี่คือส่วนหนึ่งในคำกล่าวของซานา มาริน นายกรัฐมนตรีหญิงฟินแลนด์ ในระหว่างการเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการของเธอ
1
มาริน พูดถึงสถานการณ์ที่เชื่อมโยงกับสงครามในตอนนี้ว่า เดิมทียุโรปเคยใช้นโยบายสมานมิตรกับรัสเซียด้วยการทำการค้าด้านพลังงานร่วมกัน
โดยผู้นำยุโรปในอดีตหลายคนต่างคิดว่า นี่คือแนวทางที่จะลดความขัดแย้งและหลีกเลี่ยงสงครามกับรัสเซียในอนาคตไดั
ซึ่งมันถูกพิสูจน์แล้วว่า"ไม่จริง"
อีกทั้งการหันไปทำการค้ากับรัสเซีย ทำให้ประเทศในยุโรปลดสัดส่วนงบประมาณด้านกลาโหมลง เพราะเห็นว่าไม่จำเป็น
เมื่อเกิดสงครามยูเครน ประเทศในยุโรปต่างต้องส่งอาวุธในคลังของตน ไปสนับสนุนจนทำให้ขีดความสามารถการป้องกันตนเองของยุโรปลดต่ำลง
ดังนั้นจึงมองได้ว่า ขณะนี้ยุโรปไม่อยู่ในสถานะที่จะคุ้มครองตัวเองได้อย่างแข็งแกร่งอีกแล้ว
หากเราปราศจากความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ
2
สหรัฐฯ คือผู้สนับสนุนทั้งอาวุธ ยุทโธปกรณ์และเงินทุนเป็นอันดับหนึ่งแก่ยูเครน ตามมาด้วยสหภาพยุโรปเป็นอันดับที่สอง และสหราชอาณาจักรเป็นอันดับที่สาม
2
จริงแล้ว ขีดความสามารถด้านป้องกันตนเองของยุโรปเคยถูกตำหนิมาแล้วครั้งหนึ่ง ในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่ายุโรปให้สัดส่วนงบประมาณด้านกลาโหมต่ำเกินไป และทำให้ยุโรปตกอยู่ในความเสี่ยง
คำกล่าวของซานนา มาริน กำลังสะท้อนว่า ยุโรปคงต้องว่าไงว่ากันกับสหรัฐฯ ไปอีกพักใหญ่
ตราบใดที่ภัยคุกคามทางการทหารยังคงคุกรุ่นอยู่ใกล้บ้านเช่นนี้ และยุโรปก็อ่อนแอเกินไป
ติดตามอ่านบทความได้ที่
โฆษณา