4 ธ.ค. 2022 เวลา 04:14 • การเกษตร
หยุดใส่ไคล้ให้วัชพืชเป็นตัวร้าย เพราะผลการศึกษาล่าสุด นี่แหละพระเอกตัวจริงที่ช่วยเพิ่มผลผลิตมะม่วงแบบเห็น ๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างไม้ผลกับแมลงผสมเกสรดอกไม้นั้น เปรียบไปก็เหมือนความสัมพันธ์ของมนุษย์ อยู่ ๆ กันไป มันก็ต้องหมั่นคอยเติมไฟรัก ไฟสปาร์ค ให้ยังเป็นที่ต้องการของอีกฝั่งหนึ่งให้ได้เรื่อย ๆ ไม้ผลเองก็เช่นกัน ที่ลำพังอยู่เขียว ๆ ใบครึ้ม ๆ แค่นั้น อาจจะยังไม่พอที่จะดึงดูดให้นักผสมเกสรดอกไม้อยากมาแอ่ว มาช่วยขยายพันธุ์ได้ ถ้าอย่างนั้น มันจะทำยังไงได้น้าาา
ไม้ผลน่ะไม่ได้คิดหรอก แต่เป็นมนุษย์นั่นแหละค่ะที่คิด 555
และมนุษย์คนที่ว่าก็คือ Blaire Kleiman จาก สถาบันสิ่งแวดล้อม FIU ที่ให้บังเอิญค้นพบความลับของการเพิ่มเสน่ห์ของไม้ผล ให้แมลงอยากเข้าหา ด้วยคำตอบที่ชาวไร่ชาวสวนอาจจะบ่นเบา ๆ ว่า “เลอะเทอะ” นั่นเพราะคำตอบที่แบลร์ได้มานั้นคือ “วัชพืช” ค่ะ
เพราะแต่ไหนแต่ไร เรามักจะคุ้นชินกับความเชื่อที่ว่า วัชพืชเป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการ เจอเมื่อไหร่ต้องกำจัดให้หมดอย่าให้เหลือ แต่ผลการศึกษาล่าสุด อาจทำให้เราต้องอัพเดทข้อมูลกันใหม่แล้วล่ะค่ะ เพราะแม้ว่าไม้รก ๆ เหล่านี้จะดูไม่เป็นที่ต้องการของมนุษย์ ทว่า มันดูมีมนต์เสน่ห์ดึงดูดผึ้งและผีเสื้อได้เป็นอย่างดี ผลพิสูจน์คือ การเพิ่มขึ้นของปริมาณผลไม้ประเภทหนึ่งที่เป็นที่นิยมในภูมิภาคเขตนั้น ซึ่งก็คือมะม่วงนั่นเอง
แบลร์อธิบายว่า “วัชพืชเนี่ย จริง ๆ แล้วมีประโยชน์มากเลยนะ คือแทนที่จะมองว่า มันดูรก ดูสกปรก และไม่ควรอยู่ในพื้นที่ อยากให้มองในอีกแง่ว่า หากการมีอยู่ของมัน ไม่ได้ทำร้ายพืชผลและต้นไม้ที่เราปลูก ก็ปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้นไปเถอะนะ”
เรียกว่าเป็นความเรื่องมากของพวกไม้ผลก็ได้ เพราะมันไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยตัวเอง แต่จำเป็นต้องพึ่งพิงเหล่าแมลงนักผสมเกสรดอกไม้ ซึ่งมีผลโดยตรงในการช่วยเพิ่มทั้งปริมาณและขนาดของผลผลิตถึง 70% แต่ปัญหาที่สำคัญคือ ถ้าผึ้งหรือแมลงเหล่านี้ ไม่มา ก็ไม่มีประโยชน์นะจ๊ะ
เพราะปัญหาข้อนึงในทุกวันนี้คือการมาเยือนที่น้อยลงเรื่อย ๆ ของเหล่าแมลงที่จำเป็น ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ตัวเลขเหล่านี้ลดลงอย่างต่อเนื่องและอย่างมีนัยยะ ซึ่งก็หมายถึง โลกเรามีมะม่วงให้กินน้อยลงเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมาชาวสวนมักเลือกใช้การปลูกพันธุ์ไม้ประเภทเรียกแมลง แบลร์เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า เอ... วัชพืชจะทำหน้าที่อย่างเดียวกันนี้ได้มั้ย
แบลร์จึงได้ทำการทดลองขึ้นโดยแบ่งฟาร์มออกเป็นสองส่วน แปลงแรก เป็นแบบสวย ๆ ไร้วัชพืช ส่วนแปลงที่สองเต็มไปด้วยวัชพืช ปรากฏว่า น้องแมลง ๆ ทั้งหลาย เลือกบินไปแปลงที่มีวัชพืชมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ข้อพิสูจน์คือปริมาณผลมะม่วงระหว่าง 2 แปลงนั้น ต่างกันอย่างมากมาย โดยแปลงที่ไม่มีวัชพืชนั้น ให้ผลผลิตในราว 38 - 48 ผล ในขณะที่แปลงที่ลงวัชพืช กลับสร้างผลผลิตได้สูงถึง 100 - 236 ผลเลยทีเดียว
แบลร์ระบุว่า แม้การทดลองนี้จะถูกทำขึ้นกับเพียงต้นมะม่วงเพียงอย่างเดียว แต่ 80% ของต้นไม้ซึ่งรวมถึงไม้ผลและพืชผักสวนครัว อย่าง มะเขือเทศ มะเขือม่วง นั้น ก็มีแนวโน้มจะให้ผลการทดลองที่ไม่ต่างกัน ซึ่งแบลร์ก็หวังว่า ผลการทดลองนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อชาวไร่ชาวสวนในการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา รวมถึงลดการใช้เคมีในกระบวนการผลิตลงด้วย
ติดตามทุกความเป็นไปสิ่งแวดล้อม ได้ที่
โฆษณา