5 ธ.ค. 2022 เวลา 08:00 • การ์ตูน
“โนฮาระ ฮิโรชิ” พ่อชินจัง ผู้ชายเท้าเหม็นที่สุดในโลกที่แม่บ้านญี่ปุ่นบอกว่านี่แหละ คือ สามีในฝัน!
‘คุณพ่อสุดเท้าเหม็น ขี้เมา ขี้หลี แต่สู้งานเพื่อครอบครัว และใส่ใจลูกเท่าที่จะทำได้’ ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้ “โนฮาระ ฮิโรชิ” จากเรื่องชินจังจอมแก่นกลายเป็นสุดยอดคุณพ่อในดวงใจที่คนญี่ปุ่นยกย่อง
“โนฮาระ ฮิโรชิ” พ่อชินจัง ผู้ชายเท้าเหม็นที่สุดในโลกที่แม่บ้านญี่ปุ่นบอกว่านี่แหละ คือ สามีในฝัน!
‘ชินจัง’ เป็นมังงะและการ์ตูนในดวงใจของเด็กยุค 90 สไตล์ไลฟ์สตอรี่เล่าเรื่องชีวิตประจำวันของครอบครัวญี่ปุ่นครอบครัวหนึ่ง แม้จะเป็นการเล่าเรื่องง่ายๆ ไม่มีความหวือหวา หรือจุดพีคเหมือนการ์ตูนเรื่องอื่นๆ แต่ชินจังยังคงครองใจเด็กและผู้ใหญ่จนถึงปัจจุบัน
ตัวละครหลักๆ ของเรื่องชินจัง คือ “ครอบครัวโนฮาระ” ประกอบไปด้วย ฮิโรชิ พ่อและหัวหน้าครอบครัว มิซาเอะ แม่ผู้ที่ดูแลบ้าน ชินโนะสุเกะ ลูกชายคนโตวัย 5 ขวบ และฮิมาวาริลูกสาวคนสุดท้องวัยเตาะแตะ พร้อมกับเหล่าเพื่อนบ้าน และเพื่อนที่โรงเรียน ทุกตัวละครล้วนมีบทบาทชัดเจน และมีหน้าที่ความสำคัญต่างกันออกไป แต่ตัวละครหนึ่งที่สร้างประทับใจไม่รู้ลืม คือ ”ฮิโรชิ” ชายผู้ที่แม่บ้านญี่ปุ่นบอกว่านี่แหละ คือ สามีในฝัน!
👾ก็แค่ผู้ชายวัย 35 ที่ลูกชายชอบเรียกว่า ‘ตาลุงไม่เอาอ่าว!’
แม้ว่าในเรื่อง ชินจังจะชอบเรียกพ่อว่า ‘ตาลุง’ หรือ ‘พนักงานบริษัทวัยกลางคนที่ต้องผ่อนบ้านไปอีก 32 ปี’ แต่จริงๆ แล้วฮิโรชิยังคงห่างไกลจากคำว่าตาลุง เนื่องจากฮิโรชินั้นเพิ่งอายุแค่ 35 ปีเท่านั้น ถ้านับตามเกณฑ์อายุจริงๆ ก็เป็นช่วงวัยรุ่นตอนปลาย หรือเป็นช่วงวัยกลางคนเท่านั้น
3
ฮิโรชิ เรียนจบมัธยมปลายจากบ้านเกิดจังหวัดอะคิตะ เข้ามาทำงานที่โตเกียวเมื่ออายุ 20 ปี และแต่งงานกับมิซาเอะตอนอายุ 29 ปี เนื้อเรื่อง ณ ปัจจุบันหยุดอายุฮิโรชิอยู่ที่ 35 ปี เป็นผู้ชายใส่สูทที่ออกจากบ้านในตอนเช้า และกลับเข้าบ้านในตอนเย็นหรือค่ำ วันเสาร์อาทิตย์นอนเล่นอยู่บ้าน หรือบางครั้งถูกเรียกตัวไปทำงานในวันหยุด ด้วยภาพลักษณ์นี้เองอาจจะทำให้ลูกชายคนโตมองว่าตาลุงนี่ไม่เอาอ่าว ทำงานไม่เยอะเท่าแม่หรือเมียที่ต้องทำงานบ้านยุ่งตลอดวัน
แต่ถึงอย่างนั้นฮิโรชิก็กลับบ้านมาทานอาหารเย็นกลับครอบครัวทุกวัน ซึ่งวัฒนธรรมของมนุษย์เงินเดือนที่ญี่ปุ่นมีการดื่มหลังเลิกงานที่หนักหน่วงมาก ฮิโรชิก็แค่ผู้ชายวัย 35 ที่สามารถรื่นเริงไปกับสังคมออฟฟิศได้เต็มที่แต่เขากลับเลือกครอบครัวก่อนอย่างแรก
👾 ยอมเท้าเหม็น เพื่อครอบครัว
จริงๆ แล้วฮิโรชิทำตัวไม่เอาอ่าวแค่ตอนอยู่บ้านเท่านั้นแหละ แม้ว่าการ์ตูนเรื่องชินจัง จะมีการปรับบทให้เข้ากับยุคสมัยตลอดเวลา เช่นลายเส้น มุกตลกในเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือการที่ฮิโรชิ ผู้นำครอบครัวต้องทำงานหนัก และเผชิญกับภาวะเครียดเรื่องงานตลอดเวลา ไม่เว้นแม้วันเสาร์-อาทิตย์
ฮิโรชิทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายขายในบริษัทแห่งหนึ่ง มีรายได้ต่อปีประมาณ 6 ล้านเยนถ้าเทียบกับเงินไทยในค่าเงินปัจจุบันก็ประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นรายได้ที่มากกว่าค่าเฉลี่ยของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ที่อยู่ประมาณ 5 ล้านเยนเท่านั้น
ถึงฮิโรชิจะมีรายได้สูงแต่เงินส่วนใหญ่นั้นให้มิซาเอะหรือภรรยาเป็นคนจัดการเงินเดือน ส่วนตัวเองเก็บไว้เพียงประมาณ 30,000 เยนเท่านั้น นอกจากนี้เขามักจะกดดันตัวเองรวมถึงทะเยอทะยานเรื่องงานอยู่เสมอ ดูได้จากบางตอนที่ต้องไปขายสินค้า และปิดดีลในวันเสาร์-อาทิตย์ รวมถึงการเอาใจเจ้านายในบางครั้ง
2
ทั้งหมดที่ฮิโรชิทำคือการตั้งใจเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ด้วยการหาเงินเท่าที่จะทำได้ หารายได้ที่ครอบคลุมถึงการใช้จ่ายในครอบครัว ผ่อนบ้านที่เหลือตั้ง 32 ปี คุณลองคิดถึงสภาพตัวเองอายุ 35 ปี ลูก 2 คน ภรรยา 1 หมา 1 และบ้านอีก 1 หลังที่ต้องรับผิดชอบ ความกดดันในแต่ละวันมันจะถาโถมขนาดไหน
แต่การทำงานหนักของฮิโรชิ ไม่ได้บอกกับคนดูตรงๆ แต่สะท้อนออกมาในภาวะ “เท้าเหม็น” ที่คนทำงานที่ต้องใส่ถุงเท้าเวลานานๆ เข้าใจดีว่ามันอับและเหม็น และแก้ให้หายขาดได้ยากสำหรับคนที่ต้องใส่ถุงเท้า และสูทเต็มยศทำงาน 8 ชั่วโมงเต็มต่อวัน
👾ใส่ใจครอบครัวเท่าที่จะทำได้
ต้องยอมรับว่าการเป็นหัวหน้าครอบครัวด้วยการทำงานหาเงิน หรือให้ภรรยาจัดการเงินในแต่ละเดือนเป็นเรื่องพื้นฐานที่ผู้ชายญี่ปุ่นทุกคนล้วนถูกปลูกฝังมาแต่สิ่งหนึ่งที่ฮิโรชิแตกต่างออกไปคือการเอาใจใส่ครอบครัวแบบที่แสดงออกทั้งทางตรง และทางอ้อม ที่ข้อดีนี้ถูกเปรียบเทียบกับพ่อโนบิตะอย่างเห็นได้ชัดว่า พ่อชินจังเป็นคนที่ใส่ใจครอบครัวแบบที่พ่อ (ในการ์ตูน) คนอื่นไม่ค่อยมี
มีหลายตอนที่เป็นวันหยุดยาวหรือหยุดเสาร์-อาทิตย์ ฮิโรชิจะชวนชินจังทำกิจกรรมด้วยกัน หรือพาครอบครัวไปเที่ยวแบบชนชั้นกลางทั่วไป อาจจะมองว่าเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ไม่ได้สื่อถึงอะไร แต่ในทางตรงข้ามการสละเวลาพักผ่อนอันน้อยนิดเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวก็เป็นสิ่งที่สะท้อนได้ดีว่าผู้นำครอบครัวใส่ใจครอบครัวแค่ไหน
รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมที่ครอบครัวทำ เช่น ชินจังอยากไปตามรอยหน้ากากแอกชั่นฮิโรชิก็พาไป มิซาเอะอยากตั้งแคมป์ฮิโรชิก็ไม่เคยขัด หรือแม้แต่การที่ต้องดุลูกชาย ฮิโรชิมักจะใช้เหตุผลในการคุยแม้ว่าลูกชายจะดื้อสุดๆ ก็ตาม และความรุนแรงในครอบครัวจากฮิโรชินั้นก็แทบไม่เคยเกิดขึ้น (บทบาทดุไปตกอยู่ที่มิซาเอะแทน)
2
นอกจากนี้ช่วงภาวะวิกฤตอย่างเช่น ตอนที่มิซาเอะป่วยหลังเดาะจนต้องนอนโรงพยาบาล ทำให้ฮิโรชิต้องเลี้ยงลูก 2 คน และจัดการงานบ้านไปพร้อมกัน แต่ถึงอย่างนั้นฮิโรชิก็เต็มใจทำอย่างยิ่ง โดยที่ไม่ได้โทรให้คนอื่นช่วย หรือการที่ตัดสินใจเลิกบุหรี่หลังจากที่มิซาเอะท้อง หรือแม้แต่มิซาเอะทำเงินหาย ฮิโรชิก็เลือกที่จะปลอบใจมากกว่าซ้ำเติมกับสิ่งที่เกิดขึ้น
1
โนฮาระ ฮิโรชิก้ยังเป็นคนเทาๆ ที่ฝันถึงสาวสวยแม้ว่าจะมีภรรยาแล้วก็ตาม หรือยังนินทาเจ้านายา หน้าไหว้หลังหลอกในบางตอน แต่ถึงอย่างนั้นการกระทำของฮิโรชิต่อความสัมพันธ์กับครอบครัวมันแน่นแฟ้นจนคนญี่ปุ่นคงให้เป็นพ่อดีเด่น
2
โฆษณา