#นับหนึ่งก็เห็นความจริง
คืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิตจากช้างป่าทำร้ายทุกกรณี หยุดเอาชีวิตคน-ช้างป่าเป็นตัวประกัน เพื่อเลี้ยงไข้ ไม่ยอมแก้ไขปัญหา นี่ไม่ใช่ความรู้สึก แต่มันคือความจริง ความจริงที่แสนเจ็บปวด กลืนไม่ลงคอมันติดอยู่ที่ลูกกระเดือก เป็นก้อนๆเลย
และก็ชัดเจนในคำตอบจากเวทีประชุม กสม.ที่ศาลากลางจังหวัดระยอง ว่า ช้างป่าไม่สามารถอยู่กันได้กับมนุษย์ แต่คำว่าการอยู่ร่วม คือต่างคน ต่างอยู่ ที่มีเส้นแบ่งของระยะความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของทั้งคนและช้างชัดเจน
ความตายของผู้คนแนวป่าตะวันออก หลุดร่วงลงดุจใบไม้ร่วงทั้งคนไทย แรงงานต่างด้าว และกลุ่มแรงงานไร้สังกัด พม่า - กัมพูชา กลุ่มหลังคือปัญหาที่ซ้อนทับปัญหาที่อยู่ในดินแดนช้างป่าตะวันออกแห่งนี้อย่าง
ปฎิเสธต่อความจริงข้อนี้ไม่ได้ นั่นถือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบในเรื่องนี้
ในวันที่ประชากรคนเริ่มลดลง สวนทางประชากรช้างนั่นยิ่งเพิ่มขึ้น หน่วยงานระดับบนปล่อยเกียร์ว่าง ขณะชุดปฎิบัติการระดับปฎิบัติการต้องทำงานกันอย่างหนัก ไม่พอบางท่านถูกอำนาจทางการเมืองโยกย้ายอย่างไร้ความเป็นธรรมเสียอีก เอาหล่ะเดียวค่อยมาว่ากัน
ดูอย่างเมื่อวาน 2/ธ.ค./65 หาตัวผู้ว่าราชการจังหวัด ตัวจริง มานั่งรับฟังปัญหาเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาช้างป่า ทั้ง 8 จังหวัดภาคตะออกแทบไม่เห็น สะท้อนการให้ความสำคัญต่อชีวิตคนนั้นอย่างไร
การส่งตัวแทนระดับการตัดสินใจไม่ได้มาร่วม ดิฉัน ถือเป็นการไม่ให้ความสำคัญต่อการตายที่ชายป่าตะวันออกที่เกิดขึ้นตลอดเวลาและเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ
เวทีนี้ เลยกลายเป็นเวทีมองตาดูท่าทีจากราชการตัวแทนกันตาปริบๆ มีแต่ภาคประชาชนที่ต้องส่งผ่านข้อเสนอด้านกลไกผ่านกสม.ส่งไม้ต่อให้ถึงพ่อเมือง 8 จังหวัด ได้เร่งรีบดำเนินการสร้างกลไกแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว
#เพราะระหว่างการประชุมในรอบวันนั้นมีคนตายจากช้างป่าทำร้ายถึง 2 คน ทั้งชาวไทยและเมียนมาร์ ในวันเดียวกันนี้
#และวันนี้ทราบข่าวว่าชาวบ้านหยิบปืนจะฆ่ากันแล้วจากปัญหาช้างป่า และซ้อนทับไปถึงเรื่องของการเมืองในป่าด้วย..
บันทึก ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดระยอง
โฆษณา