5 ธ.ค. 2022 เวลา 16:23 • นิยาย เรื่องสั้น
into the monster heart
เด็กชายพลัดพรากจากพ่อของเขา ระหว่างเดินทางกลับหมู่บ้านอันห่างไกล เขาหวาดกลัวต่อความหิวโหย อันตราย และความมืดมิดของป่าพงไพรที่เหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด
ในค่ำคืนอันหนาวเหน็บ เด็กชายนั่งกอดเข่าอยู่หลังโขดหินก้อนใหญ่ สายตากวาดไปรอบๆ ตัวอย่างระแวดระวัง
เสียงกิ่งไม้หักดังสนั่นเกิดขึ้นในความเงียบสงัดของป่า เขาหันไปมองหาต้นเสียง หากไม่รู้ได้ว่ามันเกิดขึ้นที่ตรงไหน
เขาหวาดกลัวเกินกว่าจะควบคุมสติที่แตกกระเจิงไปแล้วได้
"นั่นใครน่ะ"
ไม่มีเสียงตอบกลับ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้ว อาจเป็นเพียงสัตว์ป่าตัวเล็กที่บังเอิญเหยียบเข้ากับกิ่งไม้ก็เป็นได้
เมื่อเด็กชายเลิกสนใจ หากเขายังรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจับจ้องอยู่ไม่เลิก
สายตาที่อำพรางอยู่ในเงามืด หรือความหวาดกลัวที่เกิดจากจินตนาการปรุงแต่งให้ฟุ้งซ่าน
"ใครกันที่หลบซ่อนอยู่ตรงนั้น"
เด็กชายค่อยๆ ถอยหลังเมื่อได้เห็นร่างใหญ่โตมหึมาเดินด้วยสองเท้า มีขนสีขาวปกคลุมทั่วร่างกาย ดวงตาสีดำมีความใคร่เห็นใจ คมเขี้ยวยาวโผล่ยื่นออกมาจากปากข่มขวัญให้เด็กชายรู้สึกหวาดกลัวได้ง่ายดาย ขณะกำลังก้าวเท้าออกมาจากความมืดตรงเข้ามาหาเด็กชายอย่างช้าๆ ไม่จู่โจมทำอันตราย
ทว่า ในมือของอสุรกายร่างยักษ์สีขาวปลอดหอบหิ้วผลไม้ป่ามาด้วย เด็กชายที่เห็นเช่นนั้นก็หยุดถอยหนี หากยังไม่กล้าไว้วางใจมากเกินไป เพราะด้วยคมเขี้ยวของมัน
มันวางผลไม้ป่าไว้ตรงหน้าเด็กชาย เมื่อเห็นว่าเขาไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้ มันก็ใช้มือใหญ่ๆ ของมันผลักผลไม้ทั้งหมดให้เข้าไปใกล้เอง โดยที่ตัวมันเองจะไว้ระยะห่างให้เด็กชายรู้สึกปลอดภัย
"ให้ฉันเหรอ"
มันไม่ตอบกลับ ไม่สามารถฟังภาษามนุษย์รู้เรื่องได้นั่นเอง
เด็กชายไม่ได้คำตอบ และหยิบผลไม้ป่าที่ได้รับจากอสุรกายสีขาวขึ้นมากัดกินอย่างหิวโหย
เมื่ออิ่มหมีพีมัน เด็กชายรู้สึกง่วงนอน หากไม่กล้าหลับตาได้ลง เพราะหวาดกลัวคมเขี้ยวที่นั่งจับจ้องด้วยดวงตากลมโตมาที่เขาไม่วางตา
แต่แล้วเด็กชายก็เผลอม่อยหลับไปไม่รู้ตัว เขารู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลและความอบอุ่นที่โอบอุ้มเขาไว้ในคืนอันเหน็บหนาว ขณะกำลังเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ไม่ปลุกให้ตื่นตลอดราตรีกาลอันยาวนานผ่านพ้นไป
เด็กชายตื่นจากนิทราก็ได้รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่เดิมอีกต่อไป แต่กำลังเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ในอ้อมแขนมีขนสีขาวดกหนา
ดวงตาใหญ่โตของมันก้มลงมองเด็กชายที่ตื่นนอนแล้ว ก่อนจะวางเด็กชายยืนบนพื้น
"เราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม"
เด็กชายย่อมไม่ได้คำตอบจากมัน
มันเดินนำหน้าเด็กชายไปต่อ เมื่อเห็นว่าเด็กชายไม่ได้เดินมากับมันด้วย มันจึงหันกลับมาจับจ้องเด็กชาย
เด็กชายจึงเดินตามมันไปอย่างไว้เนื้อเชื่อใจกันในที่สุด
เด็กชายไม่รู้ว่าจะต้องเดินทางไปอีกไกลแค่ไหน ยามเขาหิวมันจะหาที่พักแรมชั่วคราว และออกไปหาผลไม้ป่ากลับมาให้เด็กชาย โดยที่ตัวมันไม่กินอะไรเลย
ทั้งที่เด็กชายยื่นอาหารไปให้มัน มันไม่รับไป
เด็กชายฉงนมิเสื่อมคลาย ว่ามันไม่หิวบ้างหรือไง
ยามเด็กชายเดินทางจนเมื่อยล้า มันจะเป็นดั่งพาหนะให้เด็กชายได้โดยสาร และเขาก็จะผล็อยหลับไปทุกครั้ง
วันคืนที่มีด้วยกัน มันยิ่งทำให้ผูกพันในความรู้สึกที่ดีต่อกันมากขึ้น ไม่มีความโหดร้ายและความน่ากลัวที่เด็กชายจะได้รับจากมันเลย
เด็กชายไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองจะเดินทางกันไปถึงไหน สำหรับเด็กชายต้องการจะมีมันอยู่เคียงข้างไปทุกหนทุกแห่ง
ความกลัวที่เคยมีกลับรู้สึกปลอดภัยจนไม่หวั่นเกรงใดๆ อีกแล้ว
เด็กชายปรารถนาเหลือเกินว่าจะไม่มีวันแยกจากกันไปไหน ในความรู้สึกของมันเองก็คงจะรู้สึกเหมือนกับที่เด็กชายรู้สึกกับมันอย่างไร
แต่มันรู้อยู่แก่ใจเมื่อส่งเด็กชายถึงจุดหมายปลายทางแล้ว มันจะต้องบอกลากับเด็กชายคนนี้ สถานที่แห่งนั้นจะไม่ต้อนรับมัน
พื้นที่ตรงนี้ไม่ปลอดภัย มันรู้สึกได้ถึงผู้ล่าที่ไม่ประสงค์ดี แต่อีกไม่ไกลเท่านั้นเด็กชายก็จะมาถึงจุดหมายปลายทางของเขาแล้ว
"มีอะไรเหรอ"
เด็กชายเอ่ยถามอย่างหวั่นใจ เมื่อเห็นดวงตาล่อกแล่กซ้ายทีขวาทีของมัน
มันปล่อยมือเด็กชาย และผลักให้เด็กชายตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละพยายาม
"จะผลักฉันไปไหน"
มันไม่เลิกผลัก เด็กชายรู้ว่านี่อาจเป็นการจากลา เขามีน้ำตาไหลเมื่อถูกขับไล่รู้สึกอย่างไม่ไยดี
ทันใดนั้นหมาป่าสีดำใหญ่ยักษ์สองตัวก็กระโจนตรงเข้ามาหวังจะทำร้ายคมเขี้ยว มันวาดมือปัดใส่หนึ่งในหมาป่าพวกนั้นที่จะตรงเข้ามาทำร้ายให้กระเด็นออกไปให้พ้น
มันหันกลับมาผลักร่างเด็กชายอีกครั้ง เด็กชายเข้าใจ ขณะยืนกระสับกระส่าย ลังเลเพราะความกลัว แต่ก็ไม่อยากทิ้งคมเขี้ยวให้เผชิญกับหมาป่าพวกนั้นเพียงลำพัง
เมื่อมันไม่ได้ระวังตัวเอง มันก็ถูกหมาป่าตัวหนึ่งกระโจนเข้าทำร้ายจนล้มหงายหลังตึง
หมาป่าตัวนั้นคำรามเสียงดังน่ากลัวใส่เห็นคมเขี้ยวนับไม่ถ้วนที่กำลังจะอ้าเข้าไปงับเด็กชาย
เด็กชายกระโดดหลบถอยหลังจากคมเขี้ยวของหมาป่าตัวนั้นได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะเลือกวิ่งหนีตรงไปยังเนินเขา
หมาป่าตัวนั้นที่เตรียมจะกระโจนไล่ล่า หากถูกรวบหางไว้ และเหวี่ยงไปกระแทกต้นไม้จนหักโค้น
เด็กชายที่หันหลังกลับไปมองเหตุการณ์เบื้องล่าง เขารู้สึกหวาดกลัวเหลือเกินทั้งอยากจะเข้าไปช่วยเหลือมัน ขณะที่มันถูกรุมทำลายจากอีกสองตัวจนสาหัสสากันระหว่างช่วงมะรุมมะตุ้มกันใหญ่
มันได้บาดแผลเหวอะหวะเป็นรอยเล็บข่วน และรอยเขี้ยวฝังตามเนื้อตัวที่เปลี่ยนขนสีขาวของมันให้กลายเป็นสีแดงเป็นบางจุด มันโซซัดโซเซตรงเข้ามาหาเด็กชายหลังจากการต่อสู้ระหว่างพวกมันสิ้นสุดลง
เด็กชายหันขวับไปทางทิศทางของเสียงที่เรียกชื่อของเขา
"พ่อ!"
เด็กชายตะโกนลั่นด้วยความดีใจ
ทว่า พ่อของเด็กชายกลับเล็งปืนลูกซองตรงเข้าหาเด็กชาย แต่เล็งสูงขึ้นไปกว่านั้น
คมเขี้ยวยืนอยู่เคียงข้างเด็กชาย
"ลูกค่อยๆ เดินตรงเข้ามาหาพ่อนะ"
แขนของคมเขี้ยวเตรียมจะคว้าร่างเด็กชายเข้ามาโอบกอดเป็นความอบอุ่นครั้งสุดท้ายที่มันจะมอบให้ก่อนจากลา
เสียงบาดแก้วหูประหนึ่งฟ้าคำรามดังแผดลั่นชั่ววินาทีนั้น ก่อนที่ร่างของคมเขี้ยวจะล้มใส่ร่างเด็กชาย
ติดตามงานเขียนเรื่องสั้นอื่นๆ ได้ที่
โฆษณา