6 ธ.ค. 2022 เวลา 07:48 • การศึกษา
รักต่างวัย เป็นไปได้แค่ไหนกัน…
ความรัก มีทั้งความหลากหลาย และความละเอียดอ่อน แม้ยุคปัจจุบัน ความรักจะก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องเพศ เรื่องขนบต่าง ๆ มีสิทธิเสรีมากเพียงใด แต่ความสมหวัง หรือผิดหวัง ก็ยังมีพื้นฐานสาเหตุไม่ต่างจากเดิมเท่าไร ดังเช่น ความต่างวัยที่อาจเป็นปัจจัยหนึ่งของบางคู่
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า บทความความรักเรื่องนี้ มิได้กำลังสรุปใด ๆ หากคุณกำลังมีหรือคิดจะมีคู่รักที่ต่างวัย ด้วยเราทุกคนไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถคิดแทนใครว่าอะไรดีหรือไม่ เพียงแต่หากว่ากันตามเหตุผล และปัจจัยที่ทำให้ “ส่วนใหญ่” เป็นไป เราแค่ต้องไม่หลอกตัวเองด้วยว่า เราอาจไม่ใช่ผู้โชคดีที่ได้เป็น “ส่วนน้อย”
อนึ่งเป็นเพียงบทความที่แบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ มุมมอง เพื่อให้พิจารณา ไม่ได้นำเสนอแบบที่คิดว่าถูกต้องทั้งหมด เป็นจริงทั้งหมด เพราะยังมีอีกหลายบริบท หลายปัจจัยในชีวิตจริง โดยรวมแล้วต้องการให้เป็น ข้อคิด แง่คิดพิจารณากันต่อไป
แค่ไหนคือ “รักต่างวัย”
รักต่างวัย ก็ต้องเริ่มจากคู่รักที่มีอายุต่างกัน แต่ส่วนใหญ่คู่รักย่อมไม่ได้มีอายุเท่ากันจริง ๆ อยู่แล้ว เพราะอย่างน้อยต้องเกิดคนละวัน คนละเดือน แน่นอนห่างกันไม่ถึงปีคงไม่นับว่าต่างวัย แต่ 1-2 ปี หลายคนก็รู้สึกว่าไม่ได้ต่างอะไร และก็มีที่มองว่า 3-5 ปี ก็ถือว่ากำลังดี ซึ่งคนเราย่อมรู้สึกต่างกันไป ดังนั้นถ้าจะให้เรียกได้ว่า “ต่าง” ย่อมหมายถึงส่งผลให้มีความแตกต่างกันระหว่างคู่นั้น ทั้งประสบการณ์ ความคิด และการใช้ชีวิต…
ในที่นี้จึงมองว่า 3 และ 5 ปีขึ้นไป น่าจะเป็นจุดที่เรียกได้ว่าต่าง
โดยถ้ามองโดยรวมแบบสรุป อายุที่ห่างกัน 5 ปีขึ้นไปถือว่ามากพอที่จะเป็นรักต่างวัย แต่ส่วนหนึ่ง ณ ช่วงที่ยังอายุไม่มากนัก 3 ปีก็ถือว่าเป็นรักต่างวัยได้แล้ว เช่น…
ฝ่ายหนึ่งเป็นนักเรียน ม.ปลาย วัย 18 กับอีกฝ่าย เป็นนักศึกษาปี 3 วัย 21 เพราะทั้งคู่ต่างอยู่ในช่วงชีวิตที่มีเป้าหมายต่างกัน ประสบการณ์และการใช้ชีวิตเริ่มต่างกัน ม.ปลายยังต้องคิดเรื่องเข้ามหาลัยและถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตตอนนั้น ในขณะที่ฝ่ายนักศึกษาผ่านจุดนั้นมาแล้ว กระทั่งอาจไม่ได้เรียนมหาลัยอาจมีชีวิตวัยทำงานไปแล้ว เช่นนี้ ความคิด มุมมองค่อนข้างจะต่างกันอยู่มาก รวมถึง ม.ปลาย ยังต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน ส่วน มหาลัย เริ่มออกมาใช้ชีวิตลำพังแล้ว
หรือ ฝ่ายหนึ่งเป็นนักศึกษาวัย 21 อีกฝ่ายอยู่ในวัยทำงานอายุ 25 ก็ทำให้มีความแตกต่างกัน ด้วยฝ่ายหนึ่งอาจทำงานมาแล้ว 3 ปี พบเจอและต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย แต่อีกฝ่ายยังอยู่ในวัยศึกษา
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้น แต่โดยรวมอาจมองได้ว่า สำหรับคู่รักที่อายุทั้งสองฝ่ายยังไม่ถึง 25 – 30 ปี อายุที่ห่างกัน 3 -4 ปี อาจมีความต่างระหว่างวัยได้ แต่ถ้าต่างฝ่ายเกิน 30 ปีขึ้นไปแล้ว เช่น อายุ 30 กับ 33 ปี หลายสิ่งอย่างต่างผ่านพบกับมาได้มากพอ จนอาจไม่เกิดความต่างมากนัก แต่ถ้าห่างกัน 5 ปี เช่น 35 กับ 30 ย่อมมีมิติของประสบการณ์ ความคิดที่ต่างกันได้อีก
ย้ำอีกทีว่าอายุหรือช่วงอายุไม่ใช่สิ่งตัดสินทั้งหมด เป็นเพียงภาพรวมดังที่บอกไปนี่ไม่ใช่การสรุปเรื่องของทุกคู่ หรือทุกคน
ปัญหารักต่างวัย
จากที่ได้อธิบาย อาจเริ่มเห็นพื้นฐานว่า อะไรอาจทำให้รักต่างวัยเป็นปัญหา? แต่หากมองละเอียดขึ้นอีกหน่อย รวมความแล้วก็คงประกอบด้วย 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ
ประสบการณ์และความคิด : ด้วยประสบการณ์ที่มีมาไม่เท่ากัน มุมมองหลายอย่างย่อมต่างกัน ส่งผลไปยังความคิดจะโดยพื้นฐาน หรือประสบการณ์ก็ตาม โดยอาจไม่สำคัญว่าใครจะมีประสบการณ์มากกว่า หรือความคิดที่ดีกว่า เพราะในคนที่อายุน้อยกว่าแล้วมีความคิดก้าวไกล อาจเป็นฝ่ายผิดหวังในความคาดหวังตรงนี้ก็ได้ และแน่นอนในวัยที่มากกว่า ย่อมประสบปัญหาความคิดที่ยังไร้เดียงสาในบางเรื่องของอีกฝ่ายไม่ยากเลย
การดำเนินชีวิตและเป้าหมาย : รูปแบบการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน คงพอทำให้นึกออกว่าจะส่งผลต่อความวุ่นวายต่อชีวิตรัก ชีวิตคู่ได้ขนาดไหน ซึ่งอาจประกอบกับเป้าหมายชีวิตที่ต่างกันทำให้ความสำคัญต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องที่ยากจะมองเห็นกันในช่วงแรกของการคบหา เพราะในเบื้องต้นจะคิดว่าเข้ากันได้ดี ดูมีความคิดความเชื่อที่คล้ายกัน แต่ ณ จุดหนึ่งก็จะเห็นในความเปลี่ยนแปลงของต่างฝ่าย เมื่อวันที่เป้าหมายแต่ละฝ่ายชัดเจนขึ้น นี่คืออีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความต่างระหว่างวัยไปด้วยกันได้ยาก
การขาดพร่องทางจิตใจ : เป็นส่วนลึกที่สะท้อนจากหลาย ๆ ปัญหา จากที่กล่าวไปแล้วว่า ถ้าคู่รักต่างวัยมีปัญหาทางความคิดหรือการดำเนินชีวิต มันจะแสดงผลได้ชัดเจน ซึ่งหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว แทนที่จะเห็นได้ชัดว่า ไปด้วยกันไม่ได้ กลับมีความดึงดันต้องการในความสัมพันธ์เช่นนั้นมีต่อไป เป็นไปได้ว่า อยู่ในภาวะ ขาดพร่องทางจิตใจ
ความต่างวัยใน LQBTQ+ : เชื่อว่าบางส่วนที่เขียนไป เป็นปัจจัยจากความต่างวัยได้ไม่ต่างกัน แต่ก็อาจมีอีกหลายมิติที่ยอมรับว่า ผู้เขียนมีประสบการณ์ หรือความรู้ไม่มากพอ แต่จากข้อสังเกต ด้วยความสัมพันธ์ที่อยู่บนความเท่าเทียมเป็นพื้นฐาน ดูเหมือนว่าจะได้เปรียบ กล่าวคือ นอกจากมุมมองความคิดที่เกิดขึ้นได้ในทุกคู่แล้ว เรื่องอื่นดูจะเป็นปัญหาน้อยกว่าคู่รักชายหญิง ซึ่งในส่วนนี้ใครมีประสบการณ์ แชร์ หรือแบ่งปันจะยินดียิ่ง
โพสต์โดย " รู้ได้ รู้ดี
เครดิตภาพ : pixabay.com
ข้อมูลจาก : https://sirichaiwatt.com/
โฆษณา