Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bnomics
•
ติดตาม
8 ธ.ค. 2022 เวลา 01:08 • ธุรกิจ
อุตสาหกรรม “ถ่านหินเอเชีย” สรุปภาพรวมในปี 2022 และแนวโน้มในปี 2023
จากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้เกิดวิกฤติพลังงานในหลายพื้นที่ทั่วโลก
โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป ทำให้หลาย ๆ ประเทศ ต้องหันกลับมาใช้พลังงานจากถ่านหินอีกครั้งเพื่อชดเชยกับอุปทานก๊าซของรัสเซียที่ขาดแคลนไป
ในช่วงปีนี้และปีหน้าเราอาจจะได้เห็นหลายประเทศยังคงมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการผลิตถ่านหินให้มากขึ้น
ช่วงที่ผ่านมา สงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้ให้ราคาถ่านหินในเอเชียแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2022 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากยุโรปซึ่งออกมาตรการคว่ำบาตรเชื้อเพลิงของรัสเซีย ทำให้ยุโรปต้องมองหาพลังงานชนิดอื่นมาทดแทน
และถึงแม้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ราคาถ่านหินจะลดลงมาบ้างแล้ว
แต่ราคาในปัจจุบัน ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ 2 ปีที่ผ่านมา
โดยราคาถ่านหินความร้อนในเอเชียคาดว่าจะมีการปรับฐานราคาอีกครั้งในปี 2023
ประเทศอินโดนีเซีย จีน และอินเดียต่างก็ออกมาประกาศเพิ่มกำลังการผลิตที่สูงขึ้นในปี 2023 ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการภายในประเทศที่สูงขึ้น
ราคา FOB ถ่านหินประเภทให้ความร้อน 4,200 kcal/kg แตะระดับสูงสุดประจำปีในวันที่ 10 มีนาคม ที่ราคา 136 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ เมทริกซ์ตัน
ในขณะที่ ราคา FOB Kalimantan 5,000 kcal/kg GAR แตะระดับสูงสุดของปีที่ 190 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ เมทริกซ์ตัน
จากนั้นราคาถ่านหินทั้ง 2 ประเภทก็ลดลง โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 86.50 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ เมทริกซ์ตัน และ 128.65 ดอลลาร์ ต่อ เมทริกซ์ตัน ตามลำดับ จนถึงปัจจุบันในปี 2022
ความต้องการถ่านหินโดยรวมในอินโดนีเซียคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศต่าง ๆ เช่น จีน อินโดนีเซีย และอินเดีย
รวมไปถึงผลกระทบของสงครามจะค่อย ๆ บรรเทาลง
โดยอินเดียและจีนอาจยังคงซื้อถ่านหินของรัสเซียต่อไป
แต่ในขณะเดียวกันก็ขยายกำลังการผลิตในประเทศด้วย
ความต้องการถ่านหินภายในประเทศของอินโดนีเซียจะเพิ่มขึ้น
ในอินโดนีเซีย เหมืองแร่จะมีการเพิ่มกำลังการผลิตถ่านหินให้มากขึ้น
เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจากภาคอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะฟื้นตัว
จากการหารือระหว่างเหมืองถ่านหินของทั้งอินโดนีเซียและรัฐบาล พบว่าเป้าหมายการผลิตในปีหน้าอยู่ที่ 690-700 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย ในปี 2023 ที่663 ล้านตัน
ผู้ผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียคาดว่าราคาในปี 2023 จะยังคงทรงตัวจากปี 2022
โดยมี FOB Kalimantan 4,200 kcal/kg GAR ถ่านหินอยู่ในช่วง 60-70 ดอลลาร์ ต่อ ตัน
การคาดการณ์ความต้องการใช้ถ่านหินจากภาคการผลิตไฟฟ้าของอินโดนีเซียอยู่ที่ 161.15 ล้านตันในปี 2023 เพิ่มขึ้นจากประมาณการ 127.5 ล้านตันในปี 2022 ที่ได้ทำการคาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม 2021
ซึ่งความต้องการใช้ไฟฟ้าของรัฐคาดว่าจะอยู่ที่ 81 ล้านตัน
นอกจากนี้ความต้องการจากอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และปุ๋ยของประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ถึงแม้จะมีกระแสการหันมาใช้พลังงานสะอาดได้สักระยะหนึ่งแล้ว
แต่ถ่านหินยังเป็นหนึ่งในเชื้อเพลิงที่ถูกที่สุด และอินโดนีเซียจะยังคงใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลัก
การผลิตถ่านหินของอินโดนีเซียมีจำนวนทั้งสิ้น 515 ล้านตัน และการส่งออกรวม 429 ล้านตัน ในปี 2018 จากนั้นการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 545 ล้านตัน ขณะที่การส่งออกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 453 ล้านตัน ในปี 2019
โดย IEA (International Energy Agency) คาดว่าความต้องการถ่านหินของอินเดียจะเติบโตมากกว่าความต้องการถ่านหินของประเทศอื่นๆ โดยสิ้นเชิงจนถึงปี 2024
จีน และ อินเดีย ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตถ่านหิน
ในเดือนเมษายน จีนประกาศว่าจะเพิ่มการผลิตถ่านหิน 300 ล้านตันในปีนี้
ในขณะที่ อินเดียกล่าวว่ามีเป้าหมายที่จะเพิ่มการผลิตถ่านหินในประเทศมากกว่า 400 ล้านตันภายในสิ้นปี 2023
โดยภายในสิ้นปี 2023 จีนจะผลิตถ่านหินได้ประมาณ 44,000 ล้านตัน
และอินเดียจะขุดให้ได้ประมาณ 12,000 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลตรุษจีนอุปสงค์ถ่านหินของจีนจะลดลงมาเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของเดือนมกราคมในปี 2023 แต่ความต้องการถ่านหินก็มีแนวโน้มว่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้า
S&P Global คาดการณ์การนำเข้าถ่านหินของอินเดียในปี 2023 อยู่ที่ 170 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5-6% จากปี 2022
การผลิตถ่านหินของอินเดียในช่วง เมษายน-ตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 448.17 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 18.06%
ในขณะที่ Coal India Ltd. ซึ่งคำณวนอยู่ที่ประมาณ 80% ของการขุดถ่านหินในประเทศอินเดีย
โดยบริษัทนี้ผลิตถ่านหินได้ 351.93 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 17.46% จาก ในช่วงเวลาเดียวกัน
ถึงแม้โลกเรากำลังจะเปลี่ยนหันเข้าหาพลังงานสะอาดกันมากขึ้น
แต่ถ่านหินก็เป็นหนึ่งในเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ถูกใช้มาอย่างยาวนาน
อีกทั้งถ่านหินเป็นทรัพยากรที่สามารถขุดใช้งานได้อีกหลายร้อยปี และสามารถเป็นพลังงานทดแทนในยามที่โลกของเราขาดแคลนพลังงานในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกด้วย
เช่นในยามที่เรากำลังเกิดวิกฤติพลังงานในตอนนี้ พลังงานจากถ่ายหินได้กลายเป็นส่วนสำคัญในหลายประเทศของโลก
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Website :
https://www.bnomics.co
Facebook :
https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit :
https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics
https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube :
https://www.youtube.com/bnomics
Twitter :
https://twitter.com/bnomics_co
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
●
https://www.spglobal.com/commodityinsights/en/market-insights/latest-news/coal/120522-easing-war-impact-rising-supply-set-to-make-asian-thermal-coal-more-affordable-in-2023
●
https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/indonesia-expected-to-remain-world-s-top-thermal-coal-exporter-post-pandemic-58874688
ถ่านหิน
เอเชีย
อุตสาหกรรม
4 บันทึก
8
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
B-Industry
4
8
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย