ที่จริงคำว่าพระ..หมายถึง พอละเรื่องราวของโลก ละความโลภโกรธหลง เมื่อมีผู้ที่มาขอบวช .มาขอนิสัย ฝึกให้เป็นพระ ครองพระกาสาวพัสตร์ ..เค้าก็บอกว่า บวชเป็นภิกษุ ต้องทำอะไรบ้าง เมื่อออกจากโบสถ์ ก็ทิ้งไว้ตรงประตูโบสถ์ ..กลับไปใช้นิสัยฆราวาส ..ไม่ได้ประพฤติปฏิบัติธรรม ลดละโลภโกรธหลงออกไปจากจิตของตัวเอง ก็เลยไม่ได้อะไรในการบวช ในการที่จะมาฝึกหัดปฏิบัติธรรม ตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
..เมื่อไม่ปฏิบัติธรรม..ไม่ฝึก ไม่แก้ไข ..นิสัยก็ไม่แก้ไข . ก็ต้องจมอยู่อย่างนั่น กลับจะเป็นพิษร้ายทำลายจิต ที่เค้าว่า ผ้ากาสาวพัสตร์นั่นครองให้ดี ..ทำไม่ดีจิตออกจากร่าง..ได้แต่เลือดดกับหนอง เพราะไปฉันข้าวปลาอาหารที่ ชาวบ้านเค้าสาธุมา ตั้งใจทำบุญ ไม่ได้ยึดที่ตัวบุคคล เค้าดูที่ผ้าเหลือง ไม่ครองผ้าเรือน ใครมันนอบน้อมกราบ ประเคนสิ่งของให้ ไปประทังสังขาร.. คนที่เค้ารู้จัก เค้าก็ไม่ทำแบบนั่น คนที่ไม่รู้ฝืนทำ นรกเป็นที่อาศัยแน่นอน..
..มีผู้พูดให้พระท่านฟังว่า เดี๋ยวนี่..เห็นแต่พระจูงผี หาพรจูงคนไม่ได้ ยิ่งพระจูงมนุษย์ ยิ่งยาก ไม่มีเลย
แล้วสิ่งที่คนเข้าไปขอบวช ..ไปทำที่มันวิปริต สึกออกมาชีวิตก็วิบัติ เพราะเค้าทำร้ายตัวเค้าเอง เพราการขอบวช..ไม่ได้มีใครบังคับ เดินเข้าไปขอบวชเอง ..บวชแล้วก็เป็นแค่ภิกษุ นักบวช ..จิตยังไม่ได้เป็นพระเลย โลภโกรธหลงยังมีเต็มอัตตาศึก จะไปหนีเวรกรรมได้อย่างไร
มีแต่จะสร้างกรรมเพิ่มขึ้น เค้าว่า ฆราวาสทำผิด นับแค่หนึ่ง ก็ไม่เท่าไหร่ แต่เป็นนักบวช คูณสิบเข้าไป..เพราะชีวิตไ่ม่ต้องไปหาอะไร ..มีแต่ญาติโยมที่เค้ากราบถวายปัจจัยมา ..ทำไม่ดี ก็เข้าตัวเองทั้งนั่น ..เวรกรรม บวชเพื่อปฏิบัติธรรม..หนีกรรม ..กับ บวชไปสร้างกรรม มันแตกต่างกัน..
เมื่อก่อนนี้ มีพระท่านบอกว่า เห็นนักบวช ทำไม่ดี เอาบุญโป๊ะหัวเลย ..เราฟังแรก ๆ ก็ไม่เข้าใจ..ตอนหลัง ท่านก็บอกให่ ก่อนทำบุญใส่บาตร กล่าวคำ ถวายพระพุทธเจ้าเสียก่อน แล้วก็กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลเลย เวลาไปทำกับภิกษุ ก็กราบด้วยความนอบน้อม สองมือของพ่อแม่ ประคองน้อมถวาย องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ่านผ้าเหลืองที่ครองอยู่ เพื่อให้เกิดเป็นบุญกุศล ..เราทำให้ดี ใช้กิริยากายวาจาใจที่ดมาทำบุญ เพราะต้องการบุญ ..ไม่ได้ทำทิ้งขว้าง.เสียไม่ได้ ..ส่วนภิกษุจะไปทำอะไร นั่นเรื่องของเค้า..เราตัดขาดหลุดจากมือเราไปแล้ว
พระท่านที่ปฏิบัติธรรมดีๆ ท่านเล่าว่า นักบวชตกนรกมากมาย..เวลาตอกลงไป เค้าก็ให้เอาผ้าเหลือง ถอดออกพลาดที่ราวเหล็ก ขนาดใหญ่ ท่านบอกใหญ่มาก ..คานเหล็กนั่นแอ่นลู่..ไปเลย กับการรับน้ำหนักผ้าเหลือง..ถอดผ้าเหลืองพลาดราวเหล็กแล้ว ก็เดินลงนรกไปแต่ตัวร่อนจ้อน ..ไปอยู่ยาวนาน ..ไม่รู้ว่า เมื่อจะได้ขึ้นหลุดออกจากขุมนรก แต่นั่นท่านบอกว่า ..ไม่มีใครเชื่อหรอก .. ถึงเวลาเค้าก็รู้เอง..เมื่อจิตออกจากกายมนุษย์..
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
