7 ธ.ค. 2022 เวลา 21:01 • นิยาย เรื่องสั้น
“การเป็นตัวของตัวเองดีที่สุด”
เพราะว่าบนโลกนี้ไม่มีใครที่เหมือนคุณ และนั่นหมายความว่าคุณก็ไม่ควรเหมือนใครด้วยเช่นกัน
1
จริงๆ ใช้คำว่า’ไม่ควร’ ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะเราสามารถนำแรงบรรดาลใจหรือแบบอย่างที่ดีจากคนอื่นมาปรับใช้ได้ ความหมายค่อ หากเรานำส่วนผสมของคนอื่นมาเสริมหรือปรับเพิ่มให้แก่ตัวตนของเรา อาจทำให้เกิดคุณค่าของตัวเราเองอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น คุณจะเป็นคนมี charactor หรือสเนห์แปลกใหม่ ที่คนรอบข้างสามารถรู้สึกได้ในทันที
1
สเนห์และความเป็นตัวของตัวเอง หากนำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง พอเหมาะ และไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นทั้งทางตรงหรือทางอ้อม จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขขึ้น เพราะคนรอบข้างจะรู้จุดยืน และสิ่งที่คุณเป็นอย่างชัดเจนทำให้เกิดการ respect คุณมากขึ้น และคุณจะไม่เป็นเหยื่อของคนบางกลุ่มเพียงพอเป็นคนที่ personality ไม่โดดเด่นหรือมีจุดยืนที่ชัดเจน
ยกตัวอย่าง หากคุณเป็นคนที่ไม่มี charactor หรือตัวตนที่ชัดเจนมากพอ จะทำให้ผู้คนไม่รู้ว่าคนๆ นี้ต้องเข้าหาอย่างไร จะพูดหรือชวนคุยอะไรกับกับเขาดี เขาคิดอะไรอยู่นะ หรือกลายเป็นสร้างภาพหรือทำให้คนรอบข้างรู้สึกว่าเข้าถึงยาก ดูน่าเข้าหา อึดอัดใจ ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาอาจจะเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน หรือมีนิสัยหรือความคิดที่เข้าหากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อก็เผ็นไปได้
ในสังคมโดยเฉพาะโลกของผู้ใหญ่หรือการทำงาน คนประเภทนีีถุงแม้จะเก่งแค่ไหน หากไม่สร้างตัวตนและเอกลักษณ์เฉพาะที่ชัดเจน และบุคลิกภาพที่ดี สามารถแพ้คนที่อาจจะไม่เก่งมาก แต่มีอารมณ์ขันหรือจุดยืนที่ชัดเจนได้แบบง่ายดาย ที่สำคัญสเนห์คือเอกลักษณ์เฉพาะคน หากทำให้คนรอบข้างสามารถสัมผัสหรือมีความรู้สึกที่อยากเข้า หรือทำความรู้จักแม้จะพึ่งเคยเจอกัน นั่นหมายความว่าคุณทีแต้มต่อหรือก้าวนำหนาคตอื่นไปได้ขั้นหนึ่งแบบง่ายดาย
Gateway ที่แสนเรียบง่ายจะนำพาเราไปสู่ทางลัดเพื่อที่สามารถใช้ชีวิตหรืออยู่ในสังคมได้อย่างดียิ่งขึ้น รวมถึงมีโอกาสผูกมิตรและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนใหม่ๆ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมี connection ที่ดีหรอกจริงๆไหมหละ ? รวมถึงทำให้โอกาสในการถูกรังแกหรือถูกเอาเปรียบจากคนบางกลุ่มลดลง ลองสังเกตุว่าทำไมคนบางคนถึงเจอแต่คนถูกเอาเปรียบ ลองคิดในมุมมองของหัวหน้างานหากจะอยากใช้งานในเชิงการเอาเปรียบเพื่อผลประโยชน์ของตนเองจะเลือกคนแบบไหนเพื่อให้ง่ายต่อการได้ประโยชน์นัีนมาที่สุด
คำตอบแน่นอนว่าจะต้องเลือกคนที่มีบุคลิกภาพหรือนิสัยที่ดูนิ่งๆ ดูยอมคน ดูเป็นคนอะไรก็ได้ ขี้เกรงใจ มากกว่าคนที่ดูกระฉับกระเฉง พูดจาฉะฉาน/มั่นใจ ดูมี energy เพราะมีโอกาสหวังใช้เพื่อผลประโยชน์ได้มากกว่าคนประเภทแรกนั่นเอง และส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่เกิดได้บ่อยในสังคมไทย การที่รู้ว่าสิ่งไหนที่ไม่ถูกต้อง แต่เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเราเองโดยตรงจึงเพิกเฉย ไม่สนใจ อะไรก็ได้ขอแค่ฉันไม่เดือดร้อน มากกว่ากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นต่างและต่อสู้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามเสียงข้างมาก
ขณะเดียวกันการเป็นตัวของตัวเองเสมือนเป็นดาบสองคม เช่น หากเป็นคนอิโก้สูง แต่ไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น ถึงจะเป็นคนที่เก่งหรือมีอำนาจ ตำแหน่งทางสังคมทีีสามารถบังคับทางอ้อมให้คนรอบข้างต้องยอมจำนนและยอมรับในการอยู่ร่วมกันเพราะหน้าที่หรือความจำเป็น สิ่งนี้เป็นที่ทำให้สังคมอยู่ยากหรือไม่น่าอยู่
การตระหนักรู้ในตนเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะทำให้เราได้ยอมรับและเปลี่ยนแปลงไม่เพียงแต่เฉพาะข้อเสียเท่านั้น ข้อดีบางอย่างเราอาจจะปรับให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เช่นความเกรงใจจนเกินไปอาจเปลี่ยนเป็นความมั่นใจในการตัดสินใจอย่างแนวแน่ หรือกล้าที่จะปฏิเสธคนแต่ยังคงความอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่ตัวคุณอยากที่จะเป็น เป็น the best version of yourself.
1
โฆษณา