8 ธ.ค. 2022 เวลา 07:39 • ไลฟ์สไตล์
ชีวิตไม่ใช่การแข่งขัน เราไม่จำเป็นต้องวิ่งพล่านเพื่อตามให้ทันไปซะทุกเรื่องหรอก
เคยรู้สึกแบบนี้มั๊ย...อยู่เฉยๆ แล้วหงุดหงิด!
ผมก็คิดเหมือนทุกคน คือไม่ชอบปล่อยเวลาให้มันผ่านไปเปล่าๆ แต่ผมก็เชื่อว่าเราไม่ควรจดจ่อกับมัน (มากเกินไป) ใช่! เวลามีค่ากว่าเงินทอง และมันเดินไม่เคยหยุด แม้จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายในชีวิตของเราทุกคน
อย่างที่บอก ผมคิดว่า เราไม่ควรหมกมุ่นหรือปล่อยให้เวลามาบีบคั้นเรามากเกินไป ชีวิตในปัจจุบันที่ต้องแข่งขัน ทุกอย่างต้องเร่งรีบ คนที่เร็วที่สุดคือผู้ชนะ! ความเชื่อแบบนี้กลายเป็นโรคร้ายสายพันธุ์ใหม่กัดกินชีวิตยุคใหม่ที่จะต้องสำเร็จชั่วข้ามคืน ชีวิตที่ถูกกระตุ้น ถูกเปรียบเทียบ ถูกกดดัน อัดเข้าไปๆ จนบางครั้งทำให้รู้สึกว่า เราต้องบรรลุเป้าหมายมากกว่าที่เราต้องการจริงๆ ซะอีก
ที่แท้มันกำลังก่อวินาศกรรมเราต่างหาก เรารู้สึกเหมือนชีวิตเราต้องแข่งขัน เพราะเราดูสิ่งที่คนอื่นทำ แล้วเอามาเปรียบเทียบกับผลลัพธ์ที่เราทำได้ เรามองไปที่เพื่อนๆ แล้วเห็นว่า อ๊ะ! พวกเขาแต่งงานแล้ว – พวกเขาซื้อบ้านเป็นของตัวเองแล้ว – พวกเขามีลูกน่ารัก – พวกเขาพบงานในฝันแล้ว – พวกเขามีผู้ติดตามมากกว่าฉัน บลาๆๆ
https://photocontest.smithsonianmag.com/photocontest/detail/rush-hour-in-ho-chi-minh-city/
ใครกันที่บอกเราว่าความสำเร็จต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้? ใครเป็นคนกำหนดไทม์ไลน์ว่าคุณต้องทำสิ่งนั้นสิ่งนี้?
 
เพื่อนคนหนึ่งของผมบอกว่ามันไม่ต้องการมีลูก ผมคิดว่ามันบ้าไปแล้ว จนกระทั่งได้เห็นว่าชีวิตมันมีความสุขแค่ไหนที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ใช่เลย! นิยามความสำเร็จของเราแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะรับรองว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตจะเป็นอย่างท่ีต้องการจะเป็น
“The Beautiful Things” เป็นหนังสือออนไลน์ที่รวบรวมจดหมายที่เขียนถึงนักเขียนคนนึงชื่อ "Sugar”
 
Sugar โพสต์จดหมายแต่ละฉบับในคอลัมน์ออนไลน์ของเธอ แล้วโพสต์คำตอบของคำถามในจดหมาย ซึ่งมีตั้งแต่วิธีการจัดการกับ การหย่าร้าง, เด็กดื้อ, การโกง, การตั้งครรภ์, การแท้งบุตร, การข่มขืน และความท้าทายเกือบทุกอย่างที่คุณนึกออกในชีวิต
อย่างไรก็ตาม จดหมายทั้งหมดมีรูปแบบที่คล้ายกันในทุกๆ เรื่องเลยคือ มันไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรรับประกันได้ คุณต้องเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับโศกนาฏกรรม หรือความเจ็บปวดที่จะมาเยือนได้ทุกเมื่อ ปัญหาของผู้เขียนจดหมายเหล่านี้แต่ละคนคือ พวกเขาคิดว่า เมื่อมีแผนแล้วทุกอย่างมันจะราบรื่น
สำหรับคุณผู้หญิง ถ้าคุณคิดว่าโอเคแล้ว รอดแล้ว ฉันได้แต่งงานแล้ว ขอโทษ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาคือ โอเคแล้วนั่นน่ะเป็นแค่เรื่องเล่าในนิยาย
 
ขอโทษที่ใจร้าย! แต่ถ้าคุณไม่เชื่อ ไม่เผื่อใจเอาไว้สำหรับเรื่องร้ายๆ เวลาที่ชีวิตทำให้คุณล้มลุกคลุกคลาน มันจะทำให้คุณเจ็บปวดแสนสาหัส และอาจตามมาด้วยการแก้ปัญหาด้วยยาเสพติด แอลกอฮอล์ มั่วเซ็กส์ (ประชดชีวิต) ความเจ็บป่วยทางจิต ความป่วยไข้ทางร่างกาย หรือละทิ้งหน้าที่การงาน เสียผู้เสียคนไปเลย
เอาล่ะ! ถ้าชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจริงๆ สิ่งนั้นจะส่งผลอย่างไรกับวิธีจัดการกับไทม์ไลน์ในชีวิตของเรา?
 
ก่อนอื่นลองคิดดูดีๆ สิว่า เรามักจะได้สิ่งที่เราต้องการ ซึ่งเราไม่ได้ต้องการมันจริงๆ หรอก เหมือนที่เพื่อนบางคนพูดถึงการแต่งงานว่า "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" เราได้แต่ไล่ตามพระอาทิตย์ตกครั้งต่อไปเพราะคิดว่านั่นคือสิ่งที่เราต้องการ แต่พอได้มาเรากลับต้องการสิ่งที่ตรงกันข้าม
ความจริงก็คือ ความต้องการของเราจะเปลี่ยนไปและไทม์ไลน์ก็เช่นกัน ดังนั้น ยอมรับความไม่แน่นอนนี้ และเรียนรู้ว่าบางทีอะไรที่มันเซอร์ไพรส์บ้างก็เป็นเรื่องสนุก เพราะชีวิตมันกำลังโยนสิ่งต่างๆ มาที่คุณ อยู่ที่คุณจะคว้าสิ่งต่างๆ เหล่านั้นมาทำให้มันคุ้มค่าที่จะมีชีวิตอยู่ได้มั๊ย
มันเหมือนกับการได้อ่านนิยายเรื่องนึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอรู้แล้วว่ามันจบยังไง ก็ไม่ตื่นเต้นแล้ว
คุณอยากรีบทำให้ชีวิตมันเป็นแบบนั้นเหรอ?
 
ประเด็นที่เอาเรื่องนี้มาเขียนคือ อยากจะบอกว่าเรากำลังแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อพยายามเอาชนะการแข่งขันที่ไม่มีอยู่จริง และตอนนี้ถ้าเชื่อแล้วว่าการแข่งขันนี้มันก็เป็นแค่นิยายเรื่องนึง เราก็น่าจะสามารถชะลอความเร็วลงกันได้บ้าง
โฆษณา