9 ธ.ค. 2022 เวลา 10:20 • ประวัติศาสตร์
ความโหดร้ายของทหารญี่ปุ่นต่อชาวจีนในสงครามโลกครั้งที่ 2
1
เมื่อพูดถึง "สงครามโลกครั้งที่ 2 (WWII)" สิ่งที่ทุกคนนึกถึงเป็นอย่างแรกๆ ก็คือความโหดร้ายและความสูญเสีย
หนึ่งในความโหดร้ายที่เป็นที่เลื่องลือก็คือสิ่งที่ทหารญี่ปุ่นปฏิบัติต่อชาวจีน
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มขึ้น เป็นช่วงที่ "เหมาเจ๋อตุง (Mao Zedong)" และ "เจียงไคเช็ก (Chiang Kai-shek)" กำลังช่วงชิงอำนาจ และทำให้จีนยิ่งอ่อนแอ เปราะบาง
ในเวลานั้น กองทัพญี่ปุ่นกำลังเกรียงไกร และเป็นหนึ่งในกองทัพที่น่าเกรงขามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยในปีค.ศ.1931 (พ.ศ.2474) ญี่ปุ่นได้เข้ายึดครองแมนจูเรีย และเมื่อถึงปีค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) ญี่ปุ่นก็ได้กลับมาจีนอีกครั้ง และได้รุกรานเซี่ยงไฮ้
1
ถึงแม้กองทัพจีนจะดูมีจำนวนทหารมาก แต่ในความเป็นจริงก็ไม่ได้เยอะอย่างที่คิด อีกทั้งกองทัพจีนยังไม่มีรถถัง อาวุธที่ทันสมัย หรือกองกำลังทางอากาศที่ยิ่งใหญ่เท่ากองทัพญี่ปุ่น
แต่ถึงจะมีปัญหาต่างๆ เหล่านี้ แต่ผู้นำจีนก็ยังเชื่อมั่นว่าจีนนั้นมีกองทัพที่ยิ่งใหญ่พอที่จะเอาชนะญี่ปุ่นได้ ซึ่งเป็นความมั่นใจที่ผิดมหันต์
ในที่สุด กองกำลังฝ่ายจีนก็ไม่สามารถต่อต้านแสนยานุภาพของกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งสิ่งที่ตามมานั้น คือประวัติศาสตร์ที่ดำมืด
ในคฤหาสน์หลังใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ที่เรียกว่า "Ximeng" คือสถานที่ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่โหดร้าย โดย Ximeng ได้ถูกพวกญี่ปุ่นเปลี่ยนเป็นสถานบริการเพื่อปลอบขวัญทหารญี่ปุ่น (Comfort station) หรืออาจจะเรียกว่า "ซ่อง" ก็ได้ โดยมีการนำหญิงชาวบ้านมาบำเรอกามแก่ทหารญี่ปุ่น
มีการประเมินว่ามีหญิงกว่า 400,000 คนถูกข่มขืน ทรมาน และฆ่าในสถานบริการนี้
2
ใน Ximeng ห้องที่ใช้บำเรอกามจะมีการจัดเตียงไว้หลายเตียง โดยแต่ละเตียงจะมีเพียงม่านบางๆ กั้นเท่านั้น
ภายหลังจากยุทธการที่เซี่ยงไฮ้ (Battle of Shanghai) กองทัพญี่ปุ่นก็ได้มุ่งหน้าไปยังนานกิง ที่ซึ่งทหารญี่ปุ่นข่มขืน ทรมาน และฆ่าชาวจีนนับล้าน โดยในปีค.ศ.1954 (พ.ศ.2497) "คาซูเอะ คานาซาวะ (Kazue Kanazawa)" หนึ่งในทหารญี่ปุ่น ได้เขียนสารภาพว่าตนนั้นได้ทำการข่มขืนหญิงชาวจีนอย่างน้อยสามราย และเพื่อนทหารของเขาอีก 15 คนได้รุมข่มขืนผู้หญิงจีนอีกสองคน
2
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ ก็สร้างบาดแผลในใจชาวจีน และทำให้ชาวจีนบางคน (ย้ำว่าบางคน) ไม่ชอบญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้
โฆษณา