9 ธ.ค. 2022 เวลา 10:21 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
การเดินทางกลับมาของ Avatar : The Way of Water ใช้เวลาเดินทางถึง 1 ทศวรรษ เพื่อที่จะนำพาเหล่าสาวกทั้งหลายของ เจมส์ แคเมรอน เข้าสู่อาณาจักรแพนโดราตามสัญญา
หลังจากภาคแรกในปี 2552 ที่กลายเป็นหนังทำเงินตลอดกาล ซึ่งล่าสุด รวมทั่วโลกอยู่ที่ $2,833,679,794 ดอลล่าร์สหรัฐฯ
James Cameron คือผู้กำกับที่สามารถสร้างภาพยนตร์ที่มีรายได้สูงสุดตลอดกาล ได้แก่ Titanic และ Avatar ไม่ว่าชายผู้นี้จะหยิบจับอะไรมาทำหนังก็จะสร้างรายได้มหาศาลตลอด แถมยังนำผู้ชมไปสู่ประสบการณ์และการผจญภัยใหม่ๆ ด้วยความเชื่อ ความเต็มใจ และไว้ใจที่จะเข้าไปสู่โลกอีกใบที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
https://en.wikipedia.org/wiki/James_Cameron#/media/File:James_Cameron.jpg
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า กว่าจะมาเป็น Avatar ให้เราได้โลดแล่นในแผ่นดินที่เต็มไปด้วยสีสันของความอัศจรรย์ และความน่าทึ่งในการถ่ายทอดจินตนาการด้วยเทคนิคการถ่ายทำและอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยที่สุด
นั้นมาจากความลงตัวที่จักรวาลได้สร้าง เด็กชายขี้สงสัยให้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้
แคเมรอน เติบโตมาด้วยการบริโภคนิยายวิทยาศาสตร์ แถมยังชอบจับสัตว์ต่างๆ เช่น แมลง งู กบ เพื่อนำมาส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ ทั้งหมดเกิดจากความกระหายใคร่รู้ที่จะเข้าใจโลกใบนี้ เขาคือเด็กที่บ้าวิทยาศาสตร์มากๆ และนั้นก็นำไปสู่ความรักในนวนิยายวิทยาศาสตร์ จนกระทั่งเขาจบเอกฟิสิกส์ จากแคลิฟอร์เนีย
https://www.imdb.com/title/tt1630029/mediaviewer/rm3930722817/
Avatar มาจากไอเดียใต้ทะเลลึก
 
เมื่ออายุ 15 แคเมรอน เคยอยากเป็นนักดำน้ำ เพราะเขาสนใจที่จะได้เห็นโลกอีกใบที่มีความประหลาดและลึกลับสวยงาม มาจากไอเดียที่เขาเชื่อว่า มีมนุษย์ต่างดาวอยู่บนดาวประหลาดนอกโลก ซึ่งเขาไม่สามารถเดินทางไปได้ เมื่อโตขึ้น เขาจึงใช้เวลาส่วนมากในการดำน้ำ เพื่อศึกษาท้องทะเลและระบบนิเวศน์ หลังจากใช้เวลาไปกับการดำน้ำ เขาจะสเก็ตซ์ภาพที่เห็นออกมา ทำให้เขารู้ว่า โลกใต้น้ำนั้นคือสิ่งที่น่าทึ่งและเหนือจินตนาการของเขา
https://d23.com/disney-twenty-three-journeys-to-pandora-going-behind-the-scenes-of-the-next-level-storytelling-of-avatar-the-way-of-water/
รวมความชอบทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกัน
แคเมรอน เลือกเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ทำให้เขาเป็นกึ่งนักวิทยาศาสตร์และกึ่งศิลปิน ด้วยความหลงใหลในวิทยาศาสตร์และการเล่าเรื่อง
เขาได้ค้นพบวิธีเล่าเรื่องด้วยระบบสามมิติ จนกลายเป็นผู้สร้างภาพยนตร์สามมิติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
อะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาสามารถชนะได้?
กว่าจะเป็น Avatar จะต้องสร้างอุปกรณ์การถ่ายทำที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก ทั้งการวางแผนการถ่ายทำ การสร้างความไว้ใจให้แก่ทีมงาน เพื่อสร้างสิ่งที่อยู่ในจินตนาการออกมาให้ทุกคนได้สัมผัสนั้น เป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนอื่นเชื่อในวิสัยทัศน์ของตนเอง
“อย่าสร้างข้อจำกัดให้ตัวเอง”
แคเมรอน ชอบแนะนำคำนี้ให้กับนักทำหนังรุ่นใหม่
คนอื่นจะสร้างข้อจำกัดให้คุณ แต่คุณจะไม่สร้างข้อจำกัดให้ตัวคุณเอง อย่าคัดค้านความคิดของตัวคุณเอง คุณต้องพร้อมที่จะเผชิญความเสี่ยง
James Cameron
Avatar ไม่ได้สำเร็จเพียงแค่จินตนาการ
แต่มาจากการเดินทางตั้งแต่วัยเยาว์ของแคเมรอน เกิดมาจากความสงสัยใคร่รู้ การอยากผจญภัย การเผชิญหน้ากับความเสี่ยงและทดลองทำซ้ำๆ ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรก จนมาถึง Avatar the way of water ที่มีความ Epic ทั้งภาพ และความรู้สึก จนทีมงานยกให้เป็นจุดสูงสุด ของ เจมส์ แคเมรอน เลยทีเดียว
https://d23.com/disney-twenty-three-journeys-to-pandora-going-behind-the-scenes-of-the-next-level-storytelling-of-avatar-the-way-of-water/
สำหรับคอหนังหรือสาวกที่รออย่างใจจดจ่อ ก็ใกล้ถึงเวลาที่จะได้กลับไปผจญภัยในแผ่นดิน Pandora อีกครั้ง ต้องบอกว่านี่คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดการรับชม และอาจเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมส่งท้ายปี
เพราะหนังเรื่องนี้ได้ลงทุนอย่างมหาศาล ถึง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ถึงแม้ผู้กำกับเองจะมีความกังวลใจอยู่บ้างเนื่องด้วยสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา และพฤติกรรมผู้บริโภคที่รอชมผ่าน Stream มากกว่า
แต่ก็มีบางส่วนลุ้นว่า Avatar : The Way of Water จะสร้างปรากฎการณ์อะไรให้กับวงการภาพยนตร์อีกบ้าง และการกลับมาของบุรุษไร้พ่ายอย่าง เจมส์ แคเมรอน ในครั้งนี้จะกลายเป็นจุดสูงสุดของเขาหรือไม่(ปีนี้ก็อายุ 68 แล้ว ถ้าสร้างภาค Avatar ภาค 3 เราอาจต้องรอแกอายุ 78 ปีแน่ๆ)
ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ก็ตาม ความผิดพลาด เป็นหนึ่งในทางเลือกของเรา และความกลัวเป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญ
James Cameron
ตัวอย่างภาพยนตร์ : https://www.avatar.com/movies/avatar-the-way-of-water?
โฆษณา