10 ธ.ค. 2022 เวลา 12:00 • ท่องเที่ยว
รีวิว Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์ กับการเป็นพี่เลี้ยงเด็กใน Norway
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
วันนี้ขออนุญาตย้อนความหลังไปถึงค่ายอาสาสมัครต่างประเทศที่ผมเคยเข้าร่วมในช่วงมหาลัย ซึ่งมีชื่อโครงการว่า "AIESEC" โดยประสบการณ์ในครั้งนั้นเป็นอะไรที่ยังอยู่ในความทรงจำของผมจนถึงทุกวันนี้
ไม่แน่ใจว่าในปัจจุบันโครงการ "AIESEC" ยังคงมีอยู่ไหม หรือ มีรายละเอียดแตกต่างไปจากเดิมอย่างไร แต่ก็หวังว่าโพสนี้จะเป็นประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครับ
AIESEC คืออะไร??
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
โครงการ AIESEC ก็คล้ายๆกับการไป Work & Travel program ที่ส่วนใหญ่จะต้องดำเนินการผ่านเอเจนต์ และต้องเสียค่าเครื่องบินไปเอง แต่มีข้อแตกต่างอยู่ที่ ถ้าไปโครงการ Work & travel เราจะต้องไปทำงานเพื่อให้ได้เงินกลับมา ในขณะที่ถ้าสมัครโครงการ AIESEC เราจะต้องไปเป็นอาสาสมัครหรือฝึกงาน โดยเราจะไม่ได้รับผลตอบแทนเป็นตัวเงิน แต่จะเป็นความสุขที่เกิดจากการได้ช่วยเหลือแทน
นอกจากนี้ โครงการ AIESEC ส่วนใหญ่เขาจะจัดที่อยู่ให้ฟรี ส่วนเรื่องอาหารก็จะขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละโครงการ
แล้วโครงการ AIESEC สมัครอย่างไร??
ขั้นตอนการสมัครโครงการอาสาสมัครของ AIESEC มีอยู่ด้วยกัน 2 ขั้นตอนหลักๆ
1. การยื่นใบสมัครออนไลน์ AIESEC ผ่านชมรม AIESEC ของมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่หรือมหาวิทยาลัยใกล้เคียง
2. หลังจากยื่นใบสมัครเรียบร้อย ทาง AIESEC ของมหาลัยที่เรายื่นใบสมัครก็จะนัดวันสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์แบบถามมาตอบไปเป็นภาษาอังกฤษ โดยแนวคำถามก็เช่น ทำไมอยากร่วมโครงการ AIESEC, อยากไปทำอาสาสมัครประเภทไหนและก็มีการถามปัญหาเชาว์บ้าง ซึ่งหลักๆแล้วคนสัมภาษณ์ก็ต้องการเช็คว่า เราสามารถสื่อสารได้รู้เรื่องไหมและสามารถเอาตัวรอดได้ไหมในต่างประเทศ
3. หลังจากที่เราผ่านรอบสัมภาษณ์กับ AIESEC ที่มหาลัยมาได้ เราก็จะถูกดึงเข้าไประบบของ AIESEC ซึ่งภายในระบบนี่เราจะต้องกรอกข้อมูลต่างๆและตามด้วยการค้นหาโปรเจคที่อยากทำจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งมีเป็นร้อยเป็นพันโปรเจคแตกต่างกันไป มีทั้งการจัดแคมป์กิจกรรมให้เด็ก, การสอนหนังสือเด็ก, การรณรงค์ในเรื่องต่างๆโดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา เป็นต้น
4. แต่เมื่อคุณส่งใบสมัครไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางผู้ดูแลโปรเจคนั้นๆก็จะทำการพิจารณาคุณสมบัติของเราว่าเหมาะสมกับงานหรือไม่ ซึ่งถ้าตรงเขาก็จะแจ้งวันสัมภาษณ์กลับมา การสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ผู้สัมภาษณ์คือ AIESEC ชาวต่างชาติซึ่งดูแลโปรเจคนั้นๆโดยตรง โดยคำถามก็ประมาณบอกจุดแข็งจุดอ่อนของตัวเองซึ่งจะเป็นประโยชน์ / อุปสรรคต่อโครงการที่ต้องการสมัคร, จะสามารถกับเหตุการณ์ Culture Shocks อย่างไร, จะมีวิธีนำเสนอวัฒนธรรมประเทศคุณอย่างไร เป็นต้น
5. จากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์เราก็จะรู้ผลสัมภาษณ์และเราก็จะต้องทำการยืนยันภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งระหว่างนี้เราก็จะยังพอมีเวลาในการตัดสินใจในกรณีที่เราสัมภาษณ์หลายโปรเจคและผ่านมากกว่า 1 สุดท้ายถ้าเราทำการยืนยันเรียบร้อย AIESEC เจ้าของโปรเจคก็จะส่งรายละเอียดของโปรเจคมาและเราก็ต้องเตรียมเอกสารเพื่อทำ Visa ต่อไป
โปรเจคที่ผมสมัครนั้นชื่อว่า AktivSommer 2015 ซึ่งจัดขึ้นโดย AIESEC Uio (University of Oslo) หน้าที่หลักๆของเราก็คือการจัดแคมป์กิจกรรมให้เด็กอายุ 7 – 14 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง Sandvika (ประมาณ 30 นาทีจาก Oslo ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ Norway) โดยการจัดกิจกรรมจะมีขึ้นภายในศูนย์ครอบครัวและกิจกรรม ชื่อ "Marie Plahte" รวมทั้งสิ้น 6 สัปดาห์
โดยผมจะต้องทำงานร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆอีก 11 คน ซึ่งแต่ละคนก็มาจากหลากหลายเชื้อชาติ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนเอเชีย / ในเรื่องของที่พัก เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ / ในเรื่องอาหารการกิน ส่วนใหญ่เราจะต้องออกเอง / ด้านระยะเวลาการทำงาน ก็จะเริ่มขึ้นตั้งแต่ 10.00 – 16.00 ในวันจันทร์ – วันศุกร์
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
และนี่ก็คือ บรรยากาศของศูนย์ครอบครัวและกิจกรรม (Marie Plahte) ซึ่งเป็นศูนย์ที่ดูแลโดยภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็นสถานที่รวมตัวและทำกิจกรรมต่างๆในยามว่างหลังเลิกเรียนสำหรับเด็กๆที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
ภาพบรรยากาศภายในบ้านพักที่อาสาสมัครทั้ง 11 คนจะต้องมากินอยู่หลับนอนด้วยกันตลอด 6 สัปดาห์
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
ในช่วง 2 อาทิตย์แรก เราจะต้องเดินทางเข้าไปใน University of Oslo เพื่อเข้าอบรมและเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดกิจกรรมจริงในอีก 4 อาทิตย์ที่เหลือ โดยสมาชิกของ AIESEC Uio ก็จะเวียนกันมาให้ข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ เช่น แหล่งซื้อวัตถุดิบราคาถูกในการทำอาหาร, วัฒนธรรมในแบบฉบับของประเทศ Norway, หลักการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉิน, แนวทางในการจัดแคมป์สำหรับเด็ก เป็นต้น
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
และหลังการอบรมในแต่ละวันเราก็มีเวลาล้นเหลือในการเดินชมสถานที่สำคัญใน Oslo เช่น Royal Palace, Opera house, Vigeland Sculpture Park, Akershus Fortress, โซน Harbour เป็นต้น ซึ่งในช่วง Summer ของ Norway พระอาทิตย์จะขึ้นประมาณตี 3-4 และลับขอบฟ้าประมาณ 5 ทุ่มกว่า ทำให้เรามีเวลาใช้ชีวิตกันคุ้มมาก
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
ในช่วง 4 อาทิตย์สุดท้าย ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเจอกับเด็กจริงๆสักที โดยเด็กที่มาเข้าค่ายในครั้งนี้ ในแต่ละวันจะมีประมาณ 30 – 40 คน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กที่มาจากครอบครัวซึ่งอพยพเข้ามา (ไม่ใช่คน Norway แท้ๆ)
ในส่วนของกิจกรรมในแต่ละวันนั้น ถ้าเป็นวันที่ฝนตก เราจะให้เด็กทำกิจกรรมภายในอาคาร ส่วนถ้าวันไหนอากาศดี เราก็จะพยายามให้เด็กออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ โดยจัดเป็นธีมต่างๆไม่ซ้ำกัน เช่น ธีม Animal day ก็จะอารมณ์แบบเพ็นท์หน้าเป็นรูปสัตว์ เล่นเกมท๊ายชื่อสัตว์ พับกระดาษรูสัตว์, ธีม Creative day ก็จะให้เด็กได้ออกแบบได้ประดิษฐ์เช่นการเพ็นท์เสื้อ, Beach day ก็พาเด็กไปทะเล, กีฬาสี, พาไปเก็บสตอเบอรี่ที่ฟาร์ม
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
นอกเหนือจากการทำงานกับเด็กๆแล้ว หัวหน้าที่ดูแลโครงการ ชื่อ "Iklaque" ยังคอยหาเวลาว่างมาดูแลพวกเรา พาเราไปเปิดหูเปิดตาในสถานที่ต่างๆ เรียกได้ว่าถึงแม้จะต้องทนแบกรับกับราคาอาหารและค่าเดินทางที่แพงลิบลิ่ว แต่ถ้าได้มาเจอคนที่ดูแลโครงการที่คอยดูแลเราเป็นอย่างดีและคอยหากิจกรรมให้เราทำอยู่เสมอ ขอบอกว่า คุ้มเกินคุ้มจริงๆ
  • เขา Kolsas ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเราเท่าไหร่นัก นี่ถือเป็นการเดินเขาครั้งแรกในชีวิตของผม
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
  • การเดินเขาครั้งที่ 2 ที่ Besseggen ซึ่งเป็นการเดินเขาที่ยากลำบากมาก โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 9 ชม กว่าทุกคนจะมาถึงที่หมาย รวมระยะทางกว่า 17 kms เราเริ่มจากการนั่งเรือข้ามไปลงที่ภูเขาด้านหนึ่งและเดินกลับยังจุดขึ้นเรือ ลองคิดแค่ว่าขนาดนั่งเรือก็ปา 30 กว่านาทีแล้ว ถ้าให้เดินกลับมาคงเป็นการเดินทางที่ทรหดแน่ๆ
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
  • การได้มีโอกาสได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวเป็นครั้งแรก ซึ่งขับโดย Iklaque
Volunteer AIESEC 6 สัปดาห์
สุดท้ายเป็นกิจกรรม Global Village ซึ่งเป็นวันที่เหล่า Volunteers แต่ละประเทศจะต้องมาโชว์ฝีไม้ลายมือในการทำอาหารประจำชาติเพื่อนำเสนอวัฒนธรรมของประเทศตัวเอง โดยบรรยากาศในวันนั้นก็จะเต็มไปด้วยเด็กๆที่พาคุณพ่อคุณแม่มาร่วมงานด้วย
Volunteer Aiesec 6 สัปดาห์
สุดท้ายก็ถึงเวลาที่เราต้องล่ำลา ซึ่งบรรยากาศแน่นอนว่าเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งมิตรภาพและความผูกผัน ตลอดระยะเวลา 6 สัปดาห์ที่แรกๆดูเหมือนจะนาน แต่เอาเข้าจริงเมื่อเราได้ทำอะไรที่มีความสุข ช่วงเวลามักจะผ่านไปเร็วเหลือเกิน เร็วจน แทบตั้งตัวไม่ทัน แต่รับรองว่าความทรงจำเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ตลอดไป
ภาพถ่ายทั้งหมดโดย (By My Side: ผลัดกันถ่าย)
โฆษณา