Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ย่อยยอดใบชา
•
ติดตาม
15 ธ.ค. 2022 เวลา 12:01 • ธุรกิจ
ย่อยยอดใบชา EP: 143
เก่ง * อิสระ * รับผิดชอบ
3 คำที่ได้จากการอ่านหนังสือปกสีแดง NO RULES RULES ที่เขียนโดย Reed Hastings CEO และผู้ก่อตั้ง Netflix ร่วมกับ Erin Meyer นักเขียน และอาจารย์มหาวิทยาลัย INSEAD
เป็นเรื่องราวที่บอกสาเหตุแห่งความสำเร็จ วัฒนธรรมองค์กร การคัดเลือกคคน จ่ายค่าตอบแทน และการบริหารจัดการองค์กร ของ Netflix
ด้วยวิธีที่ต่างจากการบริหารองค์กรแบบเดิมๆ ทำให้ Reed Hastings นำ Netflix จากStartupเล็กๆ จนประสบความสำเร็จสูงมาก Netflix เป็นหนึ่งในบริษัทที่คนทั่วโลกอยากเข้าร่วมทำงานด้วย เขากลายเป็นผู้ร่ำรวยอันดับโลก
องค์กรทั่วไปที่อยู่มานาน จะเต็มไปด้วยกฏระเบียบ ขั้นตอนต่างๆ มากมาย ด้วยหวังว่า สิ่งเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์ในการบริหาร ควบคุม ช่วยให้บุคลากรมีแนวทางทำงานที่เหมาะสมถูกต้อง ลดความผิดพลาด
ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น กฎและขั้นตอนสร้างเงื่อนไข ปัญหา การตรวจสอบ กำกับ เสียเวลา ค่าใช้จ่าย ทำลายความคิดสร้างสรรค์ ลดโอกาสทางธุรกิจ บางครั้งกลับทำให้หลายอย่างช้าลง ยิ่งถ้ามีความผิดพลาด ก็ถูกนำไปอ้างเป็นเหตุผลแห่งความล้มเหลวเสียอีก
ที่ Netflix ต่างออกไป อาจเป็นเพราะ Reed พบอุปสรรคปัญหา ด้วยตนเอง จึงเกิดความคิดต้นแบบ (ใหม่) จากความไม่พอใจสภาพเดิมๆ ที่เป็นอยู่ของธุรกิจ เช่า-ยืม VDO ที่ต้องเดินทางไปยืมและคืน VDO หากคืนล่าช้าก็จะถูกปรับ บางครั้งค่าปรับมากกว่าค่าเช่าเสียอีก
จะสร้างองค์กรที่มีแนวคิดใหม่ ทุกอย่างต้องไม่เหมือนเดิม ต้องเริ่มต้นจากคน (ในองค์กร) เพื่อจะ คิด ทำ พัฒนา องค์กรไปข้างหน้า
เขาให้ความอิสระและความรับผิดชอบ (Freedom and Responsibility) กับคนในองค์กร 2 อย่างนี้เป็น วัฒนธรรม พื้นฐานของ Netflix เป็นสิ่งที่ส่งผลให้เติบโต ก้าวหน้า อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีผู้ชม (สมาชิก) นับจากก่อตั้งมาได้กว่า 24 ปี เมื่อ 1997 มีกว่า 200 ล้านคนใน 190 ประเทศ เติบโตมากกว่า 300 เท่าใน 20 ปี
Netflix ให้ความสำคัญกับบุคคลากรมาก เน้นการเพิ่มจำนวนของคนเก่ง(Talent) ระดับชั้นยอดที่สุดในอุตสาหกรรม เขายินดีจ่ายแพงที่สุดที่เขาคิดว่าเหมาะสมแล้ว (ราคาสูงสุดของตลาด) และดูแลรักษาคนเก่ง เหล่านั้นไว้ ตรงกันข้ามหากคิดว่า คนที่เลือกมานั้นไม่ใช่ หรือเปลี่ยนไป เขาจะเอาบุคคลนั้นออกจากทีมด้วยการจ่ายค่าชดเชยที่คุ้มค่ามากพอที่ต้องจากไป โดยไม่ต้องรอให้มาขอลาออกเอง จะมีวิธีคัดกรองเป็นระยะๆ (Keeper Test)
ที่น่าแปลกใจมากก็คือ ยิ่งคนเก่งๆ มารวมกัน ยิ่งทำให้คนเก่งขึ้นอีก และกลับใช้คนน้อยลงกว่าเดิม แถมยังได้ผลงานดีกว่าเดิมเสียอีก
เมื่อคนเก่งมาทำงานรวมกัน องค์กรต้องให้ความสะดวกด้วยการลดขั้นตอน ตรงไปตรงมา ให้โอกาสคนพูดคุย เสนอความเห็น Feedback ทั้งเชิงบวกและลบ แบบต่อหน้าและทันทีในสถานที่เหมาะสม
ทุกคนสามารถ e-mail ถึง Reed ได้ทุกเวลา ใครๆ ก็สามารถเข้าพบ พูดคุยได้เสมอ ไม่มีลำดับขั้นตอน ข้อห้ามที่ยุ่งยาก
ขอเพียงความเห็นหรือข้อเสนอนั้น
- มีความตั้งใจให้เกิดผลดีต่อองค์กรและทีม
- สามารถนำไปใช้ได้จริงๆ
- ผู้รับความเห็นต้องยินดีและขอบคุณในความเห็น หรือ คำวิจารณ์นั้นอย่างจริงใจ
- และสิทธิขาดก็ยังอยู่กับผู้รับความเห็นที่ต้อง คิด ตัดสินใจและรับผิดชอบ
ด้วยรูปแบบนี้จึงส่งเสริมให้คนใน Netflix มีอิสระที่จะคิด ออกความเห็น กล้าวิจารณ์ตรงๆ Feedback ทั้งบวกและลบต่อหัวหน้า เพื่อน ทีม ในองค์กร ลดการควบคุมและอนุมัติ ทำให้ขั้นตอนการทำงาน น้อยลงและง่ายขึ้น
ให้เกียรติ เชื่อถือ ผู้ปฏิบัติงาน ที่ Netflix ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร เท่าไร อย่างไร กับใคร ก็ได้ ถ้าคิดว่าถูกต้อง เหมาะสม และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อ Netflix ไม่มีการกำหนดเงื่อนไข วงเงินเบิกค่าใช้จ่าย หากมีการพบความผิดปกติ หรือ คอรัปชั่น ผลที่เกิดขึ้นจะรุนแรงมาก
ยกเลิกนโยบายกำหนดจำนวน วันลา หัวหน้าต้องลาพักมากๆ เพื่อเป็นตัวอย่างให้ทีมรู้ว่าทำได้
ผลดีเกินคาด การลา กลับไม่ได้มากมายและผลงานยิ่งดี เพราะทุกคนสามารถทำงานที่ไหน เมื่อไรก็ได้ ค่าใช้จ่ายไม่ได้มากผิดปกติ แต่กลับเกิดประโยชน์อย่างสูงต่อองค์กร ทุกอย่างจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อเราเลือกคนถูกต้อง ให้อิสระ พร้อมกับความรับผิดชอบต่อเขา
Netflix เลิกออกระเบียบ ขั้นตอน แบบเหมารวม หรือตั้งข้อสังเกตแบบกังวลว่าจะมีคนไม่ดีในองค์กร เพื่อบังคับคนส่วนใหญ่ทั้งหมด แต่ Netflix เลือกจัดการและลงโทษกับคนไม่ดี (เพียงบางคนเท่านั้น)
ผู้บริหารระดับสูง ไม่ตัดสินใจในรายละเอียด ใช้บริบทขององค์กร (Context) มากกว่าการควบคุม (Control) ด้วยการสื่อสารที่ชัดเจน ว่องไว ทั่วถึง (มี Agile mindset) ปล่อยให้คนเก่งในองค์กรแสวงหาวิธีการ จัดการงานด้วยตัวเองแบบทีม
ทำงานแบบทีมกีฬา เลือกพนักงานที่ดีที่สุดในตำแหน่งนั้นๆ ด้วยระบบ Keeper Test ไม่ต้องรอใครมาขอลาออก ทุกคนเก่งสุดๆ ทุกคนในทีมมุ่งแข่งขันกับคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าพอใจ ไม่ใช่แข่งกันเอง เอาแต่โชว์หรือเอาใจเจ้านาย
เมื่อผู้บริหารมอบหมายแล้ว ต้องวางใจ รอคอยดูผลงาน ให้ Feedback ช่วยเหลือถ้าทีมต้องการ ไม่แทรกแซง ใช้บริบท กำหนดเป้าหมาย
การให้อิสระและความรับผิดชอบ ทำให้เกิดความคล่องตัว สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ง่าย-เร็ว ส่วนเรื่องที่ต้องเน้นความปลอดภัย ความถูกต้องสูง ความลับ ถ้าผิดแล้วเสียหายร้ายแรง ก็ยังคงต้องดำเนินการด้วย กฏระเบียบ ขั้นตอนที่รัดกุม เข้มงวดอยู่
ส่วนตัวผมคิดว่า เป็นแนวทางที่ดี สำหรับองค์กรขนาดไม่ใหญ่มาก เกิดมาจากคนรุ่นใหม่ ต้องการเติบโตสุดๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มากๆ
ถ้านำมาปรับใช้กับตัวเองและทีมงาน เชื่อว่าจะได้ประโยชน์
ช่องทางง่ายๆสำหรับคนอยากมีความรู้ แต่ไม่อยากเสียเวลา
Facebook:
https://www.facebook.com/Pageyoyyodbaicha
Youtube: -
Blockdit:
https://www.blockdit.com/pages/60ccad4d83951012689ba045
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย