15 ธ.ค. 2022 เวลา 02:42 • ธุรกิจ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องมือการตลาดที่สำคัญในยุคปัจจุบันคือโซเชียลมีเดียเพราะเป็นสิ่งที่มีคนเข้าถึงมากที่สุด โดยเฉพาะในประเทศไทยจากผลสำรวจของ DATAREPORTAL แสดงให้เห็นว่าในช่วงต้นปี 2022 จำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียในประเทศไทยสูงถึง 81.2 ของประชากรทั้งหมด แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจึงพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานและนักการตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด และนี่คือเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 บนโซเชียลมีเดียในแต่ละแพลตฟอร์มกัน
2
•Tiktok
1. การพัฒนาระบบไลฟ์สด
 
ในแอปเวอร์ชั่นจีน ( Douyin ) การไลฟ์สดเป็นรายได้หลักของแอป สำหรับเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ( Tiktok ) ผู้สร้างได้พยายามพัฒนาเพื่อให้การไลฟ์สดใน Tiktok ประสบความสำเร็จเหมือนใน Douyin โดยหาช่องทางให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จากการไลฟ์สดให้มากขึ้น
2. ระบบการจ่ายเงินใหม่สำหรับครีเอเตอร์
ระบบการจ่ายเงินแบบ Creator Found บน Tiktok ไม่สามารถสร้างแรงกระตุ้นให้กับครีเอเตอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามจำนวนมากได้อีกต่อไป เพื่อดึงครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก มีการคาดการณ์ว่า Tiktok มีแผนที่จะสร้างระบบการจ่ายเงินใหม่ให้กับครีเอเตอร์ที่คล้ายกับ Youtube ที่จะจ่ายเงินตามเปอร์เซ็นต์ยอดคนดูโฆษณาในแต่ละวิดีโอ
•Facebook
1. เพิ่มการมองเห็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้มาจากผู้ติดตามมากขึ้น
ในปี 2023 Facebook มีแผนเอาใจผู้ใช้ที่มีอายุน้อยมากขึ้นโดยเพิ่มการมองเห็นสิ่งที่น่าสนใจให้กับผู้ใช้งานมากขึ้นคล้ายในแอป Tiktok โดยหมวด Home จะเป็นหมวดที่ส่วนใหญ่ผู้ใช้เห็นเนื้อหาที่น่าสนใจจากครีเอเตอร์ที่ผู้ใช้ไม่ได้ติดตาม แต่ถ้าผู้ใช้อยากเห็นเนื้อหาจากคนหรือเพจที่ผู้ใช้ติดตามมากขึ้นก็สามารถเลือกดูที่หมวด Feeds ได้ โดยจุดเด่นของ Facebook ที่ต่างจาก Tiktok คือการไม่จำกัดอยู่เพียงวิดีโอที่มีขนาดสั้น ผู้ใช้สามารถเห็นบทความ รูปภาพ อัปเดตข่าวสาร กลุ่ม วิดีโอยาวจากทั้งคนที่ผู้ใช้ติดตามและไม่ได้ติดตาม
2. การสนับสนุนให้ใช้อวาตาร์ในการแสดงตัวตนรวมถึงการสร้างวัตถุ 3 มิติ
Facebook มีแผนจะสนับสนุนให้ผู้ใช้อวาตาร์ในการแสดงตัวตนบนโลกดิจิทัลมากขึ้นเช่น การตั้งรูปโปรไฟล์ การแสดงตัวอวาตาร์ขณะวิดีโอคอลไปจนถึงการโพสต์อัปเดตสถานะ การสร้าง Reels จากโลก VR รวมถึงการสนับสนุนให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ สร้างวัตถุ 3 มิติ เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภค
3. การพัฒนา Message Ads
Message Ads เป็นอีกเครื่องมือที่จะช่วยให้แบรนด์ใน Facebook สามารถเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เป็นการตอบสนองต่อผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ต้องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ผ่าน Direct Message
4. เลิกสนับสนุนโพสต์ที่มีการแปะลิงก์จากภายนอก
Facebook ยังมีแนวโน้มที่จะเลิกสนับสนุนโพสต์ที่มีการแปะลิงก์จากภายนอก เพราะต้องการให้คนใช้งานบน Facebook นานขึ้น โพสต์ที่ Facebook จะสนับสนุนการมองเห็นคือโพสต์มีมและโพสต์สร้างคำถามที่จะทำให้ผู้ใช้หลายอื่นสนใจและทำให้มีคนติดตามมากขึ้น
•Instagram
1. การพัฒนาการมองเห็นของ AI และปรับปรุง เพิ่มการมองเห็น Reels
จากการร้องเรียนจำนวนมาก Instagram ได้ประกาศลดจำนวนโพสต์ที่แนะนำโดย AI จนกว่าจะพัฒนาให้ผู้ใช้พอใจและรับประกันได้ว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดี โดย Instagram จะเน้นแสดงโพสต์ครีเอเตอร์ที่มีการโพสต์อย่างต่อเนื่องและได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้ใช้หลายอื่นที่เห็นโพสต์ โดยในอนาคต Instagram มีแผนที่จะพัฒนา AI ให้มีการเห็น Reels มากขึ้น เพราะ Reels เป็นเนื้อหาที่เติบโตเร็วที่สุดและได้รับความนิยม พร้อมการกลับมาใช้การทำงานวิดีโอเต็มหน้าจอเพื่อให้ครีเอเตอร์มีส่วนร่วมกับ Reels / Stories มากขึ้น
2. การกระตุ้นการมีส่วนร่วมกับ Metaverse
Instagram มีแนวคิดสนับสนุนโพสต์ AR 3D และศิลปะ NFT มากขึ้น โดยการเพิ่มหมวด Digital collectible เป็นหมวดที่ครีเอเตอร์จะสามารถจัดแสดงงานศิลปะของตัวเองได้เพื่อกระตุ้นให้คนสนใจโลก VR มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์อีกด้วยว่า Instagram จะมีเครื่องมือใหม่เพื่อสนับสนุนให้ครีเอเตอร์สามารถสร้าง GIF จาก Live Photos บน Instagram และการรวมเครื่องมือสร้างรูป 3 มิติจากแพลตฟอร์ม Spark AR เข้ากับ Instagram โดยตรงเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับครีเอเตอร์รวมถึงการกระตุ้นให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ สนใจทำโฆษณา AR เพื่อเพิ่มความสนใจจากผู้บริโภคอีกด้วย
3. การสนับสนุนไลฟ์ทาง Instagram
Instagram ได้สนับสนุนการไลฟ์สดขายของโดยการเพิ่มเครื่องมือที่คนไลฟ์สามารถเพิ่มลิงก์ผลิตภัณฑ์ขณะไลฟ์สดได้ ในอนาคตคาดการณ์ว่า Instagram จะพัฒนาการไลฟ์สดให้เหมาะกับแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์มากขึ้น
•Twitter
 
1. การจ่ายเงินรายเดือนสำหรับบัญชีที่เป็นทางการ
Twitter ภายใต้ Elon Musk มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก หนึ่งในนั่นคือการเก็บเงินสำหรับบัญชีที่ต้องการสัญลักษณ์หรือมีสัญลักษณ์ที่เป็นทางการเพื่อพัฒนาการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นแต่จะไม่มีการเก็บเงินเพิ่มจากบัญชีทั่วไป
โดยมีแนวโน้มว่า Twitter จะมีการปรับอัลกอรทึมให้ผู้ใช้สามารถคัดเลือกสิ่งที่ผู้ใช้จะมองเห็นผ่านฟีดทวีตมากขึ้น รวมถึงเสรีภาพในการโพสต์ที่ Twitter ต้องการให้ผู้ใช้ได้อิสระมากขึ้น แต่มีแนวโน้มที่เรื่องเสรีภาพในการพูดจะต้องถูกระงับในการพัฒนาไปก่อนด้วยแบรนด์โฆษณาใน Twitter ยังคงต้องการขอบเขตสำหรับการรับคำวิจารณ์จากผู้ใช้งาน รวมถึง Elon Musk ยังคงต้องการการสนับสนุนจากประเทศที่มีการเข้มงวดเรื่องการใช้คำวิจารณ์บนโลกออนไลน์อยู่
2. การเพิ่มความปลอดภัยและการตรวจสอบ
Twitter มีแผนที่จะเพิ่มความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยและการตรวจสอบว่าบัญชีที่มีเป็นบัญชีจริง ไม่ใช่บัญชีบอท โดยอาจจะเพิ่มการยืนยันตัวตนผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์หรืออื่น ๆ บัญชีที่ได้รับการยืนยันตัวตนจะมีสัญลักษณ์ มีการคาดการณ์ว่าสัญลักษณ์อาจจะคล้ายกับเครื่องหมายถูกสีเทาของ Facebook ที่เคยมีการใช้งาน
3. การชำระเงินด้วย Cryptocurrency
จุดเริ่มต้นความสำเร็จของ Elon Musk มาจาก Paypal แอปชำระเงินออนไลน์ชื่อดัง รวมถึงการที่ Elon สนับสนุนคริปโต เป็นไปได้มากว่า Twitter ภายใต้การดูแลของ Elon จะมีการพัฒนาเครื่องมือชำระเงินผ่านสกุลคริปโตใน Twitter มากขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่า Elon จะทำให้แอป Twitter สามารถแก้ปัญหาในเรื่องของความมั่นคงของสกุลเงินคริปโตได้โดยการทำให้ Twitter เป็นธนาคารออนไลน์เพิ่มช่องทางหลากหลายมากขึ้นสำหรับการใช้จ่าย เช่น ค่าโฆษณา
 
4. การเพิ่มวิดีโอยาวขึ้น
ในปัจจุบันวิดีโอเป็นอีกคอนเทนต์สำคัญทั้งสำหรับครีเอเตอร์และแบรนด์โฆษณาจึงมีแนวโน้มว่า Twitter จะพัฒนาวิดีโอให้ยาวมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้
Text : flymetothemoon
#startup #smestartup #sme #เทรนด์โซเชียลมีเดีย #โซเชียลมีเดีย2023
โฆษณา