12 ธ.ค. 2022 เวลา 05:06 • ท่องเที่ยว
ศาลเจ้าอาซากุสะ

วัดเซนโซจิ ญี่ปุ่น

ถ้าทุกคนไปญี่ปุ่น ทุกคนจะไปเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่นกันหรอคะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวัดที่หลายๆคนที่เคยไปญี่ปุ่นต้องเคยไปมาแล้ว นั่นก็คือ วัดเซนโซจิ นั่นเอง
วัดเซนโซจิหรือหลายๆคนอาจจะคุ้นชื่อ วัดอาซากุสะ หรือ วัดโคมแดงนั่นเอง
วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว โดยจะมีถนนนากามิเสะที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดที่จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย
วัดแห่งนี้มีสัญลักษณ์เป็นโคมสีแดงใหญ่ ที่เขียนเป็นตัวอักษรคันจิว่า Kaminari-Mon ซึ่งแปลว่า ประตูสายฟ้า เชื่อว่าหลายๆคนคงจะจำวัดนี้ได้ก็น่าจะจำได้อย่างแน่นอน
ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า ประมาณปี ค.ศ. 628 มีชาวประมง 2 พี่น้อง ชื่อว่า ฮิโนกูมะ ฮามานาริ และฮิโนกูมะ ทาเกนาริ
ทุกวันจะออกหาปลาที่แม่น้ำซูมิดะ มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นทั้งวันจับปลาไม่ได้สักตัว จึงอธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้จับปลาได้สักตัว เพื่อกลับไปทานเป็นอาหารเย็น
แต่พอเหวี่ยงแหออกไป สิ่งที่ติดแหขึ้นมา กลับเป็นเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำ สูง 5 นิ้ว จึงนำไปให้หัวหน้าหมู่บ้านของทั้งสองที่ชื่อว่า ฮาจิโนะ นากาโมโตะ
หัวหน้าหมู่บ้านได้ตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าแม่กวนอิม จึงได้เปลี่ยนแปลงบ้านของตนในอาซากูซะให้กลายเป็นวัดขนาดเล็ก เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ เพื่อให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้บูชา
ทั้งชาวบ้านและเหล่าซามูไรมักจะเดินทางมาขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมเป็นประจำ และสิ่งที่ขอพรไปนั้นก็มักจะสมปรารถนาอยู่เสมอ ทำให้ชาวบ้านและเหล่าซามูไรมีความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก
ชื่อเสียงในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าแม่กวนอิมนี้ ได้แพร่กระจายไปทั่วญี่ปุ่น มีคนจากทั่วสารทิศเดินทางมาวัดเซ็นโวจิเพื่อสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิม จนล่ำลือไปถึงท่านโชกุน ท่านโชกุนจึงได้ให้มีการสร้างอาคารหลังใหญ่ขึ้นในปี ค.ศ. 645 และต่อเติมส่วนต่าง ๆ เรื่อยมาอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั้น
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปี ค.ศ. 1945 อาคารส่วนใหญ่ของเซ็นโซจิ ได้รับความเสียหายจากการถูกทิ้งระเบิด และถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในภายหลัง ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่และความสงบสุขให้กับคนญี่ปุ่น
ตอนนี้คนนิยมไปเที่ยวกันมากและยังมีร้านค้ามากมาย ใครที่เคยไปมาอวดได้นะคะ เรารอมีโอกาสได้ไปเราจะมาแล่าให้ฟังแน่นอน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา