Kang's Journal: Geo Geek
เบื้องหลังธงและตราแผ่นดิน : โมร็อกโก กับดวงดาวแห่งโซโลมอน
Source: dreamtimes
นาทีนี้เห็นจะไม่พูดถึงประเทศจากแอฟริกาเหนือประเทศนี้คงไม่ได้ เพราะเป็นประเทศที่ติด TOP 4 ในการแข่งขัน FIFA World Cup 2022 ที่ประเทศกาตาร์ สร้างความตื่นตะลึงให้แฟนบอลทั่วโลก และถือเป็นครั้งแรกที่ทีมฟุตบอลจากแอฟริกามาได้ไกลขนาดนี้
ทีมชาติโมร็อกโก ในการแข่งขัน FIFA World Cup 2022 ที่กาตาร์ (Source: Sport Illustrated)
ประวัติของประเทศโมร็อกโก เริ่มต้นขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 ตอนที่มีการรวบรวมชนเผ่า Berber ในดินแดนบริเวณนี้ขึ้นมาเป็นปึกแผ่น และมีการนำศาสนาอิสลามเข้ามาเผยแพร่ ทำให้ดินแดนในแถบนี้ถือเป็นดินแดนแห่งแรกในทวีปแอฟริกา และดินแดนแห่งแรกนอกคาบสมุทรอารเบียที่รับศาสนาอิสลาม เข้ามาเป็นศาสนาประจำชาติ และในปัจจุบัน 99% ของชาวโมร็อกโกก็ยังคงนับถือศาสนาอิสลาม
เรื่องราวที่น่าสนใจคือ ภูมิประเทศของโมร็อกโกนั้นมีความหลากหลายสูงมาก ตั้งแต่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ตั้งของเมืองตากอากาศชื่อดังอย่าง Tangier เทือกเขา Atlas ซึ่งในฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุม และเป็นสถานที่ตั้งของ Ski Resort ที่สูงที่สุดของทวีปแอฟริกา ไปจนถึงทะเลทรายซาฮาร่าอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่
OUKAÏMEDEN ที่ตั้งของ Ski Resort ที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา (Source: https://www.lesjardinsdelamedina.com)
การท่องเที่ยว ถือเป็นรายได้หลักอันดับ 2 ของประเทศ เมืองโบราณอย่าง Fez ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ปีละกว่า 1 ล้านคน รวมไปถึงเมืองอย่าง Casablanca, Marrakech หรือการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในเทือกเขา Atlas และทะเลทรายซาฮาร่า
เมืองเก่า Fez ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการย้อมสีหนัง (Source: tripsavvy)
สุดท้ายเรื่องที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับโมร็อกโกคือเรื่องของตับ ในขณะที่ทั่วโลกใช้หัวใจเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนแห่งรักอันบริสุทธิ์ แต่สำหรับชาวโมร็อกโก ตับคือสัญลักษณ์แห่งความรัก ดังนั้นในขณะที่ทั่วโลกใช้ประโยคบอกรักที่ว่า “คุณได้หัวใจผมไปครองแล้ว” ชาวโมร็อกโกจะบอกคนรักของตนเองว่า “คุณได้ตับผมไปครองแล้ว” นั่นเอง
มาดูเรื่องของธงกันบ้างดีกว่า
อัตราส่วนธง : 2:3
รูปร่างของธง : สี่เหลี่ยมผืนผ้า
เริ่มใช้งาน : 17 พฤศจิกายน 1915
ธงชาติโมร็อกโก (Source: istock)
ธงชาติของโมร็อกโก เป็นธงชาติที่มีการออกแบบที่ค่อนข้างเรียบง่าย โดยจะมีพื้นหลังเป็นสีแดง และมีดาว 5 แฉกสีเขียว อยู่บริเวณตรงกลางของธง
สีแดง ถือว่าเป็นสีที่มีความสำคัญสำหรับชาวโมร็อกโกเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสีประจำราชวงศ์ Alawid ที่เคยปกครองดินแดนในแถบนี้มาก่อนตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดยราชวงศ์ Alawid สืบเชื้อสายมาจากศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลาม ผ่านทางหลานชายของท่านศาสดานามว่า Hasan Ibn Ali และ ณ เวลานี้ราชวงศ์ Alawid ก็ยังปกครองประเทศโมร็อกโกอยู่ในฐานะประมุขของประเทศ โดยกษัตริย์องค์ปัจจุบันมีนามว่า กษัตริย์มูฮัมหมัดที่ 4
กษัตริย์มูฮัมหมัดที่ 4 กษัตริย์องค์ปัจจุบันของราชอาณาจักรโมร็อกโก (Source: https://atalayar.com)
ในช่วงที่ราชวงศ์ Alawid ปกครองดินแดนแถบนี้ ธงชาติของโมร็อกโกจะเป็นสีแดงล้วน แต่ต่อมาในปี 1915 สุลต่านยูเซฟที่ปกครองประเทศอยู่ในตอนนั้น ได้มีการเพิ่มดวงดาวสีเขียวเข้าไปตรงกลางของธง โดยให้เหตุผลว่า พระองค์ต้องการให้ธงของโมร็อกโกมีความโดดเด่น และแตกต่างจากธงของชนเผ่าอื่น ๆ ในดินแดนในบริเวณนั้น
ธงสีแดงล้วน ถูกใช้เป็นธงชาติของโมร็อกโกตั้งแต่ปี 1666-1915
แต่ดวงดาวสีเขียวไม่ใช่ดวงดาวธรรมดา แต่มันคือ Seal of Solomon เป็นตราสัญลักษณ์ของกษัตริย์ Solomon ในตำนาน ผู้ครองดินแดนอิสราเอล และเป็นผู้สร้างวัดแห่งแรกขึ้นในนครเยรูซาเล็ม สำหรับศาสนาอิสลามแล้วนั้น กษัตริย์ Solomon ถือเป็นผู้เผยแผ่พระวจนะ หรือพูดง่าย ๆ คือผู้ถ่ายทอดคำสอนของศาสดามูฮัมหมัดคนสำคัญ
กษัตริย์ Solomon ผู้เผยแผ่พระวจนะของศาสดามูฮัมหมัด (Source: https://www.learnreligions.com)
ตามตำนานกษัตริย์ Solomon จะมีแหวนวิเศษวงหนึ่งที่มีตราเป็นรูปดาว 5 แฉก ที่มีเส้นเชื่อมกันไปมา ซึ่งแหวนวงนี้ทำให้พระองค์มีพลังวิเศษ สามารถควบคุมสิ่งเหนือธรรมชาติได้ และสามารถทำให้พระองค์พูดคุยกับเหล่าบรรดาสัตว์ต่าง ๆ ได้ด้วย และ Seal of Solomon ต่อมาได้รับการพัฒนามาเป็น Star of David ที่อยู่บนธงชาติของอิสราเอล สัญลักษณ์ของชาวยิวนั่นเอง
นอกจากนี้ ดวงดาวสีเขียวที่มี 5 แฉก ยังแสดงถึง 5 เสาของหลักศาสนาอิสลาม ส่วนการเลือกใช้สีเขียวนั้นก็เป็นเพราะสีเขียวคือสีของศาสนาอิสาม และเป็นสีของสวรรค์ในคัมภีร์อัลกุรอ่านนั่นเอง
ในปี 2010 ธงชาติโมร็อกโกขนาด 60,400 ตารางเมตร หนัก 22 ตัน ถูกผลิตขึ้นและนำไปวางไว้ในเขต Dakhla ของเขตปกครองตนเอง Western Sahara ดินแดนที่ในปัจจุบันยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นของใครกันแน่ ซึ่งโมร็อกโกคือหนึ่งในผู้อ้างสิทธิ์เหนือดินแดนในบริเวณนี้ และธงผืนนี้ได้รับการบันทึกไว้ใน Guinness Book of World Record ว่าคือธงผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ ช่วงเวลานั้น
ธงชาติโมร็อกโกขนาด 60,400 ตารางเมตร หนัก 22 ตัน ที่ได้รับการบันทึกไว้ใน Guinness Book of World Record (Source: Quora)
ต่อมาเป็นเรื่องของตราแผ่นดินของโมร็อกโกกันบ้าง
ตราแผ่นดินของโมร็อกโก (Source: Wikipedia)
ตราแผ่นดินของโมร็อกโก ถูกใช้เป็นครั้งแรกในปี 1957 หลังจากที่ประเทศโมร็อกโกได้รับเอกราชจากสเปนและฝรั่งเศส ตรงกลางเป็นสัญลักษณ์พระอาทิตย์ครึ่งดวงบนพื้นหลังสีฟ้า ลักษณะเหมือนพระอาทิตย์ที่กำลังเริ่มขึ้นเหนือขอบฟ้า โดยจะมีรัศมีของพระอาทิตย์ทั้งหมด 15 เส้นด้วยกัน สื่อถึงรุ่งอรุณอันโชติช่วงของประเทศ
ใต้พระอาทิตย์จะเป็นเหมือนกับเส้นโค้งที่มีลักษณะเหมือนกับมีสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสานกันอยู่สามชั้น จริง ๆ แล้วในสมัยก่อนเส้นโค้งตรงนี้จะเป็นรูปภูเขาโค้ง เพื่อสื่อถึงเทือกเขา Atlas เทือกเขาสำคัญของประเทศ แต่มีการเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบตามปัจจุบัน เพื่อให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น ดังนั้นภาพที่เห็นจะเป็นเหมือนพระอาทิตย์กำลังขึ้นเบื้องหลังเทือกเขา Atlas นั่นเอง
เทือกเขา Atlas อันงดงามของโมร็อกโก (Source: https://metro.co.uk)
ส่วนด้านใต้ภูเขา จะเป็นสัญลักษณ์ Seal of Solomon สีเขียว บนพื้นหลังสีแดง แบบเดียวกับธงชาติของประเทศ
ด้านบนสุดของตราจะเป็นมงกุฎ ที่ประดับไปด้วยมรกตสีเขียว และอัญมณีสีแดง พร้อมตรา Seal of Solomon ที่ด้านบน สื่อถึงความมีอยู่ของราชวงศ์ Alawid ที่ยังคงดำรงตำแหน่งประมุขของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน
มงกุฎของราชวงศ์ Alawid (Source: Pinterest)
ส่วนทั้งสองข้างของตราแผ่นดินจะมีสิงโตบาร์บารี 2 ตัวประกบซ้ายขวา ถ้าสังเกตดีดีตัวซ้ายจะหันหน้าไปทางขวา ส่วนตัวขวา จะหันหน้าตรงมาข้างหน้า สื่อให้เห็นถึงความพร้อมที่จะปกป้องประเทศจากศัตรูทั้งปวง
ขอพูดถึงสิงโตบาร์บารีนิดนึงนะครับ สิงโตชนิดนี้มีถิ่นอาศัยอยู่ในแอฟริกาเหนือ บริเวณเทือกเขา Atlas มีการเขียนถึงสิงโตชนิดนี้มาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ และในยุคโรมัน สิงโตชนิดนี้มักจะถูกนำมาใช้ในเกมส์กีฬาที่จัดในโคลอสเซียม แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ในปัจจุบันสิงโตชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยมีการพบเห็นครั้งสุดท้ายในปี 1942
สิงโตบาร์บารี เป็นสิงโตที่มีการนำมาใช้ในการต่อสู้กับ Gladiator ในสมัยโรมัน (Source: Wikipedia)
สุดท้ายที่ด้านล่างของตราแผ่นดินจะมีริบบิ้นที่มีข้อความภาษาอาหรับว่า إن تنصروا الله ينصركم ซึ่งมาจากคัมภีร์กุรอ่าน หมายความว่า “If you glorify God, he will glorify you” หรือ “ถ้าคุณสรรเสริญพระเจ้า พระเจ้าก็จะสรรเสริญคุณ”
จะเห็นได้ว่าตราแผ่นดินของโมร็อกโก ค่อนข้างจะมีส่วนผสมของความเป็นอิสลามอย่างชัดเจน ซึ่งก็สื่อถึงรากเหง้าของชาวโมร็อกโกได้เป็นอย่างดี
มัสยิด Hassan ที่ 2 ที่เมือง Casablanca ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมัสยิดที่มีความงดงามมากที่สุดในโลก (Source: Pinterest)
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของธงชาติและตราแผ่นดินของประเทศจากแอฟริกาเหนือประเทศนี้ครับ
ที่มา:
- 30
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
