Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
iAmtasmanian
•
ติดตาม
12 ธ.ค. 2022 เวลา 07:27 • นิยาย เรื่องสั้น
คืนโจรกรรม
บ้านสองชั้นหลังคาอิฐแดงโอ่อ่าหรูหราบ่งบอกถึงผู้อยู่อาศัยมีอันจะกิน เงินทองเหลือใช้ตลอดทั้งชีวิตนี้ หาความสุขสบายกายและใจไม่มีที่ไหนเทียบเท่า ยามวิกาลมืดสนิท ไฟหน้าบ้านเปิดส่องสว่างไว้ตลอดทั้งคืน บ้านทั้งหลังปิดไฟพักผ่อนหลับนอนในย่านนี้
ผมอยู่ข้างในบ้าน เดินย่องฝีเท้าเบาไปตามทางเดินที่วางเส้นทางเป็นอย่างดี
พอมาถึงห้องที่เก็บทองคำแท่งอย่างกับหีบสมบัติของโจรสลัด ผู้เป็นเจ้าของไม่ต้องการนำไปฝากไว้กับธนาคาร ซึ่งน่าจะปลอดภัยกว่า การไว้ใกล้ตัวอาจทำให้รู้สึกสบายใจจนย่ามใจ อย่าวางใจ หากถูกทำให้วางใจ มักไม่เฉลียวใจทันก่อนได้ตระหนักรู้ก็สายไปแล้ว ล้อมรั้วก็หายไปทั้งรั้วนั่นเอง
มือพิมพ์รหัสวันเกิด รหัสผ่านตู้นิรภัยส่งเสียงคลิก แสงสว่างสีเขียวสะท้อนดวงตา เสียบกุญแจได้มาจากลิ้นชักแฟ้มเอกสารที่ซ่อนเสียลึกลับ หากไม่พ้นสายตาช่างสอดส่องของผมได้เลย
โกยทองแท่ง ทองรูปพรรณ ทั้งแหวนแต่งงานประดับเพชรสิบสี่กะรัต เขามีแผนจะให้ผมหลังจัดเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน
มันย้ำเตือนใจ ถ้าผมคิดทำพลาดไป จะสูญเสียมากกว่าสิ่งของล้ำค่านอกกาย
รถคันดำไว้สำหรับหลบหนี ดับเครื่องจอดรอจนกว่าผมจะออกปรากฏให้ชายหนุ่มที่คอยอยู่ในรถเห็นได้ชื่นใจ ยืนกรานผมทำสำเร็จ ที่จะหนีความผิดบาปนี้ไปด้วยกัน เพียงอารมณ์ชั่ววูบของผมคนเดียว
ค่อยๆ ดันประตูเปิดออก หลังผูกปากถุงกระสอบด้วยเชือก ใช้เส้นทางประตูบานเล็กด้านหลังบ้านพ้นรั้วคอนกรีต ไม่คิดจะเหลียวกลับไป ครั้นจิตใต้สำนึกปลุกความผิดชอบชั่วดีอะไรควรมิควรอีกแล้ว
เปิดประตูหลังรถ โยนถุงกระสอบบรรจุทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านลงบนเบาะยวบด้วยน้ำหนักมหาศาล กำลังปลดเปลื้องจากใจ ผมกระชากประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ยื่นหน้าบดขยี้ริมฝีปากกับเขานาทีสองนาที ก่อนสลัดหลุดจากการนัวเนีย สันจมูกแนบชิด ลมหายใจร้อนผ่าวถ่ายโอนแลกเปลี่ยนกันและกัน ในความเงียบ เสียงหัวเราะแผ่วกระซิบนั้นดังเสียเหลือเกิน
มีของล้ำค่าหนึ่งอย่างที่ผมไม่ได้นำไปรวมไว้ในถุง ถูกยัดลงในกระเป๋าแจ็กเกตด้านใน และไม่บอกให้คนตรงหน้ารู้โดยเด็ดขาด
เครื่องยนต์ติดส่งเสียงครางกระหึ่ม ไฟหน้ารถเปิดสว่างนำทางครั้นพ้นออกมาไกลแล้ว
นาฬิกาดิจิทัลในรถเป็นเวลาตีสามตรง ขับรถบนถนนใหญ่เปล่าเปลี่ยว รถราวิ่งสวนไปมาเห็นไม่บ่อยนัก
เลี้ยวรถเข้าโรงแรมชั่วคราว เขาย้ายถุงกระสอบหนักหลายกิโลกรัมไว้ที่ท้ายรถ
แขนโอบรัดรอบเอวผมไว้แน่น ระหว่างทางมาที่ล็อบบี้เพื่อนำกุญแจห้องไปเปิด เราก็จูบกันดูดดื่มตั้งหลายครั้ง
หน้าห้องหมายเลข 210 ภายในมืดบอด มือของผมไล่คลำผนังหาแป้นสวิตช์ไฟ ห้องสว่างด้วยหลอดไฟเอลอีดีสีขาวเจิดจ้าทันควัน ต้องหรี่ตาปรับให้คุ้นชิน
เขาเปลื้องผ้าผมทีละชิ้น ผมก็ทำกับเขาเช่นนั้นเหมือนกัน ขณะนั้นเขาเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์เปิดเพลงที่ชอบ โยกย้ายด้วยเรือนร่างเปลือยเปล่าแนบเนื้อกันยากจะแยกจากกัน
เขาประกบริมฝีปากค้างไว้อย่างนั้นเสียเนิ่นนาน เอียงใบหน้าเล็กน้อย ลิ้นใช้เปิดปาก นำเข้าไปพัวพันกับลิ้นในปากของผม น้ำลายของเขาและผมถูกกลืนลงคอ รสชาติแสนอร่อยนี้อาจอยู่ได้ลิ้มลองไม่นาน ผมรู้ดีแก่ใจ
เขาขับดันผมเข้ามาในห้องน้ำ ฝักบัวปล่อยน้ำเหมือนหยาดฝนชโลมกายทั้งสอง
ผมทิ้งตัวลงคุกเข่าตรงหน้า มือสองข้างกดและบีบไหล่ผมเสียแรง ลิ้นเลียแก่นกาย ปลายลิ้นแหย่ปากท่อปัสสาวะ น้ำหล่อลื่นไร้สัมผัสบนปุ่มรับรส ปากครอบแก่นกายจนมิดลำ ลึกถึงลำคอ เขากดหัวค้างไว้ ครางเสียงด้วยอารมณ์เสียวซ่าน ผมต้องสำลัก หอบหายใจหนักหน่วงเข้าปาก น้ำลายไหลเยิ้มระโยงระยาง
เขานั่งยอง เชยคาง ลิ้นแลบเลียน้ำลายเลอะริมฝีปาก ก่อนประทับจูบเกือบลืมหายใจเข้าจมูก
แขนสอดเข้าใต้วงแขน ดึงผมให้ลุกขึ้นยืน จับผมหันหลัง หน้าแนบผนังห้องน้ำ
เขารูดหนังองคชาตเปิดหัวเห็ดดอกสีแดงสด ปาดตรงปากโพรงขึ้นลง ถ่มน้ำลายรดหัวองคชาต ค่อยจับมันยัดเข้าไปข้างในโพรงของผมเพียงครั้งเดียว
ผมกัดริมฝีปากล่าง ไม่ใช่ครั้งแรกเริ่ม แต่เขาก็ทำให้ผมรู้สึกเจ็บรวดร้าวเหมือนครั้งแรกทีเดียว และเสียวจนขนลุกทุกอณูรูขุมขนร่างกาย เจียนจะทำผมหลั่งเดี๋ยวนี้เลย ทั้งที่เขายังไม่เริ่มขยับ หรือทำผมจุกท้องคล้ายจะขับถ่ายด้วยซ้ำ
มือบีบเคล้นหน้าอก นิ้วเขี่ยจุกยอดอกผมเล่น ใบหน้าซุกซอกคอ ลมหายใจร้อนผ่าวลามเลียผิวหนัง ผมสำเร็จก่อนเขากระแทกระรัวหลั่งใน ของเหลวอุ่นที่ลื่นข้างใน ผมเบ่งถ่ายออกมาหยดแหมะลงพื้นห้องน้ำเจิ่งนอง ปิดฝักบัวแล้ว
เขาอุ้มร่างโรยราเหน็ดเหนื่อยด้วยสองแขนแข็งแกร่งมาที่เตียงขาวบริสุทธิ์ผิดกับความสัมพันธ์มลทิน
เราไม่คิดจะสวมเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอนต่างผ้าขนหนูเปียกน้ำแฉะ ค่อยๆ ระเหยแห้งไป เขาโอบกอดกระชับกายเขา ผมเพียงต้องการหลับตางีบเอาแรงสักหน่อย ทว่า ร่างกายเขายังคงตื่นตัวตลอดด้วยความปรารถนาในเรือนร่างที่มีผลต่อกามารมณ์ ประหนึ่งกองไฟมิมอดม้วย ให้ความร้อนแรงพลุ่งพล่านในใจของเขาอยู่ ต่างกับผมสิ้นเชิง
"ผมยังไม่อยากให้คุณนอนก่อนเลย"
เขาหอมไหล่ของผมฟอดหนึ่ง
"คุณนี่แรงเยอะจังเลยนะครับ"
"ผมต้องการแค่คุณ"
"เราก็มีกันและกันแล้วไม่ใช่เหรอครับ"
ผมยิ้มแป้น
"คุณคิดดีแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้"
เขาถามเข้าประเด็นราวกับปักลงกลางหัวใจ
ผมถามย้ำกับตัวเองในใจ อะไรกันที่นำพาให้ผมมาลงเอยที่แห่งนี้ ผมไม่อาจให้คำตอบกับเขา หรือตอบคำถามตัวเองได้ขณะนี้ เริ่มจะสับสน ไม่ได้กลัว แต่กำลังจมลงไปในปลักแห่งความตระหนักคิดได้ขึ้นมาแล้ว ความรู้สึกผิดในใจเรียกร้อง ให้ผมควรหยุด ไม่ไปต่อ ย้อนกลับหันหลังก็ไม่ได้
ผมส่ายหน้าโกหกเขา
ประกบริมฝีปาก เขาใช้แขนที่โอบผมเหวี่ยงผมขึ้นคร่อมบนร่างหนาของเขา
แก่นกายข้างในเคลื่อนเข้าและออกโดยการควบคุมจังหวะแต่ช่วง เนิบช้าโหยหา เร้าใจเกินต้านทาน ไม่มีทางหยุดยั้งความเจ็บปวด ทวีคูณเมื่อเขาใกล้จะถึงจุดสุดยอด ของเหลวอุ่นข้นหนืดพุ่งกระฉูดข้างในผม หลั่งจนหมด เขาก็ไม่ถอนออก ไว้ข้างในผม และเรางีบหลับไปด้วยกัน
ความกังวลปลุกผมรุ่งสาง ท้องฟ้าสีคราม แสงสีทองอร่ามของดวงอาทิตย์แรกวันนี้ระบายอย่างสวยงาม ตัดกับแสงสีชมพู เมฆสีทึบอ้อยอิ่งบนนั้น
รถตำรวจเปิดเพียงไฟไซเรนกะพริบวิบวับไม่กระโตกกระโตกทำผู้คนตื่นผวา กำลังเลี้ยวเข้ามาในลานจอดรถหน้าโรงแรม
ผมรีบปลุกเขาตื่นด้วยใจร้อนรน สวมเสื้อผ้าใช้เวลาน้อยนิดที่สุดเท่าที่ทำได้ วิ่งตะลีตะลานมาถึงรถ กระชากประตูรถเปิด สตาร์ทเครื่องยนต์ เหยียบคันเร่งมิดทะยานออกจากโรงแรม ตำรวจเห็นท่าทีรถคันดำมีพิรุธ จึงไล่กวดกระชั้น
เขาสับเปลี่ยนเส้นทาง กระทั่งสลัดรถตำรวจจนพ้นรัศมีอันตรายมาได้
แวะพักที่ร้านอาหารเช้าข้างทาง ผมไตร่ตรองกับตัวเองเงียบๆ มาตลอดทาง
ผมไม่อาจจะเลือกไปต่อกับเขาได้อีกแล้ว ยากเกินกว่าจะบอกเพื่อขอแยกทาง สุดท้ายโจรขโมยทั้งสองก็ไม่สามารถเดินทางร่วมกันถึงฝั่งฝันได้ ไม่ถูกจับด้วยกัน ต้องมีใครสักคนทรยศหักหลังกันในท้ายที่สุดอยู่ดี
เปรียบดั่งความสุขที่ผมได้มาง่ายๆ ชั่ววูบในอารมณ์ หลังได้สบตากับเขา ก็แอบนัดเจอกันในสถานที่ปลอดภัยในซุ้มโจร
ครั้งเดียวไม่มากพอจะดับไฟเสน่หาในใจให้มอดลง ยิ่งห่างกันยิ่งสุมให้โหมกระพือ พอได้มีโอกาสหนีออกมาอยู่ด้วยกัน ผมกลับพบว่ามันไม่ใช่ความต้องการ แต่เป็นความอยากที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้พิจารณาให้ดีเสียก่อน ฉกฉวยมาครอบครอง
ความสำนึกผิดเป็นดั่งน้ำสาดลงบนกองเพลิง โดยที่ผมเองเป็นคนทำ
เขาวางมือทาบบนมือของผม กำมันไว้ประดุจคำมั่นสัญญาเขาจะไม่ปล่อย หากผมไม่ได้เป็นคนที่กำมันไว้ ไม่ยากเกินสะบัดมันให้หลุดพ้นเป็นอิสระ ต่อให้เขาบีบไว้แน่นเท่าไรก็ตาม
"เดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
ผมพยักหน้า
"เสร็จแล้ว ผมจะพาคุณหนีไปด้วยกันกับผมต่อ จะมีแค่เราสองคนเท่านั้น"
ให้หลังจากเขาหมุนตัว ผมไม่อาจฝืนกั้น พนังเขื่อนมีรอยร้าวน้ำซึมผ่านรอยแยก
ผมคว้ากุญแจรถ มุ่งตรงไปที่รถคันดำ ทิ้งเขาไว้ที่นี่ตลอดไป คว้าถุงกระสอบทอง เพื่อเป็นการยืนกรานกับหัวใจเจ็บปวดตัวเองแล้วว่า จะไม่ย้อนกลับไปคืนให้กับเจ้าของของมัน หาข้างทางโยนทิ้งเสียให้ไกล ไม่ต้องหาเจออีกแล้ว
ผมอยากมีคำบอกลากับเขา แต่เขาเห็นความสำคัญในตัวผมมากไป จนบั่นทอนความกล้าจะทอดทิ้งเขาไว้กับความโหดร้ายที่ผมต้องการมอบให้ ที่ตัดสินใจทรยศหักหลังคนที่รักผมสุดหัวใจทั้งสองคน และตัวเองต้องเผชิญหน้ากับความว่างเปล่าในหนทางข้างหน้าเปล่าเปลี่ยว ไม่เหลือใครเคียงข้างก็สมควรแล้ว
รถจอดริมทางหาดทราย ผมนั่งอยู่บนโขดหินยักษ์ในเช้าสดใส กอดเข่าตัวเอง ท้องฟ้าสีฟ้ากระจ่าง เมฆขาวปลอดเต็มนภา ลมจากทะเลพัดพากลิ่นเค็มไม่ขาดสาย ไม่อาจหอบความรู้สึกย่ำแย่ทำให้หัวเจ็บปวดไปจากข้างใน ความปล่อยใจไม่คิดอะไรเริ่มส่งผลให้หัวใจผมด้านชาชั่วครู่ เยียวยาอะไรไม่ได้ นอกจากเวลาและการทำใจ
"มานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียว"
ผมสะดุ้งโหยงหันขวับ
ชายที่จะเป็นรักแท้ของผมยืนทอดสายตาจับจ้องสุดขอบฟ้าทะเลอยู่ที่ด้านหลัง
"หาเราเจอได้ยังไงกัน"
วันหนึ่งความผิดของผม ก็ต้องถูกจับได้ไม่ว่าเร็วหรือช้า โจรไม่มีทางปกปิด หรือหนีไปพร้อมกับความลับได้ตลอดกาล เขาจะรู้ตัว ตามหาคำตอบ ไม่ใช่คำถามที่ทำไมผมถึงทิ้งเขามา แต่เป็นคำถามว่าผมยังมีความรักเหลือให้เขาอยู่ไหม
ผมรู้สึกผิดกับความผิดมหันต์นี้ ที่จะให้คำตอบเขาได้ทันที
"คงเป็นแรงปรารถนากระมัง"
เขาหันมามอง
"กับเขาคนนั้นเป็นไง"
เขาเอ่ยถาม ไม่มีน้ำเสียงส่อแววจะโกรธเคืองเลยสักนิด สบายอารมณ์ราวกับเตรียมใจมาเพื่อรับทุกคำตอบของผมอยู่แล้ว
"ดีแค่ในอารมณ์ชั่ววูบ"
"ก็เลยหนีเขาคนนั้นมา"
"กะจะหนีทุกอย่าง"
"แต่ก็หนีไม่พ้น"
ผมคลำมือตรงกระเป๋าแจ็กเกต พบวงแหวนข้างใน ล้วงมันออกมา ยื่นสุดแขนจะคืนมันให้เขา เป็นสิ่งล้ำค่าเดียวที่เขามีไว้มอบให้ผมคนเดียวในโลกใบนี้เท่านั้น เป็นการรักษาคำพูดว่าผมจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่เขามอบหัวใจดวงนี้ให้ด้วย และทั้งชีวิตของเขาฝากไว้กับผม แต่ผมกลับเลือกจะทิ้งความสุขสบายใจและกาย เพื่อออกมาลิ้มลองรสชาติหวานสุขเดี๋ยวก็ข่มระทมใจหรือเนี่ย
"คงงั้นแหละ"
"ในเมื่อตอนนี้แล้ว"
เขาเอ่ยถามคำถามที่ผมจะไม่มีวันให้คำตอบเขาหรือแม้แต่ตัวเองได้ในวันนี้ จะยังคู่ควรอยู่หรือไม่
ก็ทั้งเสียดาย และก็รู้สึกไม่ควรค่าอีกต่อไปแล้วในเวลาเดียวกัน
"เรายังรักกันอยู่ไหม"
หวังว่า…
สักวินาที
ผมจะเลือกทิ้งตราบาปในช่วงเวลาผ่านพ้นไปแล้ว
และเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่ให้โอกาส แม้จะถูกทำร้ายมาก่อน นำกลับไปทำร้ายหัวใจอีกครั้งซ้ำๆ เมื่อถูกทำให้เกิดความระแวงในใจเขา
ผมรับประกันอะไรไม่ได้
เลือกจะออกมาให้เขาปลอดภัย
หรือเลือกเดินกลับเข้าไปให้เขารู้สึกอันตราย
ติดตามงานเขียนเรื่องสั้นอื่นๆ ได้ที่
⬇
https://www.readawrite.com/?action=user_page&user_id_publisher=3431319
นิยายวาย
นิยายเรื่องสั้น
นิยายดราม่า
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย