วิธีการปลูก “เคพกูสเบอร์รี่” ผลไม้ชาวดอย วิตามินซีสูง
เพื่อน ๆ เกษตรสัญจร มีใครรู้จักหรือเคยทานเคพกูสเบอร์รี่หรือโทงเทงฝรั่งกันบ้างครับ วันนี้เกษตรสัญจรนำประโยชน์ดี ๆ ของเคพกูสเบอร์รี่ และวิธีการปลูกมาฝากเพื่อน ๆ ครับ
เคพกูสเบอร์รี่ (Cape Gooseberry) เป็นผลไม้ที่มีรูปร่างคล้ายมะเขือ และมีเปลือกบาง ๆ ห่อหุ้ม เคพกูสเบอร์รี่จะออกผลในช่วงหน้าหนาวเหมือนกับสตรอว์เบอร์รี
ประโยชน์ของเคพกูสเบอร์รี่ มีวิตามินซีมากกว่าเลมอนถึง 2 เท่า อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินเอ มีสารแคโรทีนอยด์ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ
วิธีการปลูกเคพกูสเบอร์รี่ สามารถปลูกได้ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด มีขั้นตอนดังนี้ครับ
-เลือกเมล็ดพันธุ์เคพกูสเบอร์รี่ที่ต้องการปลูก
-เตรียมดินปลูกหรือพีทมอสใส่ในตระกร้าเพาะ
-นำเมล็ดเคพกูสเบอร์รี่ หยอดลงในหลุม
-เมื่อต้นเคพกูสเบอร์รี่เริ่มโต มีใบ 2 ใบแล้ว จึงเริ่มย้ายลงบนถาดเพาะ
-เมื่อต้นกล้าเจริญเติบโตได้ประมาณ 1 เดือน จึงย้ายลงแปลงปลูก โดยปลูกในระยะ 1.5 x 1.5 หรือ 2 x 2 เมตร
-ใช้ระยะเวลา 70 - 80 วัน ต้นเคพกูสเบอร์รี่ จะเริ่มโตให้ผลผลิตและสามารถเก็บเกี่ยวได้
เพื่อน ๆ เกษตรสัญจรทราบถึงประโยชน์และวิธีปลูกเคพกูสเบอร์รี่แล้ว ลองหามาปลูกดูนะครับ เพื่อที่จะได้มีผลไม้ที่มีประโยชน์ไว้รับประทานและดีต่อสุขภาพครับ
……………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
