14 ธ.ค. 2022 เวลา 02:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ
“อัตราส่วนค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม ส่งผลขนาดไหน”
ในการเลือกกองทุนรวม ผมจะแนะนำให้ทุกท่านพยายามเลือกกองทุนรวมที่เก็บ อัตราส่วนค่าใช้จ่าย หรือ Total Expense Ratio ต่ำที่สุด เพราะว่าค่าใช้จ่ายนี้จะดึงเก็บออกจากมูลค่าของกองทุนรวมในทุกๆวัน
โดยในตลาดกองทุนรวมบ้านเรา เท่าที่ผมได้ดูข้อมูลคร่าวๆ ก็จะพบว่า หากเป็นกองทุนรวมอิงดัชนี หรือ Passive Fund จะเก็บอัตราส่วนค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 0.4%-0.8% ส่วนกองทุนรวมเชิงรุก หรือ Active Fund จะเก็บอัตราส่วนค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 1%-2% โดยประมาณ
ผมทดลองคำนวณผลตอบแทนจากการนำเงิน 1 ล้านบาทไปลงทุนในกองทุนรวมหุ้นในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 10-50ปี โดยสมมติฐานว่าดัชนีหุ้น ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี กองทุนรวมอิงดัชนี (Index Fund) เก็บอัตราส่วนค่าใช้จ่าย 0.5% และ กองทุนรวมเชิงรุก (Active Fund) เก็บอัตราส่วนค่าใช้จ่าย 1.2% ดูสิว่าสุดท้ายเมื่อผ่านไปเงินจะแตกต่างกันมากขนาดไหน
ผลจากการคำนวณพบว่า
เวลา 10 ปี จากเงิน 1 ล้าน ดัชนีตลาดหุ้น 2.1 ล้าน, Index Fund 2 ล้าน, Active Fund 1.9 ล้าน
เวลา 20 ปี จากเงิน 1 ล้าน ดัชนีตลาดหุ้น 4.6 ล้าน, Index Fund 4.2 ล้าน, Active Fund 3.7 ล้าน
เวลา 30 ปี จากเงิน 1 ล้าน ดัชนีตลาดหุ้น 10 ล้าน, Index Fund 8.7 ล้าน, Active Fund 7.1 ล้าน
เวลา 40 ปี จากเงิน 1 ล้าน ดัชนีตลาดหุ้น 21.7 ล้าน, Index Fund 18 ล้าน, Active Fund 13.8 ล้าน
เวลา 50 ปี จากเงิน 1 ล้าน ดัชนีตลาดหุ้น 46.9 ล้าน, Index Fund 37.1 ล้าน, Active Fund 26.8 ล้าน
เห็นได้ว่า อัตราค่าใช้จ่ายที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย สามารถสร้างผลตอบแทนที่แตกต่างกันมหาศาลเมื่อระยะเวลาผ่านไปยาวนานขึ้น หากคุณคิดว่าการลงทุนในครั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่อชีวิตและมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานมาก อย่าลืมผลกระทบจากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมนะครับ
#บันทึกการลงทุนแนวPassive
โฆษณา