การฉ้อโกงที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของสิงคโปร์ สะท้อนเคสหุ้น MORE
ในปี 2013 John Soh และแฟนของเขา Quah Su-Ling ได้เปิดบัญชีค้าหุ้นมากกว่า 169 บัญชีกับสถาบันการเงินมากกว่า 20 แห่ง และเกี่ยวข้องกับบุคคลและนิติบุคคลมากกว่า 60 คน/แห่ง
บัญชีเหล่านี้ถูกนำไปสร้างสภาพการซื้อขายที่ผิดปกติบน Penny Stock หรือหุ้นที่มีปัญหาจนแทบไม่มีราคา และสภาพคล่อง จนทำให้หุ้นเหล่านี้ปรับตัวสูงขึ้น และมีนักลงทุนเข้ามาเล่นจำนวนมาก
แต่แล้วในวันที่ 4 ตุลาคม 2013 ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรง จนกระทั่งสูญเสียมูลค่าตลาดไปมากถึง 8 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ในวันเดียว หลังจากที่หุ้นของบริษัท Blumont Group, Asiasons Capital และ LionGold Corp มีการปรับตัวอย่างรุนแรงตั้งแต่เปิดตลาดจน SGX ต้องแขวนหุ้นดังกล่าว
และพาเอาหุ้น Penny Stock ตัวอื่น ๆ ปรับตัวลดลงตามไปด้วย หุ้นทั้งสามตัวนี้ถูกเรียกว่า BAL และเป็นหุ้นขวัญใจแมงเม่า เพราะราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 8 เด้ง ภายในระยะเวลา 9 เดือนก่อนเกิดเหตุ
ในวันทำการถัดมา 7 ตุลาคม หุ้นทั้งสามก็ยังปรับตัวลดลงต่ออย่างรุนแรง จนทำให้ SGX ต้องสั่งห้ามการซื้อขายโดยไม่มีการส่งมอบหุ้น (Contra Trading) และการขายชอร์ต (Short Sale)
หลังจากนั้น ตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์ก็ทำให้นักลงทุนสูญเสียความมั่นใจในการลงทุน ปริมาณการซื้อขาย 12 เดือนหลังจากนั้น ปรับตัวลดลงถึง 60% จนทำให้ปริมาณการซื้อขายลดลง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้านั้น โดยปริมาณการซื้อขายที่ลดลงส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก
SGX จึงได้มีการออกกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เข้ามากำกับดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันความผันผวนของราคา และการเก็งกำไร
และสำหรับคดีดังกล่าว ในปี 2014 Commercial Affairs Department ได้เข้ามาตรวจสอบว่ามีการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย Securities and Futures Act อย่างไรบ้าง ซึ่งในตอนแรกพบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้อง 8 บริษัท และมีคนเกี่ยวข้อง 13 ราย ที่ถูกกล่าวหาว่า สร้างราคาเทียม และสร้างสภาพตลาดให้คนเข้าใจผิด
Quah Su-Ling อดีตผู้บริหารของ Ipco International ถูกพบว่าเป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องหลายรายที่ถูกฟ้องร้องจากความเสียหาย 79 ล้านเหรียญสิงคโปร์ โดยบริษัท Interactive Brokers บริษัทหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา
ในปี 2016 John Soh Chee Wen และผู้ร่วมสมคบคิด Goh Hin Calm ได้ถูกจับกุมโดยทางการสิงคโปร์ และต่อมา John Soh เองได้ถูกกล่าวหาว่าทำความผิดมากถึง 181 กระทงตามกฎหมาย Securities and Futures Act, the Companies Act และ the Penal Code (กฎหมายอาญา) และต่อมาถูกฟ้องเพิ่มอีก 7 กระทง จากการพยายามข่มขู่พยาน และการสร้างพยานเท็จ (Witness tampering)
ส่วน Quah Su-Ling ถูกดำเนินคดีมากถึง 177 กระทงเกี่ยวกับการสร้างสภาพราคาของหุ้นทั้งสามบริษัท รวมถึงการฉ้อโกงสถาบันการเงิน และทำการสั่งซื้อขายหุ้นโดยไม่มีขออนุญาตจากสถาบันการเงิน
และในปีนี้เอง หลังจากการไต่สวนนานกว่า 200 วัน ตลอดช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา John Soh และ Quah Su-Ling ถูกศาลตัดสินให้มีความผิดจริงในการกระทำความผิดรวมกันทั้งหมด 349 กระทง โดย John Soh ถูกศาลสั่งให้จำคุก 40 ปี แต่หลังจากการลดหย่อนโทษ และส่วนที่จำคุกมาก่อนหน้าแล้ว 6 ปี จึงทำให้เหลือโทษจำคุกประมาณ 20 ปี ส่วน Quah Su-Ling ถูกศาลสั่งให้จำคุก 19 ปีครึ่ง
อ้างอิง :
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
