14 ธ.ค. 2022 เวลา 22:49 • กีฬา
- คนที่ถูกมองข้าม -
แน่นอนว่าเมื่อ ฝรั่งเศส เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อีกครั้งและกลายเป็นชาติที่เข้าไปป้องกันแชมป์โลกได้ในรอบ 24 ปีทุกสายตาและทุกสื่อต่างจับจ้องไปที่ประธานเป้
มันคือการพบกันระหว่าง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ คลื่นลูกใหม่ใหม่สดเนื้อเด้งกับ ลิโอเนล เมสซี่ ที่งัดทุกอย่างเท่าที่มีกับโอกาสครั้งสุดท้ายเพื่อจุดสูงที่สุดในชีวิต
ไม่แปลกครับเพราะทั้งคู่คือซูเปอร์สตาร์ที่ถูกจับจ้องอยู่แล้วเพียงแต่มันมีคลื่นใต้น้ำที่ทะลึ่งพรวดเข้ามา
อองตวน กรีซมันน์
แข้งจาก แอตเลติโก้ มาดริด ราวกับถูกลืมเลือนไปจากหน้าสื่อไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่เขาควรได้รับคำยกย่องมากกว่านี้อีก
ช่วงหลัง กรีซซี่ ถูกมองข้ามไปก็จริงด้วยอาจจะเพราะในสโมสรช่วงแรกได้ลงสนามแปปเดียวอย่างที่หลายๆคนทราบกันในกรณีของ แอตเลติโก้ กับ บาร์เซโลน่า
ไหนจะฟุตบอลโลกหนนี้ คาริม เบนเซม่า ยังกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง พอเบนซ์เจ็บอดเล่นก็กลายเป็น โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่ฟอร์มเปรี้ยงยิงหักด่า เธียร์รี่ อองรี ผงาดเป็นดาวซัลโวสูงสุดอีก
ชื่อของ กรีซมันน์ เลยไม่ได้ถูกสนใจจากสื่อมากนักเพียงแต่สิ่งที่เขาแสดงออกมามันกลายเป็นว่าเริ่มได้รับความสนใจและจับจ้องมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะหลังเกมที่ ฝรั่งเศส เอาชนะ โมร็อกโก ไปได้ 2-0
48 สัมผัสบอล
9 นำบอลกลับคืน
7 ดวลชนะ
4 สร้างโอกาส
4 เรียกฟาวล์
3 ครอสส์
2 แท็คเกิ้ล
2 ฉกบอล
1 สร้างโอกาสสำคัญ
นี่คือตัวเลขที่ออกมาผสมผสานกับ 'ฮีตแมป' ที่ถูกเผยแพร่ให้เห็นชัดเจนว่า กรีซมันน์ วิ่งพล่านไปทั่วสนาม
เขาได้รับเลือกให้เป็น 'แมน ออฟ เดอะ แมตช์' โดยที่ไม่มีชื่อเป็นผู้แอสซิสต์หรือทำประตูเลย แต่เขาได้รับเลือกเพราะผลงานในสนามล้วนๆ
กรีซซี่ คือนักเตะที่สร้างโอกาสได้มากที่สุดในฟุตบอลโลก 2022 หนนี้และเป็นนักเตะคนแรกที่สร้างโอกาสได้เกิน 20 ครั้งเป็นคนแรกอีกต่างหาก
จากบทบาทเดิมเมื่อปี 2018 ที่เคยเป็นตัวจี๊ดทะลวงประตูเปลี่ยนแปลงมาเป็นซูเปอร์เพลย์เมคเกอร์ให้กับ "ตราไก่" ที่ตอนนี้คงพิมพ์ได้เต็มๆล่ะว่า 'สมบูรณ์แบบ' เอามากๆ
ก่อนหน้าที่ทาง กรีซมันน์ เพิ่งได้รับมอบเสื้อหมายเลข 28 หรือการทำไป 28 แอสซิสต์ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดตลอดกาลของทีมชาติฝรั่งเศส
นอกจากเกมรุกแล้ว กรีซมันน์ ยังมีบทบาทในเกมรับอีกต่างหาก ถึงขนาด ปอล ป็อกบา อัพสตอรี่อินสตาแกรมหลังเกมกับ โมร็อกโก ว่า 'กรีซมันน์ ก็องเต้' กันไปเลย
รวมๆแล้วกลายเป็นว่าหลังจบจากแมตช์ โมร็อกโก พื้นที่หน้าสื่อของกรีซมันน์มีขึ้นเรื่อยๆ และคนก็เริ่มมองว่านี่ล่ะจะเป็นนักเตะ MVP ประจำทัวนาเม้นท์ไปแล้วถ้าหาก ฝรั่งเศส ป้องกันแชมป์ได้
มาจนถึงตอนนี้หากจะบอกว่ารอบชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่าง กรีซมันน์ กับ เมสซี่ เองก็ยังได้เลยด้วยซ้ำ
ในวัย 31 ปี กรีซมันน์ ทำหน้าที่ของตัวเองได้ไม่เคอะเขิน เขาก้มหน้าก้มตาเล่นเพื่อทีม และคู่ควรคำชมอย่างแท้จริง
โฆษณา