15 ธ.ค. 2022 เวลา 00:47 • หุ้น & เศรษฐกิจ
6 หุ้นเด่น เดือนธันวา
ภาพรวมตลาดต่างประเทศ
- เงินเฟ้อเริ่มลดลงมาเรื่อยๆ FED สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้
- FED อาจจะมีนโยบายการเงินผ่อนคลายลง
- ตลาดมองว่าดอกเบี้ยคงไม่ขึ้นเกิน 5% แล้ว
- ตอนนี้อยู่ในจุด cover position ตลาดดีดตัวกลับมา แต่ก็ให้เฝ้าระวังตลาดกลับมา recession อีกครั้ง แต่อาจจะยังไม่ใช่ในไตรมาส 4 ปีนี้ หรือไตรมาส 1 ปีหน้า อาจจะขยับออกไปอีก
2
- ปัจจัยที่ต้องกังวล เงินเฟ้อที่มาจาก non-housing
- สภาพคล่องทางการเงินไม่ได้สูงมาก
ภาพรวมตลาดหุ้นไทย
- ภาพรวมธันวายังมองบวกต่อเนื่อง ภาพทุกอย่างดีขึ้น ไตรมาส 4 เป็นช่วงผ่อนคลาย
- สาเหตุที่ตลาดหุ้นขึ้นทั่วโลก เพราะคนมองไปปีหน้าแล้ว เพราะเงินเฟ้อก็น่าจะจบ ปีหน้าพอดอลล่าร์อ่อนค่า เงินถึงจะไหลกลับมาตลาดหุ้นอีก
- การเลือกตั้ง หุ้นที่เกี่ยวกับการเมืองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เช่น SC Asset SANSIRI
- เงินเฟ้อไทยลงมาอย่างต่อเนื่อง ประชุม กนง. ครบหมดแล้ว และดอกเบี้ยไม่สารถขึ้นต่อได้อีกแล้ว หากจะขึ้นก็ไม่เกิน 2-2.25% ซึ่งก็ไม่ได้กระทบภาคบริโภคมากเกินไป
- มีการ rebound ของกลุ่ม Finance ประกอบการเลือกตั้ง และกลุ่มที่เด่นๆ คือ ธนาคาร Finance ค้าปลีก
การที่ต่างชาติขายออกไปเยอะ ไม่ได้น่ากังวล เพราะต่างชาติซื้อสะสมไว้เยอะ ก็อาจจะมีขายบ้างก็ไม่เป็นไร โดยปกติในเดือนธันวา กองทุนในประเทศที่ขายไป ก็จะกลับมาน่าซื้อบ้างหรือขายน้อยลง แต่ 2 ปีที่ผ่านมามีการขาย ซึ่งปกติจะซื้อ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงจาก LTF เป็น SSF และ SSF มีระยะเวลา 10 ปี สามารถไปลงต่างประเทศได้ด้วย แต่เชื่อว่าเงินจะคืนกลับมาสภาบันอยู่แล้ว
1
ปัจจัยที่เป็นประเด็นบวกคือ
1. การเลือกตั้ง
2. การปรับดัชนี FTSE (16 ธ.ค.)
3. SET 50 Rebalance หุ้นที่คาดวว่าจะเข้า DELTA RATCH CENTEL COM7 หุ้นที่คาดว่าจะออก IRPC SAWAD BLA KCE
ในเดือนธันวาตลาดหุ้นจะไต่ไปได้ถึง 1660 – 1670 แต่สำหรับปีหน้าก็ต้องเตรียมตัวรับมือ recession ปีหน้าหุ้นจะเคลื่อนไหวโดยไม่สวนความรู้สึก ภาพตลาดปีหน้าจะไม่ต่างจากปีนี้ มองว่านักลงทุนต่างประเทศจะมาหลบภัยที่ไทยในช่วงครึ่งปีแรก
1
หุ้นแนะนำ
1. AMATA เนื่องจากรัฐบาลจะมีการดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามา กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมจึงน่าสนใจ และ AMATA มีแผนการลงทุน set up ให้สิทธิพิเศษ EEC และมี High Speed เชื่อมโยง 3 สนามบิน คิดว่า Project ต่างๆจะถูกเร่งให้เสร็จ
AMATA ราคายัง Laggard กำลังฟอร์มตัว ราคาอยู่ในโซนล่าง กำลังจะฟื้นตัว เป้าหมายปีหน้า 27.00 บาท
2
2. RATCH ถูกและดี มีปันผล ปีหน้ามีโอกาสซิ่ง ตาดการณ์กำไรโตปีหน้า 70%
มองว่าปีหน้าจะเป็นธีม recession เพราะฉะนั้น หุ้น dividend yield หุ้นราคาถูก จะแข็งแรงกว่าตลาด
ในไตรมาส 1 ปีหน้าคาดว่าจะปิดดีล โรงไฟฟ้า PYTON และ Nexif Energy และจะรับรู้กำไร
กลุ่มโรงไฟฟ้า P/E RATCH ต่ำสุดที่สุด อยู่ที่ 7 เท่า และจะเข้า SET 50 ด้วย ราคาเป้าหมาย 59.00 บาท
3. GULF มีความคืบหน้าพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน คิดว่า GULF จะชนะ ขายไฟ ได้ในสัดส่วนค่อนข้างสูง
ปี 2023 earning base จะเร่งตัวจาก 9000 ไปถึง 17000 ลบ. เพราะจะมีโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้น
ซึ่งก็มองไปจนถึงช่วงเลือกตัง น่าจะ outperform กว่าตัวอื่น มองระวั้นเป้า 55.00 บาท
4. MAKRO น่าจะถึงเวลากลับมา outperform กลุ่ม ล่าสุดมีการทำ Big lot ทำให้ free float เพิ่มขึ้น15% ,
มีโอกาสจะเข้าดัชนีต่างประเทศในปีหน้าไตรมาส 1
ในไตรมาส 4 เป็น High season ของธุรกิจค้าปลีก ปีนี้คนจะเฉลิมฉลองนอกบ้าน ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลประโยชน์โดยตรง ซึ่ง MAKRO ขายให้กับธุรกิจนี้ถึง 30% และ margin เยอะ รวมถึงได้แรงหนุนจากบอลโลกด้วย
ปี 66 จะเห็นกำไรชัดเจนกว่าปีนี้ เพราะค่าใช้จ่ายได้เกิดขึ้นไปแล้ว จะมีกำไรเด่นสุดในกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 48 บาท
5. CRC มองว่าค้าปลีก outperform ตั้งแต่ธันวาไปจนปีหน้าถึงการเลือกตั้ง
ภาพ ASIA จะมีการ Re-opening ปีหน้ากำไรโตแต่ไม่เท่า MAKRO เป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม และมากกว่ากลุ่ม
P/E ไม่พงมากนัก ราคาอยู่ในโซน All Time High มีโอกาสวิ่งได้ไกล ขึ้น ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท
6. IMH Valuation ถูกเพียงพอ น่าเข้าสะสมรอบใหม่ ราคาหุ้นปัจจุบัน P/E ไม่แพง ต่อให้กำไรดรอปในปีหน้า ก็ยังไม่แพง IMH P/E ต่ำสุดในกลุ่ม แต่ ROE สูง ลำดับ Top 3 ของกลุ่ม
ไตรมาส 4 เกิดแพร่ระบาดรอบใหม่ ตรงนี้เป็น upside
ข้อเด่นในระยะยาว จะมีรพ.เปิดใหม่ในปี 68 ตรงแบริ่ง ซึ่งจะมีห้างใหญ่มาเปิดและติดกับสถานีรถไฟฟ้า คิดว่าทำเลดีมีคนเข้าเยอะ ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.05%
TFEX สัญญาละ 18-20
กับโบรคเกอร์
แนะนำหุ้นโดยที่ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาต
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
โฆษณา