15 ธ.ค. 2022 เวลา 01:15 • ความคิดเห็น
เรื่องหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิด มันก็เกิด..ที่ทำงานทำบุญเลี้ยงพระ เราก็นั่งพับเพียบพนมมือ ฟังพระสวด ตั้งแต่ต้น ..นั่งนิ่ง หลับตา ตามันเห็นผู้คนมากมาย นั่งพับเพียบเหมือนกัน พนมหันหน้าเข้าหาเรา ..ตอนนั่น..เราก็ทำเฉย..อยู่ นิ่ง.. พอพระให้พรเรียบร้อย ก็มาทบทวน ตัวเอง ว่าสงสัย เราจะหลงหรือ หลอนไปแล้ว ..ทำไมคนที่เป็นนามธรรม ทำไมมาไหว้หันหน้ามาทางเรา ไม่หันหน้าไปทางที่พระกำลังสวด นั่งหันหลังให้พระเสียนี่
เราก็ต้องไปถามพระที่ท่านสอนเรา..ท่านบอกว่า ถูกแล้ว ..เพราะพระที่มาสวด ท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรม.. พวกที่เป็นนามธรรม เค้ารู้จักว่า คนไหนประพฤติปฏิบัติธรรม .. เค้าก็เข้าไปหาคนประพฤติปฏิบัติธรรม ทำจิตได้ ..เค้าก็เข้าไปหาคนนั้น..เค้าไม่ได้ไปเห็นว่าคนนี้เป็นนักบวช คนนี้เป็นฆราวาส เค้าเห็นคนที่ปฏิบัติธรรม ..ตาของเค้า..เค้าไม่มีตาแบบมนุษย์ เหมือนเค้าอยู่ในที่มืด ตรงไหนมีแสงสว่าง เค้าก็เข้าไปหา
..นั่นเป็นเรื่องหนึ่ง ทำให้เราค่อยเข้าใจ ว่าการประพฤติปฏิบัติธรรมตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ..มีอานิสงส์อย่างนี้เอง ค่อยเข้าใจในเรื่องการทำบุญ ..ว่าสงเคราะห์ จิตที่ติดอยู่ในสถานที่นั้น..ไปไหนไม่ได้ ..ไม่มีเรี่ยวแรงไปไหน อานิสงส์ที่เกิดจากบุญกุศล ก็เหมือนคนหิวข้าว ได้กินข้าวอิ่มไปมื้อหนึ่ง ..ทำดีๆ ก็อิ่มได้นาน เป็นเดือน..
เรื่องราวทำนอง..ที่จริงก็เหมือน ธรรม..ท่านแสดงให้ดู ให้ศึกษา ..ว่าเรื่องบุญกุศล ทำให้เกิดอะไรบ้าง. เราจะได้รู้จัก ..ว่าการทำบุญสร้างกุศลนั่น ..สามารถช่วยจิตวิญญาณที่เค้าทุกข์ ได้มีความกำลัง คลายร้อน ผ่อนคลายทุกข์ บรรเทาทุกข์ได้ ก็เหมือนกับคนเรานี่แหละ
ที่เค้าบอกว่า ตอนเป็นมนุษย์เป็นคน สร้างบุญกุศลน่ะ แต่ไม่ค่อยทำ พอจิตออกจากสังขาร มีแต่ความทุกข์ทรมานทรกรรมยาวนาน..นั่นก็ทำให้เราเข้าใจ ค่อยใจในสิ่งที่เราสะสมบุญกุศล นั่นจิตเราได้รับอะไร รับบุญกุศลที่เกิดขึ้น กายก็เบาขึ้น จิตก็เบาขึ้น อารมณ์วุ่นวายไม่มี จิตก็เป็นสุข ไม่ลุกลี้ลุกลน..เร่าร้อนด้วยอารมณ์ที่แผดเผาเรือรกาย ..ไม่รู้น่าภูมิใจมั้ย ..แต่เราไม่ได้ไปยึด ในสิ่งที่เกิดขึ้น..ยึดเมื่อไหร่ ก็จมปลักวัวควายเมื่อนั่น
โฆษณา