ญี่ปุ่นมีแผนจะสร้างกองทัพที่ใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
320,000 ล้านดอลล่าร์ใน 5 ปี
คืองบประมาณที่ญี่ปุ่นจะทุ่มลงไปในการพัฒนากองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นขึ้นมาใหม่
ตามคำประกาศของนายกรัฐมนตรี ฟูจิโอะ คิชิดะ
คิชิดะ กล่าวกับประชาชนว่า ญี่ปุ่นกำลังอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญด้านความมั่นคง
ตัวอย่างการรุกรานของรัสเซียในยูเครน สร้างความไม่มั่นใจในความสงบของช่องแคบไต้หวัน ระหว่างจีนกับไต้หวัน
การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือข้ามทะเลญี่ปุ่น ถือเป็นภัยคุกคามที่ไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป
ทิศทางใหม่ของเราคือ กองกำลังป้องกันตนเองต้องมีความทันสมัยและแข็งแกร่งระดับโลกอย่างแท้จริง
รัฐบาลจะเริ่มสะสมยุทโธปกรณ์ จัดการระบบการขนส่งและเตรียมการสำหรับสงครามไซเบอร์
ตามเป้าหมายแล้ว ญี่ปุ่นมีแผนส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศผ่านบริษัทญี่ปุ่นอย่างมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี้
การสั่งซื้อขีปนาวุธพิสัยทำการไกลกว่า 300 กม.ขึ้นไป อย่างเช่น โทมาฮอร์คของสหรัฐฯ
โดรนล่องหน เรือดำน้ำ เฮลิคอปเตอร์ เรือรบ
รวมทั้งยังมีโครงการร่วมพัฒนาเครื่องบินไอพ่นกับอังกฤษและอิตาลี
ญี่ปุ่นจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมเป็น 2% ของ GDP ต่อปี จากเดิมที่ญี่ปุ่นไม่เคยตั้งงบกลาโหมเกิน 1% มาตลอดนับตั้งแต่ปี 1976
และหากเป็นไปตามแผน การใช้งบ 320,000 ล้านดอลล่าร์ใน 5 ปี จะทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณทางการทหารสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองแค่สหรัฐฯ และจีน เท่านั้น
แต่สิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นต้องให้คำตอบกับประชาชนก่อนก็คือ เงินที่จะใช้ในภารกิจยกระดับกองทัพในครั้งนี้ จะเอามาจากไหน?
หากใช้วิธีการขึ้นภาษี ประชาชนจะยินยอมหรือไม่ เราคงต้องรอดูกันต่อไป...
References;
ติดตามอ่านบทความได้ที่
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
