17 ธ.ค. 2022 เวลา 08:50 • การศึกษา
ใครควรรับผิดชอบ เมื่อหมูแหลกคาปาก ไก่เละคาท้อง (กรณีเนื้อบริสุทธิ์สาม)
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ได้เกิดเหตุการณ์ที่นักบาสดาวรุ่งชาวรัสเซียเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าช๊อต ขณะเก็บลูกบาสที่กระดอนไปบริเวณรั้วเหล็กในลานกีฬาชุมชนเมืองพัทยา
หลังเกิดเหตุการณ์สั่นสะเทือนความรู้สึกที่น่าเหลือเชื่อนี้แล้ว ได้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่า “ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ”
ประเทศไทยควรรับผิดชอบ เพราะชาวรัสเซียผู้นี้เสียชีวิตที่ประเทศไทย
แต่...ประเทศกว้างใหญ่ไพศาลถึงเพียงนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่ประเทศจะดูแลความปลอดภัยได้ครบทุกคน
งั้นเทศบาลควรรับผิดชอบ เพราะลานกีฬาเป็นของเทศบาลเมืองพัทยา
แต่... แม้ลานกีฬาจะอยู่ในเขตเทศบาลเมืองพัทยาก็จริง มันก็เป็นเรื่องของการไฟฟ้า เพราะเรื่องการตรวจสอบความปลอดภัยทางไฟฟ้าเป็นเรื่องของการไฟฟ้า
งั้นการไฟฟ้าต้องรับผิดชอบ
แต่...การไฟฟ้าได้ตรวจสอบส่งมอบเสร็จแล้ว คนรับผิดชอบก็ต้องเป็นฝ่ายโยธา
บรา....
งั้นก็เป็นเรื่องของกรรม เพราะคนเล่นตั้งหลายคน ทำไมชาวรัสเซียจึงอยู่ในจังหวะนั้นพอดี
มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่ได้เกิดเหตุการณ์เสียชีวิตทั้งที กลับไม่มีใครรับผิดชอบเลย?!!!
คำว่า “รับผิดชอบ” เวลารับชอบ ทุกคนก็แย่งกับรับชอบ แต่ครั้นเกิดความผิดที่ต้องรับผิด ทุกคนต่างก็เตะทิ้งไปไกลๆ อย่างกับเตะฟุตบอล มันถูกต้องแล้วล่ะหรือ?
ครั้นกล่าวถึงเนื้อบริสุทธิ์สาม การตีความเนื้อบริสุทธิ์สาม ก็ทำให้เกิดความอยุติธรรมกับสัตว์ที่ถูกฆ่าที่ไม่ต่างอะไรกับนักบาสชาวรัสเซียนี้เลย
เนื้อบริสุทธิ์สามคืออะไร?
เนื้อบริสุทธิ์สามหมายถึง เป็นเนื้อที่พระสามารถฉันได้ หากเข้าเงื่อนไขสามประการ กล่าวคือ
ประการที่หนึ่ง ไม่ได้เห็นว่าเขาทำเจาะจงเพื่อเรา
ประการที่สอง ไม่ได้ยินว่าเขาทำเจาะจงเพื่อเรา
ประการที่สาม ไม่ได้รังเกียจ หรือคลางแคลงใจว่าเขาทำเจาะจงเพื่อเรา
เมื่อเข้าเงื่อนไขสามประการนี้ ก็ถือว่าเป็นเนื้อบริสุทธิ์ที่สามารถฉันได้
การตีความเนื้อบริสุทธิ์สามนี้ สำหรับข้อที่หนึ่งกับข้อที่สองค่อนข้างตรงไปตรงมา สามารถตีความได้ไม่ยาก แต่การตีความในข้อที่สามนั้น ได้ตีความว่า “เนื้อสัตว์ที่ถูกชำแระขายในตลาด ไม่ได้เจาะจงเฉพาะใคร ดังนั้นเนื้อในตลาด จึงสามารถฉันได้ ไม่เป็นบาป”
เมื่อได้ตีความเช่นนี้ สัตว์ที่ถูกสังหารและชำแระเนื้อไปปรุงอาหาร ก็คงจะอุทธรณ์ด้วยความโกรธแค้นว่า
“เป็นไปได้อย่างไร ข้าตายทั้งที แต่ไม่มีใครต้องรับผิดเลย ทีเวลารับชอบ ทุกคนต่างก็รับชอบกันไปแล้ว เวลาให้รับผิด ทุกคนต่างพากันผลักไสความผิด
“คนเลี้ยงได้รับชอบไปแล้ว เพราะได้รับทรัพย์จนเต็มกระเป๋า
“คนชำแระได้รับชอบไปแล้ว เพราะมีความร่ำรวยจากการขายเนื้อ
“คนปรุงก็รับชอบไปแล้ว เพราะคนปรุงได้รับบุญอิ่มเอิบใจ
“ส่วนผู้ฉันก็รับชอบไปแล้ว เพราะผู้ฉันได้บริโภคจนอิ่มหนำ และได้เปล่งอุทานพรว่า อายุวรรโณสุขังพลัง ให้กับญาติโยมไปเรียบร้อยแล้ว
 
“ความชอบต่างก็รับไปแล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่ข้าแหลกคาปาก เละคาท้อง แล้วจะไม่มีคนผิด มันยุติธรรมกับข้าแล้วหรือ?”
โฆษณา