สิ้นสุดการรอคอย 16 ปี
เมสซี่ทำสำเร็จคว้าถ้วยบอลโลกได้
“ผมยินดีเอาถ้วยรางวัลทุกถ้วย ที่ผมเคยได้มาแลกเพื่อ
ให้ผมได้ถ้วยบอลโลกในนามทีมชาติอาเจนตินา”
คำพูดดังกล่าวเป็นคำพูดออกจากปากนักฟุตบอลที่ได้รับการขนานนามว่าเก่งกาจที่สุดในยุคปัจจุบัน เขามีนามว่า “ลีโอเนล เมสซี่”
มหกรรมฟุตบอลโลก 2022 ได้จบลงแล้วในค่ำคืนที่ผ่านมา
โดยนัดชิงสุดดราม่า ลุ้นระทึกที่ต้องถึงฎีกาในการดวลจุดโทษ
ภายหลังที่เสมอกันในเวลา 120 นาที 3-3
แล้วก็เป็นฝ่ายอาร์เจนตินาที่เอาชนะฝรั่งเศสในการดวลจุดโทษไปได้ 4-2 คว้าถ้วยบอลโลกได้สำเร็จ เติมเต็มฝันของเมสซี่ได้สมบูรณ์
ก่อนการแข่งขัน เมสซี่ ได้ออกมาประกาศไว้ว่านัดชิงชนะเลิศ
ครั้งนี้จะเป็นการลงเล่นบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขา
นั่นหมายความว่านัดชิงบอลโลกครั้งนี้ คือ โอกาสสุดท้ายที่เมสซี่จะคว้าถ้วยบอลโลกได้ ทั่วโลกจึงต่างจับตาว่าเมสซี่จะปิดตำนานของเขาบนเวทีบอลโลกได้อย่างสวยหรูตามฝันหรือไม่
โดยเมสซี่ผ่านการคว้ารางวัลต่างๆ มากมายตลอดการค้าแข้งฟุตบอล ทั้งในระดับสโมสร ระดับทีมชาต และรางวัลส่วนตัว
เมสซี่ได้รับรางวัลบัลลงดอร์ (รางวัลที่มอบให้กับนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในแต่ละปี) เขาคว้ามาได้ 7 สมัย เป็นนักฟุตบอลที่ได้รางวัลนี้มากที่สุดตลอดกาล
เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำมากที่สุด 6 สมัยเช่นกันโดยที่ไม่เคยมีใครทำได้
เมสซี่ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย แชมป์ลา ลีกา 10 สมัย แชมป์โกปา เดล เรย์ 7 สมัย แชมป์สโมสรโลก 3 สมัย แชมป์ลีกเอิง
เขายังพาทีมบาร์เซโลนาคว้าแชมป์มากถึง 35 รายการ
เป็นผู้เล่นที่ทำประตูมากที่สุดตลอดกาลในลีกฟุตบอลสเปนด้วยจำนวนประตู 473 ประตู โดยมีหนึ่งฤดูกาลที่เขายิงได้มากถึง 91 ลูกทีเดียว
เป็นผู้เล่นที่ส่งบอลให้เพื่อนทำประตูมากที่สุดตลอดกาลในลีกฟุตบอลสเปน 192 ครั้ง
เมสซี่ยังทำสถิติการทำประตูแฮตทริกมากที่สุดตลอดกาลในลีกฟุตบอลสเปนที่ 36 ครั้ง
ในระดับทีมชาติ เมสซี่พาทีมชาติอาร์เจนตินาชุดอายุไม่เกิน 23 ปีคว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชนโลกได้สำเร็จในปี 2005 ต่อจากนั้นอีก 3 ปี เมสซี่ก็พาทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาครอง และล่าสุดเมื่อปี 2021 เมสซี่พาทีมชาติอาร์เจนตินาคว้า แชมป์โกปาอเมริกา ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นแชมป์ระดับทีมชาติชุดใหญ่เมเจอร์แรกของเมสซี่ในนามทีมชาติก็ว่าได้
มันจึงเหลือเพียงแค่ถ้วยบอลโลกถ้วยเดียวเท่านั้น ที่เมสซี่ยังไม่เคยได้สัมผัส หากเขาทำได้สำเร็จมันจะกลายเป็นโทรฟี่สุดท้ายที่เขามาเติมเต็มชีวิตการค้าแข้งของเมสซี่ให้สมบูรณ์แบบ
ซึ่งเมสซี่ลงเล่นฟุตบอลโลกมาแล้ว 5 สมัยด้วยกัน คือ ปี 2006, 2010, 2014, 2018, 2022 ทำสถิติลงเล่นฟุตบอลโลกมากที่สุด 26 นัด แซง โลธาร์ มัทเธอุส ตำนานทีมชาติเยอรมนีที่เคยลงเล่น 25 นัดไป
โดยที่ผ่านมา เมสซี่ พลาดโอกาสคว้าถ้วยบอลโลกมาตลอด โอกาสที่ใกล้เคียงที่สุด คือ ในปี 2014
ซึ่งในปีนั้น เมสซี่มุ่งมั่นทุ่มเทที่จะทำฝันตัวเองให้เป็นจริงให้ได้ มีบางนัดที่เขาวิ่งจนต้องออกมาอ้วกข้างสนามแต่เขาก็ไม่เคยออกมาบ่น ไม่เคยขอเปลี่ยนตัว เพียงเพื่อที่ทีมชาติอาร์เจนตินาจะคว้าชัยชนะให้ได้ เมสซี่ทำ 4 ประตู ในการแข่งขันครั้งนี้จนพาทีมชาติอาร์เจนตินาเข้าชิงชนะเลิศกับเยอรมนี
ทุกคนต่างคิดว่าในที่สุดเมสซี่จะสร้างประวัติศาสตร์คว้าถ้วยบอลโลกได้
แต่ผลมันไม่เป็นเช่นนั้น เยอรมนีเอาชนะอาร์เจนตินาไปได้ 1-0 เป็นการยิงในช่วงต่อเวลาพิเศษ เมสซี่สีหน้าผิดหวังเสียใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าการแข่งขันครั้งนี้ตัวเมสซี่เองจะคว้ารางวัลโกลเด้นบอยผู้เล่นทรงคุ้นค่าประจำรายการมาครอง แต่เขาก็ไม่ได้ดีใจเลย วินาทีที่เขาขึ้นไปรับเหรียญรองชนะเลิศแล้วเดินผ่านถ้วยฟุตบอลโลก สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ถ้วยบอลโลก เป้าหมายที่เขาฝันอยากได้มาตั้งแต่เด็กแต่เขาทำไม่ได้
บอลโลกในปี 2018 เมสซี่ในวัย 31 ปี เปลี่ยนใจกลับมาเล่นทีมชาติและพาทีมเข้ารอบสุดท้ายไปเล่นฟุตบอลโลกได้สำเร็จ แต่ทีมพวกเขาก็จอดป้ายที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อต้องพ่ายให้กับทีมชาติฝรั่งเศส 4-3 ซึ่งทีมฝรั่งเศสก็คว้าถ้วยบอลโลก 2018 ได้สำเร็จ
ต่อมาอาร์เจนตินาได้เปลี่ยนผู้จัดการทีมมาเป็น ลีโอเนล สคาโลนี่
เพียงวันแรกที่สคาโลนี่ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมเขาก็ประกาศว่าเขาจะทำทีมอาร์เจนตินาโดยมีเมสซี่เป็นศูนย์กลางของทีม เขามองว่าที่ผ่านมาเมสซี่พาทีมอาร์เจนตินาไปถึงถ้วยบอลโลกไม่สำเร็จ เป็นเพราะเมสซี่ทำเพื่อทีมมากเกินไป แทนที่จะให้ทีมทำเพื่อเมสซี่ ทำให้เมสซี่ต้องเหนื่อย แบกทีมจนหลังแอ่น ไม่สามารถโชว์ศักยภาพของตัวเองออกมาได้เต็มที่
การทำทีมโดยใช้เมสซี่เป็นศูนย์กลางคือการให้เพื่อนร่วมทีมที่เหลือ 10 คน เล่นเพื่อเมสซี่ วิ่งเพื่อเมสซี่ เพื่อแบ่งเบาภาระ ให้เมสซี่เก็บพลังงานไว้ทะลุทะลวงสร้างสรรค์เกมได้เต็มที่ ไม่ต้องให้เมสซี่ต้องลงมาพะวงเล่นเกมรับ
แล้วการสร้างทีมของสโคลานี่ก็เห็นผลทันตา เมื่อเขาทำทีมอาร์เจนตินาคว้าแชมป์โกปาอเมริกา 2021 ได้สำเร็จ ปลดล็อกถ้วยใบแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ของเมสซี่ได้สำเร็จ
ต่อเนื่องมาถึงบอลโลก 2022 เมสซี่ในวัย 35 ปี เล่นอย่างมุ่งมั่นเต็มที่ระเบิดฟอร์มพาทีมอาร์เจนตินาเข้าชิงบอลโลกมาเจอกับฝรั่งเศสได้สำเร็จ
โดยก่อนเตะนัดชิงเขาได้ออกมาเผยว่า
“ผมมีความสุขมากที่จะสิ้นสุดการเดินทางบนเวทีบอลโลกด้วยการลงเล่นเกมสุดท้ายในนัดชิงชนะเลิศ มันเป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ นับจากปีนี้ไปอีกหลายปี ผมไม่คิดว่าผมจะทำได้แบบนี้แล้ว การจบเส้นทางด้วยนัดชิงชนะเลิศถือว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก”
การเล่นในนัดชิงชนะเลิศ ทุกคนในทีมอาร์เจนตินาต่างมุ่งมั่นวิ่งสู้ฟัด ทุกคนในทีมอยากคว้าถ้วยบอลโลกมาให้เมสซี่ให้ได้ ฝ่ายเมสซี่เองก็ตั้งใจเล่นเต็มที่ เข้ามีส่วนร่วมกับเกมตลอด ทั้งคอยเปลี่ยนเกม จับจังหวะ หรือแม้กระทั่งลงมาช่วยในเกมรับ
จากที่ก่อนเกมนักวิจารณ์ให้ความเห็นว่าฝรั่งเศสเป็นต่ออาร์เจนตินานิดๆ แต่พอเริ่มเกมอาร์เจนตินากับกลายเป็นฝ่ายคุมเกมได้แทบตลอดเกม
แล้วนาทีที่ 23 อังเฆล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนตินาลากเลื้อยเข้าเขตโทษถูกเดมเบเล่ปีกทีมฝรั่งเศสสะกิดล้ม กรรมการให้จุดโทษกับทางฝั่งอาร์เจนตินาทันที แล้วเมสซี่ก็รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปอย่างเลือดเย็น
เท่านั้นไม่พอนาทีที่ 36 เมสซี่สะกิดบอลจากรับเป็นรุกให้กับแม็ค อัลลิสเตอร์ เข้าเขตโทษจ่ายบอลถวายพานให้ ดิ มาเรีย สัดบอลเข้าตุงตาข่าย
ครึ่งหลังอาร์เจนตินาทำเสียจุดโทษในนาทีที่ 80 คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัดจุดโทษทำประตูตีตื้นขึ้นมา อาร์เจนตินาพอเสียประตูก็รวนไปหมด ทำให้เอ็มบัปเป้วอล์เลย์ซัดประตูตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 81 หมดเวลา 90 นาที ทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2 ต้องเล่นต่อเวลา
ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เมสซี่ ทำประตูให้อาร์เจนตินาขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 109 กองเชียร์อาร์เจนตินาส่งเสียงร้องไชโยมั่นใจเต็มที่ว่าทีมชาติของพวกเขาจะคว้าชัย
แต่แล้วเกมก็กลับมาพลิกอีกครั้งเมื่อทีมอาร์เจนตินเสียจุดโทษ แล้วเอ็มบัปเป้ซัดลูกโทษเข้าไปในนาทีที่ 118 เป็นประตูแฮตทริกของเอ็มบัปเป้ในนัดชิง ดับฝันอาร์เจนตินาที่กำลังคว้าชัย
หมดเวลา 120 นาที ทั้งสองทีมเสมอกัน 3-3 ต้องดวลกันที่จุดโทษ
แต่ทว่าอาร์เจนตินา มีผู้รักษาประตูที่ชื่อ เอมิเลียโน มาร์ติเนช จอมเซฟจุดโทษ ซึ่งเขาได้เคยกล่าวไว้ในการแข่งโคปาอเมริกา 2020 ว่าเขาจะช่วยให้เมสซี่คว้าแชมป์บอลโลกให้ได้
แล้วมาร์ติเนชก็ไม่ทำให้เมสซี่ผิดหวัง มาร์ติเนชสามารถป้องกันคนยิงจากฝรั่งเศสได้ถึง 2 คน ในขณะที่ทีมอาร์เจนตินายิงเข้าหมดทั้ง 4 คน ทำให้อาร์เจนตินาเอาชนะจุดโทษฝรั่งเศส 4-2 คว้าถ้วยฟุตบอลโลก 2022 สมัยที่ 3 ได้สำเร็จ ในเกมสุดดราม่าลุ้นระทึกที่เกมพลิกไปพลิกมา
เมสซี่คว้าถ้วยบอลโลกครั้งนี้ได้สำเร็จ ในการเล่นฟุตบอลโลกนัดสุดท้ายในชีวิตของเขา อำลำเวทีฟุตบอลโลกได้อย่างสวยหรู ซึ่งครั้งนี้เขาต่างจากการลงเล่นฟุตบอลโลกในครั้งก่อนๆ ตรงที่เขา มีเพื่อนๆ ในทีมที่เล่นวิ่งสู้ฟัดเพื่อเขาทุกคน ทุกคนในทีมต่างอยากช่วยกันเติมเต็มฝันของเมสซี่ให้สมบูรณ์แบบให้ได้
อาจกล่าวได้ว่าถ้วยรางวัลนี้มันเป็นรางวัลของคนที่ไม่ย่อท้อต่อความผิดหวังที่ยังคงพยายามมุ่งมั่นจนประสบผลสำเร็จออกมา มันเป็นรางวัลที่เขาต้องใช้เวลายาวนานถึง 16 ปีกว่าจะทำได้ ในวันนี้ชื่อของเขาถูกยกเทียบเคียงกับตำนานฟุตบอลอย่างเปเล่และมาราโดนา เป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาลได้อย่างเต็มภาคภูมิ
หากถามเมสซี่ว่ารางวัลต่างๆ มากมายที่เขาได้รับ เขาภูมิใจกับรางวัลไหนมากที่สุด
ผมมั่นใจเลยว่าเขาจะตอบ “แชมป์บอลโลก 2022” ครับ
- 94
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
