Elevator Pitch เทคนิคการพูดน้อยๆ แต่โดน
Elevator Pitch เทคนิคการพูดน้อยๆ แต่โดน
พูดเก่ง พูดได้นาน อาจไม่ใช่สูตรสำเร็จของการสร้างผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป เพราะปัจจุบันผู้รับฟังข้อเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าบอร์ดบริหาร CEO นักลงทุน ต่างมีข้อจำกัดด้านเวลา ทำให้ทุกวันนี้การนำเสนอความคิดที่กระชับและสั้นๆ น่าจะเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความเป็นจริงมากกว่า
ว่ากันว่า “ลิฟต์”คือสถานที่ซึ่งไม่มีใครสามารถปฏิเสธการพูดของเราได้ และไม่ว่า CEO หรือผู้มีอำนาจตัดสินใจจะเร่งรีบแค่ไหน พวกเขาก็ต้องใช้ลิฟต์ในการขึ้นลงอาคาร และนั่นเองจึงเป็นที่มาของคำว่า Elevator Pitch ซึ่งหมายถึง Elevator (ลิฟต์) + Persuade (การเชิญชวน) โดยที่ทั้งหมดหมายถึง การนำเสนอแนวความคิดที่กระชับและสั้นๆ ให้ทันเวลาที่อยู่ในลิฟต์นี่เอง
หลักการนำเสนองานแบบทั่วไปนั้น ไม่มีโครงสร้างที่ตายตัว แต่โดยมาก มักจะเป็นรูปแบบ Three-Act Structure ซึ่งมี 3 ส่วน ได้แก่
1. เกริ่นนำ ซึ่งเป็นการแนะนำตัว บอกที่มาของปัญหา (Problem) สิ่งที่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจเผชิญอยู่โดยอาจเป็นความพยายามของแบรนด์คู่แข่งที่พยายามทำ
2. เนื้อหา ที่ประกอบด้วยวิธีการแก้ปัญหา (Solution) ที่จะนำเสนอโมเดลธุรกิจ (Business Model),ทีมงาน (Founding Team), แผนการตลาด (Marketing Plan) และ
3.ข้อสรุป หรือสิ่งที่เราอยากจะได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน แผนในระยะเริ่มต้น และคำเชิญชวนที่ดูประทับใจ
Elevator Pitch จะถูกทำให้กระชับมากกว่า โดยจะตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก และเน้นที่ตรงจุด โดยอาจจะมี 3 ส่วนเช่นเดียวกันกับวิธีแบบทางการก็ได้ หากแต่ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เช่น
1. การสร้างจุดขายว่าคุณคือใคร บอกปัญหาหรือ Pain Point ที่ง่ายต่อความเข้าใจ
2.การนำบอกวิธีแก้ปัญหา นำเสนอบริการ
3. การสร้างเป็นจุด Killer หรือการปิดการขาย ว่าทำไมถึงต้องเป็นธุรกิจของเรา และพูดถึงวิธีการว่า คุณจะสามารถสร้างรายได้อย่างไร โดยอาจเป็นตัวเลขเล็กๆน้อยที่เข้าใจง่ายเพื่อแสดงถึงความเป็นรูปธรรม ซึ่งทั้งหมดควรจบในเวลาอันสั้นๆ โดยไม่เกิน 3 นาที และถ้าไอเดียของคุณน่าสนใจก็จะเป็นฝั่งผู้บริหารหรือผู้ฟังเองที่อยากจะรับฟังต่อ
แม้จะฟังดูง่ายๆ แต่ Elevator Pitch นั้น ต้องผ่านการคิดมาแล้ว ทั้งยังต้องเรียบเรียงและฝึกฝนจนชำนาญ เพื่อให้เป็นคำพูดสั้นๆ ที่มีพลังจนสร้างความประทับใจได้ในเวลาที่เจอกันในลิฟต์ ทั้งนี้การจะพูดได้ ก็ต้องผ่านการวิเคราะห์และเรียบเรียงก่อน เริ่มจาก การวิเคราะห์เป้าหมาย คือรู้ว่าจะพูดอะไร และคนฟังต้องการอะไร
การอธิบายว่าทำอะไร และควรใช้ภาษาและท่าทางแบบเป็นคำพูดธรรมดา ที่ไม่ใช่การพูดโฆษณา หรือดูเกินความจริง และการจะ Pitch ไอเดียให้ได้ ล้วนมาจากการเตรียมตัวและฝึกซ้อม โดยอาจมี key word ที่สื่อสารได้ดีเก็บไว้ และเลือกใช้ให้มีประสิทธิภาพ
อย่าลืมว่า หลักการนำเสนอแบบ Elevator Pitch คือการสร้างความจดจำในแง่ของความคิด ไม่ใช้การใช้คำหรือประโยคที่สวยหรู
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
