Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทัศนะแฟนบอล
•
ติดตาม
19 ธ.ค. 2022 เวลา 15:50 • กีฬา
สีฟ้าที่ดีกว่า อาร์เจนติน่ากับชัยชนะในแมทซ์ที่สนุกที่สุดในประวัติศาสตร์
ในคืนที่ผ่านมาการเจอกันระหว่างฝรั่งเศสและอาร์เจนติน่าคงเป็นแมทซ์ที่ชีวิตนี้ลืมไม่ลงอย่างแน่นอน จากเกมที่ดูเหมือนจะจบลงง่ายๆด้วยชัยชนะของอาร์เจนติน่า กลับกลายเป็นเกมที่ดุเดือดและแลกกันหมัดต่อหมัดจนต้องไปตัดสินกันถึงการยิงจุดโทษเลยทีเดียว วันนี้ผมจะลองมาวิเคราะห์รูปเกมที่เกิดขึ้นกันครับ
อาร์เจนติน่าสร้างเซอไพรซ์ด้วยการเอา ดิมาเรีย ลงมาเป็นตัวจริงโดยตอนแรกผมคิดว่าจะเอามาเปิดหน้าแลกหมัดกับทางฝั่งซ้ายของฝรั่งเศสเนื่องจาก เตโอ เป็นแบ็คที่ชอบดันขึ้นสูง แต่สิ่งที่สกาโลนี่ทำไม่ได้เสี่ยงแบบนั้นแต่เค้าสลับ ดิมาเรีย มาเล่นเป็นฝั่งซ้ายและเลือกเจาะที่ตัวของ กุนเด้ และ เดมเบเล่ แทน
อาร์เจนติน่าในเกมนี้เลือกเปิดเกมบุกใส่อย่างหนักโดยที่ฝรั่งเศสโดนกดทั้งเกม แดนกลางเสียบอลกันง่ายไปหมด จนไม่สามารถเล่นงานพื้นที่หลังไลน์ของอาร์เจนได้เลย และทุกครั้งที่ เอ็มบัปเป้ ได้บอลจะโดนดับเบิ้ลทีมใส่จาก เดอปอล และ โมลิน่า และยังมี โรเมโร่ ซ้อนอีกคนนึงเสมอเรียกได้ว่าจับตายกันอย่างเด็ดขาด
heat map ของ de paul ที่แสดงให้เห็นว่าเค้าปักหลักอยู่เพื่อกัน mbappe เท่านั้น
บอลของอาร์เจนติน่าจะเริ่มจากทั้งฝั่งขวาเสมอเพื่อดึงให้ผู้เล่นของฝรั่งเศสลงมากันและทำการสวิตซ์บอลไปทางดิมาเรียเพื่อสร้าง สถานการณ์ 1-1 กับทางกุนเด้หรือเดมเบเล่ที่ถอยมาเล่นเกมรับ และดิมาเรียก็เป็นฝั่งที่เหนือกว่าทั้งเกมจนเดมเบเล่พลาดทำฟาวล์และเป็นเมสซี่ที่สังหารจุดโทษพาอาร์เจนติน่าขึ้นนำไปก่อน 1-0
การขึ้นเกมของอาร์เจนติน่าที่ดึงวารานลงมาตรงกลางสนามจนดิมาเรียได้1-1
เกมยังคงดำเนินต่อไปโดยฝรั่งเศสยังหาทรงของเกมไม่เจอพวกเค้าไม่มีโอกาสยิงและยังคงคุมเกมไม่ได้เลยจ่ายบอลก็ติดขัดไปหมด แต่โอกาสบุกก็มาจากการจ่ายบอลพาดกันเองหน้าโกลของอาร์เจนติน่า แต่กลายเป็นโอกาสของอาร์เจนติน่าจากการสวนกลับอย่างรวดเร็ว จังหวะนี้ผมต้องขอชม อัลลิสเตอร์ ที่นอกจากจะแตะบอลจังหวะเดียวให้เมสซี่ยังพลิกตัววิ่งนำทะลุ ชูอาเมนี่ ที่อยู่ด้านหลังจนหลุดไปและจ่ายแอสซิสให้ดิมาเรียยิงโล่งๆเข้าไป อาร์เจนติน่านำ 2-0
การแตะบอลจังหวะเดียวจากข้างหลังชูอาเมนี่และวิ่งแซงขึ้นไปจนได้ประตู
ณ จุดนี้ เดส์ชองจึงต้องแก้เกมด้วยการเอา เดมเบเล่ กับ ชิรูด์ ออก และส่ง ตูราม กับ มูอานี่ ลงมาแทน เกมนี้เดมเบเล่ไม่มีผลงานเลยและยังทำเสียจุดโทษส่วนชิรูด์ในเมื่ออีกฝั่งบุกใส่หนักขนาดนี้เอาตัวที่มีความเร็ววิ่งทะลุไลน์ย่อมดีกว่าตัวที่คอยยืนค้ำให้เพื่อน
เริ่มครึ่งหลังมาฝรั่งเศสพอมีรูปเกมที่ดีขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่มีโอกาสยิงอยู่ดีจนจุดเปลี่ยนของเกมก็มาถึงเมื่อ สกาโล่นี่ ทำการเปลี่ยน ดิมาเรีย ออก และเอา อากุนย่า ลงมาแทนทำให้เกมรุกทางซ้ายนั้นดรอปลงไปทันที จนฝรั่งเศสมีโอกาสมากขึ้นเนื่องจากเกมรุกของ อาร์เจนติน่า ช็อตไปดื้อๆ และเมื่อเดส์ชองทำการส่ง โกม็อง ลงมาแทนกรีซมันในช่วงนาทีที่ 70 สิ่งที่ผมสังเกตได้ชัดเจนเลยคือการ เพรสซิ่งแดนบนที่ดุดันจาก 3 นักเตะ ตามสไตล์บุนเดสลีก้า
เมื่อมีนักเตะที่เป็นสายความเร็วรวมถึงเพรสซิ่งได้ดีและทางอาร์เจนติน่าเสียความน่ากลัวในเกมบุกไปทำให้ทรงเกมของอาร์เจนติน่าที่ยังไม่ผ่อนเกมเกิดช่องว่างนำมาสู่จังหวะได้จุดโทษของฝรั่งเศสและเป็นเอ็มบัปเป้ที่สังหารจนตามขึ้นมาเป็น 2-1 ในนาที่ 80
จุดโทษที่นำฝรั่งเศสกลับมาสู่เกม
และอีกแค่นาทีต่อมาจากการเสียบอลของเมสซี่ตรงกลางสนามนำมาสู่การเล่นจังหวะเดียวและจบสกอร์อย่างเฉียบคมของ เอ็มบัปเป้จนตีเสมอ 2-2 จากเกมที่เหมือนชนะไปแล้วของอาร์เจนติน่าแต่ฝรั่งเศสไม่ยอมให้จบแค่นี้ต้องไปลุ้นกันต่อในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
การวอลเลย์ของ mbappe ที่ทำให้เกมยังไม่จบ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บอาร์เจนติน่าเหมือนหายจากอาการเมาหมัดทำให้รูปเกมผลัดกันบุกไปมาและก็เหมือนเกมจะจบลงเมื่อเมสซี่ได้ตามซ้ำลูกยิงของ เลาเตาโร มาติเนซ จนขึ้นนำ 3-2 แต่ฝรั่งเศสก็มาได้ลูกจุดโทษจนมาตีเสมอได้อีก และในนาทีสุดท้ายมาติเนซสามารถหลุดลูกยิงหลุดเดี่ยวมาได้จนสามารถยื้อไปสู่จุดโทษ และเป็นอาร์เจนติน่าที่ยิงจุดโทษชนะและครองแชมป์โลกอย่างยิ่งใหญ่ไปในท้ายที่สุด
การเซฟปาฎิหารย์ที่รักษาความฝันของชาวอาร์เจนติน่า
จุดที่ผมสงสัยเล็กน้อยมีอยู่ 2 จุดคือการเปลี่ยนดิมาเรียออกและเอาอาคุนย่าลงโดยเล่นแบบเดิม ถ้าเลือกจะเอา ปาเรเดส ลงหรือ ลิซานโดร มาติเนซ ลงและเน้นเกมรับให้มากขึ้นอาจจะดีกว่าฝืนใช้อาคุนย่าที่ศักยภาพไม่ถึงดิมาเรียในรูปแบบเดียวกันอาจจะสามารถปิดเกมได้ไวกว่านี้ กับอีกจุดของทางฝรั่งเศสผมรุ้สึกว่าฝรั่งเศสไม่มีตัวเล่นลูกเซ็ทพีทที่ดีเลยไม่แน่ใจว่าปกติแล้วกรีซมันทำได้ดีไหม แต่การเอาโกม็องมาเปิดลูกเซ็ทพีทและยิงจุดโทษคนที่ 2 นั้นในฐานะแฟนบาเยิร์นผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่แปลกมากๆ
แมทนี้ก็ป็นแมทที่สนุกที่สุดในชีวิตของผมมีการแลกกันไปมาพลิกอยู่ตลอดทั้งๆที่คิดว่าจะเป็นเกมที่ง่ายของฝั่งอาร์เจนติน่าแต่ฝรั่งเศสก็สู้ได้สุดใจจริงๆ เมสซี่ ก็ได้ถ้วยทุกถ้วยในชีวิตและสำหรับผมเค้าคือนักเตะที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน ส่วนฝั่ง เอ็มบัปเป้ การคว้าบัลลงดอร์และสถาปนาตัวเองเป็นอันดับ1ของโลกในอนาคตคงเป็นเรื่องที่ไม่นานเกินรอ จากฟอร์มที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และความนิ่งในเกมใหญ่ที่ยิงแฮททริคในนัดชิงถึงแม้จะพลาดชัยก็ตาม
เมสซี่ชูถ้วยแชมป์โลกที่เฝ้ารอมาอย่างยาวนาน
ข่าวฟุตบอล
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย