22 ธ.ค. 2022 เวลา 05:16 • ไอที & แก็ดเจ็ต
Huawei เจอวิกฤติหนัก ส่วนแบ่งตลาดชิปสมาร์ตโฟน เหลือ 0% ในปีนี้ ลดลงจาก 16% ในปี 2020
Huawei ผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ตโฟนยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมอย่างมหาศาลไปทั่วโลก
แต่ในวันนี้กลายเป็นว่าชื่อเสียง และความนิยมที่เคยสั่งสมมา กลับเลือนหายไป เพราะโดนแบนอย่างหนักหน่วงจากสหรัฐอเมริกา
วิกฤติที่ Huawei ต้องเจอ ไม่ได้มีเฉพาะ “ยอดขาย” สมาร์ตโฟนในตลาดโลกที่หายไปเท่านั้น
แต่ในขณะนี้ Huawei ต้องเจอกับวิกฤติ “ขาดแคลนชิปเซ็ต” รุ่นใหม่ ที่ใช้กับสมาร์ตโฟนของตัวเอง โดยมีสาเหตุจากการโดนกีดกันทางการค้า จากสหรัฐอเมริกา
1
นับตั้งแต่ปี 2019 ที่ Huawei ถูกขึ้นบัญชีดำ (Entity List) ถูกจัดให้เป็นบริษัทที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ทำให้ Huawei ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และชิ้นส่วนสำคัญที่ใช้ในการผลิตชิปเซ็ตได้เลยนับตั้งแต่นั้นมา
ซึ่ง Huawei ก็ใช้วิธีการซื้อเวลา ด้วยการสะสมชิ้นส่วนที่จำเป็นต่อการผลิตชิปเซ็ต ไว้เป็นจำนวนมาก และเพียงพอต่อการใช้งานในระยะเวลาหลายปี
1
แต่อย่างไรก็ตาม จากการรายงานล่าสุดของ Counterpoint Research พบว่า ในขณะนี้ชิ้นส่วนที่ Huawei สะสมเอาไว้ เริ่มหมดสต็อกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..
และทำให้ Huawei ต้องเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนชิปเซ็ต สำหรับสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ ของตัวเอง
ตอนนี้ ส่วนแบ่งตลาดของชิปเซ็ต Hisilicon ที่ผลิตโดย Huawei ลดลงจาก 0.4% ในไตรมาส 2 ปี 2022 เหลือ 0% ในไตรมาส 3 ปี 2022 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากที่เคยครองส่วนแบ่งตลาดได้ราว 16% ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากโดนแบนโดยสหรัฐฯ ได้ไม่นาน
1
ปล่อยให้ MediaTek, Qualcomm และ Apple ครองส่วนแบ่งตลาด ในฐานะชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ตโฟนยอดนิยมในตลาดโลกอย่างขาดลอย
โดย Counterpoint ระบุว่า วิกฤติครั้งนี้ เป็นไปได้ยากมากสำหรับ Huawei ที่จะซื้อชิ้นส่วนสำคัญ จากผู้ผลิตชิปเซ็ตรายอื่น ๆ อย่าง TSMC และ Samsung ด้วยข้อจำกัดจากการถูกขึ้นบัญชีดำ
นอกจากนี้ ส่วนแบ่งตลาดของชิป Hisilicon ที่ผลิตโดย Huawei ที่ลดลงอย่างมากนั้น ยังส่งผลต่อภาพรวมของส่วนแบ่งตลาด ของชิปเซ็ตสัญชาติจีน ที่ลดลงด้วยเช่นกัน
1
ทางออกสำคัญของ Huawei ต่อวิกฤติในครั้งนี้ คือความพยายามในการขยายความร่วมมือทางด้านสิทธิบัตร ร่วมกับบริษัทอื่น ๆ เพื่อเปลี่ยนสิทธิบัตร และเทคโนโลยีที่ตัวเองมี เปลี่ยนเป็นรายได้เข้าบริษัท โดยก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีการทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีให้กับ Oppo ซึ่งเป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ของวงการสมาร์ตโฟนจีน
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่สำคัญที่สุด จากการโดนขึ้นบัญชีดำโดยสหรัฐฯ จนทำให้ไม่สามารถเข้าถึงชิปเซ็ตรุ่นใหม่ ๆ ได้ เหมือนอย่างที่เคยเป็น
2
ทำให้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนของ Huawei รุ่นใหม่ ๆ ในขณะนี้ ยังคงขาดเทคโนโลยีสำคัญ อย่างการเชื่อมต่อ 5G แม้จะเป็นโทรศัพท์สมาร์ตโฟนในระดับเรือธง (Flagship) ก็ตาม
1
ส่วนสถานการณ์ของ Huawei ในประเทศจีน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นเดิมของ Huawei นั้น ก็พบว่า ส่วนแบ่งตลาดของ Hauwei ในประเทศจีน ไม่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ตโฟนยอดนิยมอีกต่อไป
ทำให้ในขณะนี้ตลาดโทรศัพท์สมาร์ตโฟนจีน มีแบรนด์ใหญ่ที่ครองตลาดอยู่ คือ Vivo, Oppo, Honor, Apple และ Xiaomi
โฆษณา