Dark Psychology จิตวิทยาด้านมืด: 7 วิธีในการบงการผู้คน
จาก Dark Psychology: The Practical Uses and Best Defenses of Psychological Warfare in Everyday Life - How to Detect and Defend Against Manipulation, Deception, Dark Persuasion, and Covert NLP by James W. Williams
ประเด็นที่ Robert Greene กล่าวไว้ในThe Laws of Human Nature
หกขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลงความคิด
ผู้เขียนกล่าวว่ามีหกขั้นตอนหลักในการเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้คนที่ผู้นำลัทธิใช้:
Enѕurе thаt a person is not aware thаt аnуthіng ѕuѕрісіоuѕ іѕ happening. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบุคคลไม่ทราบว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น
Create a рhуѕісаl аnd ѕосіаl setting that іѕ еntіrеlу manipulated аnd isolated. สร้างการตั้งค่าแบบธรรมดาและแบบพิเศษที่จัดการและแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง
Mаkе thе реrѕоn bеіng mаnірulаtеd fееl роwеrlеѕѕ ทำให้ผู้คนได้รับความรู้สึกที่ดี
Use punishment аnd reward to dіѕаѕѕосіаtе the individual from fоrmеr bеhаvіоr аnd lifestyle ใช้การลงโทษและให้รางวัลเพื่อแยกแยะบุคคลจากพฤติกรรมและวิถีชีวิตเดิม
Use rеwаrd аnd рunіѕhmеnt for mаkіng thе grоuр аnd іtѕ іdеаlѕ ѕееm highly арреаlіng ใช้ผลตอบแทนและการลงโทษสำหรับการสร้างกลุ่มและมันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก
Exert аbѕоlutе authority оvеr the individual whо іѕ bеіng mаnірulаtеd by thе сult ออกแรงมีอำนาจเหนือบุคคลซึ่งถูกควบคุมโดยลัทธิ
จิตวิทยามืดคืออะไร
การใช้หลักการทางจิตวิทยาในการชักจูง ชักจูง และบีบบังคับ เพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้ประโยชน์ แต่เป็นอันตรายต่อหรือจำกัดเสรีภาพและอำนาจของผู้รับ
"นักจิตวิทยาด้านมืด" ใครก็ตามที่ใช้เครื่องมือโน้มน้าวใจในทางที่เป็นอันตรายต่อผู้รับ
เนื่องจากจิตวิทยาด้านมืดเป็นเครื่องมือในการบงการนักจิตวิทยาด้านมืดทุกคนจึงเป็นนักบงการ นักเล่นกล คนขี้โกง หรืออาชญากรหรือผู้ทำร้าย
แน่นอน บางครั้งเส้นแบ่งระหว่างคนธรรมดากับนักจิตวิทยาด้านมืดอาจทำให้เบลอได้
และยังเป็นไปได้ที่จะชักใยผู้อื่นเพื่อแก้แค้นอย่างยุติธรรมหรือเพื่อป้องกันตัว
ถึงกระนั้น อย่าหลงเข้าไปในทะเลแห่งสัมพัทธภาพ และขอให้เป็นจริง
บางคน "มืดมน" กว่าคนอื่นๆ และจัดการมากกว่าคนอื่นๆ และตรงกันข้าม: บางคนมีค่านิยมและจริยธรรมที่เข้มแข็งกว่า และคุณสามารถคาดหวังให้พวกเขาซื่อสัตย์และยุติธรรมได้อย่างน่าเชื่อถือมากขึ้น
จิตวิทยาด้านมืดไม่อนุญาตให้ใครแอบแฝงเข้ามาควบคุมจิตใจของผู้คน ตามความประสงค์ และต่อต้านความประสงค์ของเป้าหมาย
จิตใจเป็นหนึ่งในแง่มุมที่ซับซ้อนที่สุดของธรรมชาติมนุษย์ การทํางานของจิตใจเป็นสิ่งที่มนุษย์ทั้งงงงวยและทึ่งตราบเท่าที่เราจําได้ นักปรัชญา นักจิตวิทยา และนักวิทยาศาสตร์ได้พยายามไขปริศนาของจิตใจ เป็นความเชื่อโดยทั่วไปว่าจิตใจของมนุษย์มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและการกระทําของเรา ดังนั้น งานวิจัยจํานวนมากจึงได้ทําความเข้าใจกระบวนการทางจิตที่บุคคลได้รับก่อนดําเนินการไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี
แล้วความมืดในคนอื่นล่ะ?
ทุกคนมีความสามารถในการทําความดี เรายังมีความสามารถในการทําความชั่วอย่างใหญ่หลวง ภายใต้อารมณ์ต่างๆ เช่น ความเศร้า ความซึมเศร้า ความปิติยินดี และความสุข เป็นความปรารถนาที่ฝังลึกซึ่งสามารถนําเราไปสู่การจงใจทําร้ายผู้อื่นได้
หากแรงกระตุ้นเหล่านั้นไม่ถูกควบคุม ความปรารถนาที่มืดมนเหล่านี้มีรากฐานมาจากสัญชาตญาณดั้งเดิม เช่น การบินหรือการตอบโต้การต่อสู้ที่ส่งเสริมการอยู่รอด บางครั้ง มีเพียงคําเดียวที่มีคุณสมบัติในการตอบสนองต่ออารมณ์อันมืดมิดเหล่านี้…ความชั่วร้ายของมนุษย์
จิตวิทยาด้านมืดเป็นการศึกษาสภาพของมนุษย์ที่สัมพันธ์กับธรรมชาติทางจิตวิทยาของมนุษย์ที่จะตกเป็นเหยื่อของผู้อื่น
จิตวิทยาด้านมืด ให้ความกระจ่างด้านมืดของธรรมชาติมนุษย์
ในแง่ทั่วไป จิตวิทยาที่มืดมิดจะสํารวจแง่มุมของธรรมชาติของมนุษย์ที่ช่วยให้เราทําการกระทําที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ของเราอย่างจงใจและจงใจ โปรดทราบว่าการใช้เหยื่อในบริบทนี้ไม่จําเป็นต้องแปลเป็นการทําร้ายร่างกายของบุคคล แม้ว่าจะมีสาขาหนึ่งของจิตวิทยาด้านมืดที่อุทิศให้กับสิ่งนี้ทั้งหมด
คนที่มีลักษณะบุคลิกภาพบางอย่างที่ถือว่ามืด เช่น Narcissism ความหลงตัวเอง Psychopaths โรคจิตเภท และ Machiavellianism มักจะประสบปัญหาในทุกด้านของความสัมพันธ์ หากลักษณะทั้งสามมีอยู่ในคนๆ เดียว พวกเขามีแนวโน้มที่จะก่ออาชญากรรมสูงขึ้น ลักษณะบุคลิกภาพทั้งสามที่กล่าวถึงมีลักษณะเฉพาะที่จัดกลุ่มตามลักษณะเหล่านี้
Narcissism การหลงตัวเองมีลักษณะเฉพาะด้วยความรู้สึกของสิทธิ ความรู้สึกเหนือกว่า ความอิจฉาริษยาอย่างลึกซึ้งต่อความสําเร็จของผู้อื่น และพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบ
Psychopaths เป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder) นั้นไม่มีความรู้สึกผิด ขาดความเห็นอกเห็นใจ พฤติกรรมหุนหันพลันแล่นทําลายล้าง อัตตาเป็นศูนย์กลาง และไม่สามารถยอมรับความรับผิดชอบเป็นลักษณะบางอย่างได้ ความเห็นแก่ตัว ความโหดเหี้ยม และพฤติกรรมการชักจูงเป็นตัวบ่งชี้ถึงลักษณะ
Machiavellian คือ มีนิสัยชอบหลอกใช้คนอื่น เพื่อทำให้ตัวเองมีอำนาจ ลักษณะเหล่านี้แยกจากกันเป็นปัญหา แต่เมื่อรวมกันแล้วพวกเขาสามารถสะกดปัญหาได้ โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ของบุคคลกับผู้อื่น
คนที่มีความสัมพันธ์กับพวกเขาจะต้องเสียค่าใช้จ่ายทางอารมณ์สูง หากคุณพบบุคคลที่มีความสัมพันธ์ที่มีลักษณะเฉพาะจากประสบการณ์เหล่านี้ เพื่อประโยชน์ของสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ทั่วไปของคุณ ให้หลีกเลี่ยงพวกเขา หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหานี้ ให้ขอความช่วยเหลือด้านจิตวิทยาที่คุณต้องการเพื่อให้ดีขึ้น
ไม่ว่าปัญหาเหล่านี้จะหยั่งรากลึกเพียงใด คุณสามารถปรับปรุงพฤติกรรมและประสบการณ์ของคุณด้วยรูปแบบการบําบัดที่เหมาะสม ขั้นตอนแรกคือการตระหนักถึงสถานการณ์ในสิ่งที่เป็น ยอมรับว่าคุณมีปัญหาและขอความช่วยเหลือทันที
ผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดของจิตวิทยาด้านมืดต่อทุกคนคือมันสร้างความรู้สึกสูญเสียที่แข็งแกร่ง เราสูญเสียของมีค่าของเรา เราสูญเสียความสัมพันธ์ เราสูญเสียตัวเอง เมื่อพิจารณาทั้งหมดแล้ว ย่อมปลอดภัยที่จะกล่าวว่าผลกระทบของความมืดนี้นั้นลึกซึ้ง
การแบ่งปันจุดอ่อนของคุณคือการทําให้ตัวเองอ่อนแอ การทําให้ตัวเองอ่อนแอคือการแสดงความแข็งแกร่งของคุณ”
Criss Jami
แทนที่จะปิดโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น คุณควรเปิดกว้างแต่ระมัดระวังในเรื่องความต้องการและความรู้สึกของคุณ
การจัดการกับใครบางคนคือการควบคุมหรือโน้มน้าวบุคคลนั้นอย่างฉลาดหรือไร้ยางอาย ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม เราทุกคนล้วนบิดเบือนบุคคลหรือสถานการณ์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ฟังดูมืดมน
หนึ่งในกลวิธีทั่วไปที่ใช้โดยผู้บงการคือการโกหก จอมบงการเชี่ยวชาญในศิลปะแห่งการหลอกลวง พวกเขาเชี่ยวชาญในการคิดเรื่องใหญ่ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความจริง หรือพวกเขาไปอุบายและโกหกโดยละเลย บางคนเก่งเรื่องโกหกจนคุณแทบไม่เคยรู้เลยเรื่องโกหกจนกว่าจะสายเกินไป
กลวิธีอีกอย่างหนึ่งที่ใช้โดยผู้บงการคือความรู้สึกผิดที่สะดุดและอับอาย เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่พวกเขาทําผิดพวกเขาจะปฏิเสธทันทีและจากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องทันทีโดยทําให้คุณรู้สึกแย่ที่ตั้งคําถามพวกเขาตั้งแต่แรก เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการจับเหยื่อของพวกเขา
พวกเขาใส่ร้ายพวกเขาด้วยเหตุนี้จึงทําให้เหยื่อกลายเป็นผู้ทําร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะพบเทคนิคการบงการแบบนี้ในกรณีในประเทศที่ผู้กระทําทารุณกรรมจะอ้างว่าเป็นลักษณะของเหยื่อ
ผู้บงการจะศึกษาข้อบกพร่องและจุดอ่อนในบุคลิกภาพของตนเองก่อนจะใช้กับพวกเขา
คนที่น่าประทับใจมักจะถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ภายนอก บุคคลที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวที่มีแนวโน้มจะตัดสินใจอย่างบีบบังคับมักจะถูกชักจูงให้ตัดสินใจอย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลกระทบในระยะยาว
DECEPTION การหลอกลวง
การหลอกลวงหมายถึงการปกปิดความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้ได้เปรียบ นี่อาจดูเหมือนเป็นการยักย้ายถ่ายเท แต่มีความแตกต่างที่ชัดเจน การหลอกลวงมักใช้ในการยักย้ายถ่ายเท และเป็นหนึ่งในหลายๆ ชั้นของแผนการบงการ
เป้าหมายของการหลอกลวง คือการหลอกล่ออีกฝ่ายหนึ่ง แม้ว่าการจัดการจะลึกซึ้งกว่านั้นมาก แต่ก็ไม่ได้ลบล้างผลเสียของการหลอกลวง คําโกหกอาจใช้เวลานานก่อนที่จะถูกเปิดเผย แต่เมื่อมันเป็นเรื่องจริงความเสียหายและการทําลายล้างที่ทิ้งไว้เบื้องหลังอาจเป็นความหายนะ
การหลอกลวงไม่ใช่สิ่งที่ทํากับผู้อื่นเสมอไป บางครั้งก็เป็นการโกหกที่เราบอกตัวเอง เราปรับการกระทําบางอย่างด้วยการโกหกลึกๆ ที่เราบอกตัวเอง เช่นเดียวกับการยักย้ายถ่ายเท การโกหกก็เป็นสิ่งที่ทุกคนทําเช่นกัน พวกเราบางคนอาจพัฒนาหลักการทางศีลธรรมบางอย่างที่ทําให้เราพูดเท็จหรือคบหาสมาคมกับคนที่ทําเช่นนั้นได้ยาก แต่ก็ไม่ได้หยุดเราไม่ให้พูดเท็จแม้ว่าจะโกหก "เล็กน้อย" การรู้คําตอบของคําถามแต่การเลือกปฏิเสธความรู้เพื่อรักษาความสง่างามทางสังคมเป็นเรื่องโกหก
ในทางจิตวิทยาด้านมืด เจตนาที่จะหลอกลวงให้ประโยชน์แก่ผู้หลอกลวงมากกว่าที่ทํากับเหยื่อ
ผู้บงการใช้การหลอกลวงเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเหยื่อของพวกเขา สําหรับผู้หลอกลวง การหลอกลวงเปิดโอกาสให้พวกเขาได้พัฒนาความสัมพันธ์กับเหยื่อ เป้าหมายคือการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์นี้เพื่อประโยชน์ของพวกเขา รูปแบบการหลอกลวงล่าสุดรูปแบบหนึ่งที่ใช้กันในปัจจุบันคือความรักที่หลอกลวง คนที่อ้างว่ารู้สึกรักหรืออารมณ์กับคุณมากกว่าที่พวกเขารู้สึกจริงๆ
มีหลายสิ่งที่สามารถใช้อธิบายความรู้สึกของการถูกบอกว่ามีใครบางคนรักคุณได้ไม่มาก นี่เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งสําหรับผู้ที่ปรารถนาประสบการณ์นี้ ผู้หลอกลวงได้รับประโยชน์จากการประกาศความรักที่ผิดๆ นี้ในรูปแบบของความไว้วางใจ เพศ และบางครั้งก็เงิน
จิตวิทยาด้านมืดไม่ใช่การสะกดจิตเพื่อให้ใครทำอะไร
การสะกดจิตนั้นทรงพลัง
ชุดคำสั่งที่วางไว้อย่างดีซึ่งฝังอยู่ในสลัดคำพูดไร้สาระที่กวนใจอาจทำให้ผู้คนสับสนมากพอที่จะทำให้คุณควบคุมพวกมันได้
การสะกดจิตประเภทนี้ขึ้นอยู่กับ "เป้าหมาย" ที่คุณเลือกเป็นอย่างมาก
การสะกดจิตเป็นจิตวิทยาอธิบายว่าเป็นปฏิสัมพันธ์แบบมีส่วนร่วมซึ่งผู้เข้าร่วมตอบสนองต่อคําแนะนําของผู้สะกดจิต
วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายก็คือการเชื่อว่าคุณจะไม่ถูกโจมตี
จิตวิทยาด้านมืดในสภาพแวดล้อมทางสังคมประกอบด้วยกลยุทธ์และเทคนิคในการชักใยผู้คนให้ทำในสิ่งที่ดีสำหรับนักจิตวิทยาด้านมืด แต่เป็นอันตรายต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ
Persuasion does not harm people, while manipulation does. การโน้มน้าวใจไม่เป็นอันตรายต่อผู้คนในขณะที่การชักจูงชักใยทำ
เทคนิคการบงการเช่นเดียวกับ Games People Play เกมที่ผู้คนเล่น - "เกม" คือรูปแบบหรืออินสแตนซ์ที่กำหนดไว้ของการบงการระหว่างบุคคล"
ทําไมผู้คนถึงใช้จิตวิทยามืดเพื่อทําร้ายผู้อื่น
บางคนทําสิ่งต่าง ๆ เพียงเพราะพวกเขาทําได้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาถูกทําร้ายโดยความเจ็บปวดในวัยเด็ก แต่จําเป็นต้องล้างแค้นสําหรับความผิดที่คุณอาจทําหรือไม่ได้ทํา พวกเขาทําเพียงเพราะพวกเขาทําได้ ในฐานะมนุษย์ มันเป็นธรรมชาติของเราที่จะต้องพยายามทําความเข้าใจว่าทําไม
เราต้องการทําความเข้าใจสถานการณ์ของเรามากกว่าที่จะเชื่อว่าเราเป็นเพียงเหยื่อของการสุ่ม แต่เราต้องพร้อมที่จะยอมรับด้วยว่าบางครั้งสถานการณ์ก็เป็นอย่างที่เห็นจริงๆ บุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาส่วนตัวที่จะทําร้ายผู้อื่น
REVERSE PSYCHOLOGY จิตวิทยาย้อนกลับ
จิตวิทยาย้อนกลับเป็นรูปแบบการจัดการที่ละเอียดยิ่งขึ้น ในทางเทคนิคมันถูกกําหนดให้เป็นเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันความเชื่อหรือพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ปรารถนาด้วยความคาดหวังว่าวิธีการนี้จะส่งเสริมให้ผู้ถูกชักชวนทําสิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริง
ความแตกต่างที่สําคัญระหว่างจิตวิทยาย้อนกลับกับการยักย้ายคือบุคคลที่กําลังถูกบงการจะได้รับภาพลวงตาของการเลือก พวกเขาถูกทําให้เชื่อว่าพวกเขากําลังเลือกทําในสิ่งที่พวกเขาต้องการจริง ๆ แต่ในความเป็นจริงพวกเขาถูกบีบบังคับอย่างละเอียดให้ทําสิ่งที่จอมบงการ
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์จะบอกคุณว่าเรามีเงื่อนไขที่จะต้องการสิ่งที่เราไม่สามารถมีได้
ดังนั้น ในการทําให้คนอย่างคุณมากขึ้นหรือต้องการคุณมากขึ้น คุณต้องทําให้ตัวเองไม่ว่างสําหรับพวกเขา มันเป็นความขัดแย้งจริงๆ
เช่นเดียวกับจิตวิทยาย้อนกลับทุกรูปแบบ มันสามารถย้อนกลับมาได้ การเล่นอย่างหนักเพื่อให้ได้มาสามารถดึงดูดสัญชาตญาณการล่าสัตว์ของผู้ชายได้ แต่หากคุณไม่ได้วางแผนที่จะหลบเลี่ยงตลอดไป คุณจะต้องหยุด "วิ่ง" เมื่อคุณหยุด นายพรานจะถอยห่างและจากนั้นคุณถึงทางตัน
ความปรารถนาที่จะได้รับความรักของเราอาจทําให้เราอ่อนแอได้ สามารถจัดการและใช้ประโยชน์เพื่อประโยชน์ของผู้อื่นได้
ในช่วงเวลาวิกฤตของคุณ คุณอ่อนแอที่สุดและอ่อนไหวต่ออิทธิพลของผู้อื่นมากที่สุด
และเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้คนจัดการกับสิ่งต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของตนเอง
สภาพสังคมหมายถึงผลกระทบที่สังคมมีต่อชีวิตโดยรวมของคุณ แม้ว่าสภาพสังคมจะพิจารณาสถานะทางสังคมของคุณในแง่ของรายได้ สภาพความเป็นอยู่ และอื่นๆ มากกว่านั้น
การเข้าถึงนั้นสามารถไปได้ลึกกว่านั้น สังคมของคุณสามารถและมีอิทธิพลต่อความเชื่อและศาสนาของคุณ คุณอาจไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติต่อความเชื่อเหล่านั้นโดยตรง แต่คุณได้รับผลกระทบทางอ้อมจากความเชื่อเหล่านั้น ในบางวัฒนธรรม บางวันถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
นั่นหมายความว่าการทําธุรกิจในสมัยนั้นอาจถือเป็นความผิด แต่ในขณะที่เราเพิ่งพูดถึงเรื่องศาสนา ให้เราดูแง่มุมอื่นๆ ของการปรับสภาพสังคมที่อาจได้รับอิทธิพลจากจิตวิทยาด้านมืดโดยง่าย
ความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่สังคมของเราได้ทําในวันนี้คือในด้านของเทคโนโลยี เราอยู่ในโลกที่สิ่งต่าง ๆ เสร็จสิ้นในพริบตา การทําธุรกรรมทางการเงินเสร็จสิ้นด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว นักธุรกิจสามารถสรุปข้อตกลงในจีน จูงใจทีมของเขาในอเมริกาใต้ พูดคุยกับคู่หูของเขาผ่านวิกฤตที่บ้าน และนําเสนอแผนการตลาดที่น่าประทับใจในดูไบก่อนรุ่งสางเพียงแค่กดปุ่มเพียงไม่กี่ปุ่ม นี่คือโลกที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้
เราทุกคนมีรายการสิ่งที่ต้องทํา บางครั้ง รายการนี้เป็นเพียงกลุ่มงานที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราผ่านพ้นวันไปได้ และบางครั้งก็เป็นแผนงานที่เราต้องการจะไปในอนาคตอันใกล้นี้
ความทะเยอทะยานคือสิ่งที่ขับเคลื่อนคุณไปสู่เป้าหมายที่คุณตั้งไว้สําหรับตัวคุณเอง คุณต้องการบางอย่าง? คุณผลักดันตัวเองให้บรรลุเป้าหมาย และสําหรับคนที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้น เมื่อพวกเขาบรรลุเป้าหมาย พวกเขาก็ผลักดันตัวเองให้มากขึ้น ความทะเยอทะยานเป็นลักษณะที่น่าสนใจของมนุษย์ทุกคน ความทะเยอทะยานที่จะเป็นมากกว่าใคร อะไร และสถานที่ที่คุณอยู่ตอนนี้มักจะทําให้คุณอยู่บนพวงมาลัยที่ควบคุมชีวิตของคุณ
ความทะเยอทะยานเป็นคุณลักษณะที่น่าชื่นชมในตัวบุคคล และในฐานะจุดแข็ง มันสามารถช่วยให้คุณนําทางไปสู่ความสําเร็จได้ แต่จุดอ่อนก็คือมันสามารถเป็นสถาปนิกแห่งการทําลายล้างของคุณได้ง่ายมาก
องค์กรส่วนใหญ่เชื่อว่าความทะเยอทะยานเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่พึงประสงค์ที่สุดในศักยภาพของพนักงาน และนี่เป็นเพราะว่าคนที่มีความทะเยอทะยานเต็มใจที่จะทําสิ่งที่ต้องทําเพื่อความก้าวหน้าของบริษัทมากกว่าคนที่ดูเหมือนจะเชื่อฟังมากกว่า
คนเหล่านี้มีสมาธิจดจ่อและมีความคิดเดียวเมื่อต้องปฏิบัติตามความรับผิดชอบ บางครั้งไม่ได้คิดว่าจะต้องทําอะไรถึงแม้จะหมายถึงการเหยียบยํ่าเพื่อนร่วมงานสองสามคนก็ตาม
ในบางบริบท อาจเป็นสิ่งที่ดี ท้ายที่สุด สถานที่ทํางานและโลกโดยทั่วไปไม่ใช่สนามเด็กเล่นที่กฎเกณฑ์ของความยุติธรรมสําหรับทุกคนมีผลบังคับใช้
แต่ทัศนคตินี้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทํางานที่ไม่เป็นมิตรได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทําให้พนักงานเติบโตได้ยาก สามารถบรรลุเป้าหมายขององค์กรได้อย่างสมํ่าเสมอ แต่เป็นความเสื่อมเสียของพนักงาน แต่นี่ไม่ใช่อันตรายในทันที แม้ว่าจะไม่ได้บอกว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลเช่นกัน
อย่าโกหกตัวเอง ความจริงอาจไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการให้เป็น แต่คุณไม่ควรต้องใช้คําโกหกที่เจ็บปวดเพียงเพื่อปฏิเสธมัน รับรู้การโกหกที่คุณบอกตัวเองว่ามันคืออะไร
ละเว้นการโกหกที่คนอื่นบอกเรา
เราทุกคนต่างก็ตกเป็นเหยื่อของการโกหกในบางช่วงของชีวิต ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เข้ามาในแวดวงของเราและโกหกเรากําลังพยายามใช้เราเพื่อดําเนินการตามแผนชั่วร้ายของพวกเขา
อย่าอาศัยอยู่ในอดีตภัย คุกคามทางจิตใจที่จมปลักอยู่กับท่าทีในอดีตนั้นมีพลังพอๆ กัน ฝึกฝนให้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน
เมื่อคุณใช้ชีวิตในอดีต คุณจะหยั่งรากลึกในสถานการณ์ที่อาจทําให้คุณช้าลงหรือหยุดคุณไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า ความกลัวเป็นหนึ่งในอารมณ์ที่ทรงพลังที่สุดที่ความทรงจําของเราสามารถกระตุ้นได้
โดยพื้นฐานแล้ว คุณเองได้สร้างภาพลวงตาของการไม่มีทางเลือกนี้ และมอบบังเหียนการมีอยู่ของคุณให้กับผู้อื่น นี่ไม่ได้หมายความว่าการมองย้อนกลับไปนั้นผิดทั้งหมด กระจกมองหลังถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ประเด็นคือ หากคุณต้องการแยกความจริงออกจากการโกหก การหยั่งรากลึกในปัจจุบันเป็นวิธีหนึ่งในการดําเนินการ นักจิตวิทยากล่าวว่าคนที่จมปลักอยู่กับอดีตมักจะเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนอื่นๆ
อาการซึมเศร้าเป็นหนึ่งในอารมณ์ด้านมืดที่ทําให้คุณอ่อนแอ และถ้าคุณเข้ารับการบําบัดโรคซึมเศร้าขั้นตอนหนึ่งในการเอาชนะมันก็คือการย้อนเวลากลับไปในอดีต ทําใจให้เข้ากับความเป็นจริงของสถานการณ์ จากนั้นจึงนําบทเรียนที่เรียนรู้จากอดีตที่ทบทวนมาก่อนที่จะปล่อยมือ
คุณเพียงแค่เตือนตัวเองว่าคุณไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะทบทวนและคิดมากเพียงใด คุณก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ อนาคตอาจกล่าวได้เช่นเดียวกัน มีความเป็นไปได้มากมาย
แน่นอนว่าขั้นตอนที่คุณทําในตอนนี้สามารถกําหนดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้ แต่มีตัวแปรมากเกินไปที่จะทํานายอนาคตได้อย่างแม่นยํา สิ่งที่คุณเป็นเจ้าของและควบคุมได้ทั้งหมดคือสิ่งที่คุณทําในตอนนี้ แยกตัวเองออกจากอดีตและจากความกลัวในอนาคตและให้ความสําคัญกับ "ปัจจุบัน"
ในชีวิตประจําวัน การมองโลกในแง่ดีแบบตาบอดทําให้เกิดอันตรายจากความเป็นจริง ความจริงนั้นขมขื่น หาแง่ดีๆ ให้มอง แต่อย่าหลอกตัวเองว่ามันดี
ความจริงมันเจ็บปวด แต่มันก็จะทําให้คุณเป็นอิสระเช่นกัน คุณแค่ต้องเตือนตัวเองว่าความเจ็บปวดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทั้งหมด และการเจ็บปวดจะทําให้คุณเข้าใกล้การรักษามากขึ้นอีกก้าวหนึ่ง
Once you believe that things are permanent,you are trapped in a world without doors.
Genesis P. Orridge
เมื่อคุณเชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ เป็นสิ่งถาวร คุณจะติดอยู่ในโลกที่ไม่มีประตู
คุณมีทางเลือกและคุณมีเสียง อย่าให้ใครมาโน้มน้าวใจคุณ
เตือนตัวเองว่าคุณมีเหตุผลเพียงพอแล้วที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น คุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า ความคิดเห็นของคุณมีความสําคัญ และไม่มีบุคคลอื่นใดที่มีอํานาจและมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ตามที่คุณต้องการมากกว่าคุณ
ตอนนี้เป็นเวลาที่จะมองหาความสนใจของคุณเองและไม่ต้องอาย
เริ่มต้นจากการเลือกที่จะดูแลตัวเองก่อน ดังนั้น การที่คุณ "เห็นแก่ตัว" ในขณะนี้จึงเป็นขั้นตอนที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทําได้เพื่อเป็นการไม่เห็นแก่ตัว
เหนือสิ่งอื่นใด เชื่อว่าคุณตัดสินใจถูกแล้ว เมื่อคุณพบว่าคุณถูกหลอกใช้และโกหกไม่ใช่แค่การไว้วางใจในผู้อื่นที่ถูกทําลาย ก็คือการเชื่อมั่นในตัวเองเช่นกัน
คุณตั้งคําถามกับการตัดสินใจของคุณทุกครั้ง ยึดมั่นอยู่กับปัจจุบันและเชื่อมั่นว่าคุณได้ตัดสินใจถูกต้องและมีเหตุผลในการแก้ไขสิ่งต่างๆ
แต่อย่ากดดันตัวเองด้วยการบังคับให้ความสัมพันธ์ใหม่ต้องดําเนินต่อไป ใส่ความพยายาม ใส่ในเวลา แต่อย่ารู้สึกผิดหวังหากสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่คุณคาดหวัง
ให้อภัยตัวเองบ้าง
รยอมรับว่าอดีตไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ มันเกิดขึ้นแล้ว คุณได้เรียนรู้ และคุณได้ก้าวต่อไป ไม่จําเป็นต้องให้หวนคิดถึงประสบการณ์ที่คุณมี การคิดถึงสิ่งที่เป็นอยู่ สิ่งที่เคยเป็น สิ่งที่คุณมี ควรจะมีและสิ่งที่จะทําไปแล้วนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วได้แม้แต่วินาทีเดียว
สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทําได้คือหยิบบทเรียนที่คุณได้เรียนรู้มาและปรับให้เป็นหลักการใหม่ในการใช้ชีวิต
วิธีหนึ่งที่จะทําสิ่งนี้ได้คือการทําจิตใหม่ เขียนสิ่งที่คุณคิดว่าจะทําได้เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ที่มอบสิ่งที่คุณรู้ตอนนี้แล้วก็ไปต่อ จุดประสงค์ของแบบฝึกหัดนี้คือเพื่อให้คุณสามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้ นําพลังของคุณกลับคืนมาและไปยังสิ่งต่อไป
เมื่อคุณได้เขียนอดีตใหม่แล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะพลิกหน้าถัดไปและเริ่มต้นบทต่อไปในชีวิตของคุณ เริ่มต้นด้วยการจัดการกับความเสียใจของคุณ สิ่งเหล่านี้มีวิธีรวบรวมความรู้สึกของเรา ยอมรับว่าคุณทําดีที่สุดแล้วภายใต้สถานการณ์และให้พื้นที่ตัวเองเติบโต
และเมื่อคุณแก้ไขปัญหาของคุณกับอดีตแล้ว ให้อภัยตัวเอง และเริ่มกระบวนการเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปล่อยวาง ความเจ็บปวดทั้งหมดนั้น แง่ลบทั้งหมดนั้น ความโกรธทั้งหมดนั้น… เป็นเจ้าของชั่วขณะหนึ่งแล้วปล่อยมันไป แต่กระบวนการบําบัดจะเสร็จสิ้นเมื่อคุณปล่อยมือเท่านั้น
เชื่อสัญชาตญาณของคุณ
สัญชาตญาณของคุณจะพูดกับคุณโดยใช้ภาษาที่คุณเข้าใจ คุณจะรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นเมื่อได้สัมผัสกับมัน และด้วยการฝึกฝน คุณจะเรียนรู้ที่จะไว้วางใจมัน
จิตใจของมนุษย์นั้นชั่วร้ายอย่างยิ่ง เจตนาแท้จริงของจิตใจมนุษย์ถูกซ่อนไว้
การทําความเข้าใจกลอุบายและเครื่องมือบางอย่างที่ใช้ในการติดต่อกับผู้อื่น
เปิดตัวเองให้เปิดรับโอกาสอันยอดเยี่ยมที่ชีวิตรอคุณอยู่ได้สําเร็จ การเดินทางเพื่อทําความเข้าใจตนเองให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและค้นพบตัวเองด้วยตนเองเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก
รักให้หนัก ยิ้มให้มากขึ้น และที่สําคัญปล่อยวาง
ชีวิตมีค่าเกินไปและวิเศษเกินกว่าจะดําเนินชีวิตด้วยวิธีอื่น และปลุกตัวเองให้ตื่นอยู่เสมอด้วยการเตือนว่าคุณคู่ควรกับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
ขอบคุณที่พาฉันเดินทางไปกับคุณ
ตัดแปะโดย เฉลิมชัย เอื้อวิริยะวิทย์
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
