22 ธ.ค. 2022 เวลา 18:03 • ปรัชญา
ตามประสบการณ์ การรับรู้ส่วนตัว (ยาวนิดนึงนะคะ)
•ศาสนา : ยึดหลักคำสอน ประคองตนให้พอดีกับบริบทชีวิตศาสนิกชนแต่ละคน ในทุกศาสนาคล้ายคลึงกัน สอนให้คนทำดี กลัวบาป ก่อนที่พวกเราจะเข้าใจบุญบาป กรรมดีกรรมชั่ว จริงๆ ซะอีก
>เกิดในศาสนาพุทธ เรียนโรงเรียนคริสต์ ขอใช้คำว่า Mood/ Tone/ Shape แตกต่าง แต่ดีเสมอกัน
(แอบเศร้าที่บางคน ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือกีดกัน แยกสังคมออกจากกัน-Discrimination แต่กลับแยกคนดี-คนไม่ดีออกจากกันได้ไม่ชัดเจน)
1
•ศาสนสถาน : เป็นสถานที่ประกอบ สืบทอดทางศาสนา ประเพณีวัฒนธรรม รวมกลุ่มคนให้เป็นชุมชน (แต่โบราณทุกศาสนา ก็คล้ายเป็นสถานที่รวมตัวประชุม ร่วมกิจกรรมทางศาสนา ตามเทศกาล เป็นที่พบปะพูดคุยจิปาถะบ้างหลังถวายเพล)
>ขอไม่ล่วงไปถึงสถานอาศัย และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับพระ บาทหลวง ผู้นำพิธีทางศาสนานะคะ
•ศาสนสมบัติ : แสดงความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปะ การออกแบบ สิ่งของที่ใช้ในขั้นตอน พิธีกรรมนิยมสะท้อนความเชื่อคนสมัยก่อนตกทอดมา
•ศาสนิกชน : เราในวันที่เริ่มแก่ เริ่มได้เป็นคนเตรียมงานบุญ เป็นธุระจัดการงานศพ จากที่เคยแต่งตัวแล้วไปวัด ต้องเตรียมของในพิธี จัดอาหารสำหรับพระสงฆ์ เด็กผู้ใหญ่ รับแขกเชิญคน พูดคุยกับคนรุ่นปู่ย่ามากขึ้น เข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจ ในแววตา สังขารพวกท่านมากขึ้น เข้าใจการให้เพื่อส่งต่อมากขึ้น
>เราเคยบอกตัวเองว่า ถ้าเราไม่มีศาสนา ไม่มีโอกาสทำสิ่งเหล่านี้ มีชีวิตเราตอนไหนอีกบ้างที่ทำให้ดวงตาเราเห็นธรรมเท่านี้อีกหรือ
1
>ศาสนา ไม่ได้เรียกร้องผูกมัดให้เรายึดติดหากไม่สมัครใจ กลับกัน ในเวลาที่อ่อนแอหลงทางที่สุด ศาสนากลับเป็นสิ่งที่หลายคนหันมายึดไว้เป็นทางเดิน ทางออกของชีวิต
>ในความคิดของเราศาสนา คำสอน ประเพณีและพิธีกรรม สำคัญกับคนเป็นมากกว่าคนตายซะด้วยซ้ำ พูดจากประสบการณ์นะคะ
โฆษณา