Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Lumpsum : ที่ปรึกษาวางแผนการเงินส่วนบุคคล
•
ติดตาม
23 ธ.ค. 2022 เวลา 09:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รีไฟแนนซ์ VS ขอลดดอกเบี้ย ผ่อนบ้านอยู่เลือกแบบไหนดี
รีไฟแนนซ์ VS ขอลดดอกเบี้ย ผ่อนบ้านอยู่เลือกแบบไหนดี
กวาดสายตาดูโปรโมชั่น "รีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน" ของบรรดาแบงก์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ถือว่าอัตราดอกเบี้ยยังไม่ขึ้น (ตามดอกเบี้ยนโยบาย) มากนัก ท่านที่กำลังเล็ง "รีไฟแนนซ์บ้าน" อยู่สามารถไปดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
แต่เมื่อนั่งหาข้อมูล โดยเฉพาะเพจและเว็บบอร์ดการเงินต่าง ๆ กลับเจอคำถามว่า "ขอลดดอกเบี้ยบ้านคุ้มกว่ารีไฟแนนซ์บ้านหรือไม่" จึงอยากแชร์ประสบการณ์เรื่องนี้อีกสักรอบ (คราวที่แล้วน่าจะก่อนโควิดบุก) ถือว่าอัปเดตข้อมูลไปในตัว
จุดเด่นของการขอลดดอกเบี้ยบ้านที่เหนือกว่าชัดเจนคือ ง่ายและสะดวกกว่า...
เพราะการ "รีไฟแนนซ์" เท่ากับการ "กู้ใหม่" ต้องมีการยื่นเรื่องใหม่ทั้งหมด และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าประเมิน, ค่าจดจำนอง, ค่าอากรแสตมป์ หรือค่าประกัน และอื่น ๆ อีกหลายค่า รวม ๆ แล้วหลายหมื่นเลยล่ะ ต้องลองบวกลบคูณหารดู...
เราลองมาคำนวณเปรียบเทียบทั้ง 2 วิธีไปพร้อมกัน เผื่อท่านผู้อ่านจะได้ไอเดียตามไปด้วย
ระหว่างนี้ไปหาแอปพลิเคชันคำนวณสินเชื่อมารอเลย มีเยอะแยะ ลอง Google ดูได้เลย ของผมใช้ "Financial Calculators" ฟังก์ชัน "Loan calculator" (ใช้คำนวณสินเชื่อแบบลดต้นลดดอก) ถ้าไม่สะดวกแอปฯ ก็ Google พิมพ์ “คำนวณสินเชื่อบ้าน” เพียบ!!! บอกเลย
สมมติว่า ปัจจุบันเหลือหนี้อยู่ 2,000,000 บาท ระยะเวลาที่เหลือคือ 20 ปี 4 เดือน ตอนนี้ผ่อนมา 4 ปี 8 เดือนละ แบงก์ที่ใช้อยู่อัตราดอกเบี้ย MRR-2 เท่ากับ 7.35 - 2 เหลือ 5.35 (MRR ของท่านอื่นจะลบ/บวกเท่าไหร่ ไปดูรายละเอียดในสัญญาเองเด้อ เพราะแต่ละแบงก์ไม่เท่ากัน)
1
ทีนี้หากแบงก์ที่ผมใช้ ขอเขาลดดอกเบี้ยได้ 2% ที่อื่น ๆ ก็แล้วแต่นโยบายและประวัติการผ่อนของเรา แต่ไม่น่าจะต่างกันมาก ถามเพื่อนก็ได้ประมาณนี้ เท่ากับหากใช้แบงก์เดิมดอกเบี้ยผมจะเหลือ 5.35 - 2 = 3.35% ตลอดอายุสัญญา
ถ้าไม่ทำอะไรเลย ยอดเงิน 2,000,000 บาท ผ่อน 20 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.35% ผมจะผ่อนเดือนละ 13,465 บาท ในยอดนี้มีดอกเบี้ยถึง 8,917 บาท เงินต้นแค่ 4,548 บาท แม้สัดส่วนจะลดลงเรื่อย ๆ ตามเงินต้น แต่กว่าดอกเบี้ยจะเหลือต่ำกว่า 8,xxx บาท ต้องผ่อนไปถึง 43 เดือน!!! เพราะเงินต้นมันลดน้อยมาก
ทีนี้หากขอลดดอกเบี้ย ยอดเงิน 2,000,000 บาท ผ่อน 20 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ยเหลือ 3.35% ผ่อนเท่ากันเดือนละ 13,465 บาท ดอกเบี้ยต่อเดือนลดลงเหลือ 5,583 บาท เท่ากับจะได้จ่ายเงินต้นมากขึ้น โดยดอกเบี้ยจะเหลือต่ำกว่า 5,xxx บาท หลังผ่อนไปแค่ 26 เดือนเท่านั้น หายไปเกือบครึ่ง
เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ หากอยู่แบงก์เดิมต่อไปและผ่อนจนหมด ดอกเบี้ยเดิมยอดทั้งรวมจะเท่ากับ 3,285,321 บาท คิดเป็นดอกเบี้ยถึง 1,285,321 บาท จากเงินต้นปัจจุบันเพียง 2,000,000 บาท แม่เจ้า...
แต่ถ้าขอลดดอกเบี้ย เมื่อผ่อนครบกำหนด ยอดทั้งหมดจะเท่ากับ 2,760,592 บาท คิดเป็นดอกเบี้ย 760,592 บาท ประหยัดไป 824,729 บาท บ๊ะ! สุดคุ้ม
ทีนี้หากรีไฟแนนซ์ล่ะ แน่นอนว่า 3 ปีแรกจะได้ดอกเบี้ยพิเศษ คิดแบบรวม ๆ เฉลี่ยก็ 3% ย้ำ! แค่ 3 ปีแรก หลังจากนั้นจะเข้าสู่ระบบ MRR -/+ ... เหมือนเดิม
คำนวณแบบย้ายแบงก์แล้วผ่อนเวลาเท่าเดิมเลย (จริง ๆ สามารถเพิ่มหรือลดระยะเวลาผ่อนได้) ยอดเงิน 2,000,000 บาท ดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 20 ปี 4 เดือน ผ่อนเดือนละ 13,465 บาท ดอกเบี้ยต่อเดือน 3 ปีแรกเหลือเพียงเฉลี่ย 5,000 - 4,227 บาท ลดดอกเบี้ยต่อเดือนได้อีกพอสมควรเลย
ทีนี้ผมจะลองเปรียบเทียบ 3 ปีจากนี้ "ขอลดดอกเบี้ย" กับ "รีไฟแนนซ์" แบบไหนดีกว่ากัน ถ้าขอลดดอกเบี้ย จ่ายดอกเบี้ยรวม 190,595 บาท ลดเงินต้นได้ 216,705 บาท ยอดหนี้คงเหลือ 1,789,613 บาท
ถ้ารีไฟแนนซ์ จ่ายดอกเบี้ยรวม 166,282 บาท ลดเงินต้นได้ 300,014 บาท ยอดหนี้คงเหลือ 1,699,986 บาท
ดูแบบนี้รีไฟแนนซ์ชนะสิ เพราะดอกเบี้ยถูกกว่า ลดเงินต้นได้มากกว่า และยอดหนี้รวมลดลงมากกว่า ....
แต่อย่าลืมว่าการ "รีไฟแนนซ์" จะมีต้นทุนเพิ่มจากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าประเมินราว 2,000-5,000 บาท แล้วแต่แบงก์ / บ้าน, ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงิน (ไม่เกิน 10,000 บาท) ค่าจดจำนอง 1% ของเงินกู้ บางที่ต้องทำประกันไฟไหม้ด้วย แถมมีค่าใช้จ่ายระหว่างดำเนินการด้วย เช่น ค่าโทรศัพท์ - ค่าถ่ายเอกสาร - ค่ารถ - ค่าข้าว - ค่ารำคาญกระบวนการ
คำนวณคร่าว ๆ ค่าประเมินกลาง ๆ เลย 3,000 บาท, ค่าอากรฯ 1,000 บาท, ค่าจดจำนอง 20,000 บาท, ประกันเว้นไว้ก่อน (เพราะเลือกแบงก์ที่ไม่ต้องทำได้) , ค่าโทรศัพท์ - ค่าถ่ายเอกสาร - ค่ารถ - ค่าข้าว, ประเมินคร่าว ๆ ไปอีกสัก 1,000 บาท รวมแล้วประมาณ 25,000 บาท
พอเห็นภาพยังครับ เมื่อเทียบกันแล้วอาจจะไม่ต่างกันมากราว 1x,xxx บาท +/- ก็ลองเปรียบกับความสะดวกต่าง ๆ ดูแล้วกันตามชอบเลยนะครับ...
สุดท้ายไม่ว่าจะวิธี "ขอลดดอกเบี้ย" หรือ "รีไฟแนนซ์" ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะ เรื่องพวกนี้ต้องวางแผนจัดการ ไม่ใช่ผ่อนไปวัน ๆ เพราะคนเสียประโยชน์คือเราเอง
อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ ที่ผ่อนบ้านใกล้จะครบ 3 ปี หรือผ่อนบ้านครบ 3 ปีแล้ว ควรที่จะวางแผนรีไฟแนนซ์บ้าน ด้วยการหาข้อมูลดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านแต่ละธนาคารได้รอได้แล้ว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านในปีถัดๆ ไป
สนใจอยากรีไฟแนนซ์บ้านหรือเช็กดอกเบี้ย สามารถดูรายละเอียด พร้อมยื่นสมัครรับข้อเสนอพิเศษ คลิกได้ที่นี่ >>
https://bit.ly/3CGX4AG
แจกฟรี! ไฟล์ตารางผ่อนบ้าน ใช้วางแผนผ่อนบ้านให้หมดไวๆกัน >>
https://bit.ly/3zPqvAS
.
แอดไลน์เพื่อสอบถามเพิ่มเติม หรือเพื่อติดตามข้อมูลข่าวสาร และคอนเทนต์ดีๆจากเราได้ที่นี่ >> ID: @lumpsumofficial หรือลิงค์นี้
https://lin.ee/aTmHRon
.
หนึ่งเอง หนึ่งไง จะใครล่ะ ^^
เศรษฐกิจ
การลงทุน
การเงิน
1 บันทึก
2
2
1
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย