24 ธ.ค. 2022 เวลา 04:33 • ธุรกิจ
เทคนิควิเคราะห์ ลูกค้า และ Pain Point ว่าอันไหนควรเอาไปคิดต่อเป็น Solution
เวลาคุยกับลูกค้า แล้วคุณดีใจที่ได้เจอปัญหา หรือ Pain Point ที่ลูกค้าหลายคนบอกเหมือนกัน น่าจะเป็นปัญหาที่เอาไปคิดหาไอเดียแก้ปัญหา
ส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาแรกที่คุณเจอ จะยังเอาไปใช้ไม่ได้
เพราะ ปัญหาแรกหรือสิ่งแรกที่ลูกค้าบอกคุณ ส่วนใหญ่ จะเป็นแค่ปัญหาขั้นแรก ที่ยังตื้นไป ไม่มีรายละเอียด ไม่ลึกพอที่จะเอามาคิดหาทางแก้ได้
เช่น แม่ค้าออนไลน์ บอกว่า อยากขายให้ดีกว่านี้
ปัญหาที่พวกเขาบอกคือ ไม่รู้จะเอาอะไรมาขาย
ถ้ามาคิดดูดีๆ ก็จะงงๆว่า ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาขาย หรือเคยเอามาแต่ขายไม่ได้ ทำไมขายไม่ได้
ยังเอาไปคิดต่อไม่ได้
.
สิ่งที่คุณควรทำคือ
ขั้นแรก เจาะลึก ถามต่อ เพื่อให้เข้าใจถึงสาเหตุของปัญหา หาให้เจอว่าสิ่งที่ทำให้ยากสำหรับเขาคืออะไร
เทคนิคที่ผมใช้บ่อยๆคือ พอจะสรุปว่าปัญหาของกลุ่มนี้คืออะไร ให้ถามตัวเองซ้ำอีกรอบสองรอบว่า ตกลงอะไรคือปัญหาของกลุ่มนี้จริงๆ มันใช่สิ่งที่ทำให้เขายากลำบากหรือไม่
ขั้นสอง ถ้าเริ่มเจาะลึก คุณจะเจอว่า กลุ่มเป้าหมายคุณจริงๆแล้ว มีหลายกลุ่มย่อย ที่เจอความท้าทายที่ไม่เหมือนกัน
คุณต้องเข้าใจ ปัญหา สาเหตุของปัญหา ความยาก และความต้องการของแต่ละกลุ่ม
ขั้นสาม คือ เลือกกลุ่มเป้าหมายและปัญหาให้ชัดเจน
ตอนเริ่ม คุณต้องโฟกัสกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง แล้วคิดหาวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มนี้ ทำให้ได้ดีกว่าปัจจุบัน 10 เท่า
ถ้าคุณไม่โฟกัส คุณจะพยายามแก้หลายปัญหาเกินไป ที่ถึงแม้จะดูคล้ายกันเกี่ยวกัน
แต่มันจะไม่ออกมาดีจนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเปลี่ยนมาใช้
ถ้าคุณเริ่มทำแล้ว เจอว่ากลุ่มเป้าหมายจริงๆแล้วมีหลายกลุ่มย่อย
ให้ดูว่า กลุ่มไหนดูเป็นปัญหาใหญ่สุดสำหรับเขา ต้องการสิ่งที่แก้ปัญหามากสุด
กลุ่มนั้นจะมีโอกาส ที่ไอเดียที่คุณพัฒนามาแล้ว เขาจะสนใจมากสุด
.
ในเคสแม่ค้าออนไลน์ คุณจะเจอว่า ทุกคนอยากขายดีกว่านี้ อยากหาของที่ขายดีมาขาย
แต่พอคุยถึงความยากที่แต่ละคนเจออยู่นั้นไม่เหมือนกัน
ถ้าเป็นมือใหม่เลย ปัญหาของพวกเขา คือขายไม่เป็น ไม่เข้าใจว่าขายออนไลน์ต้องทำไง และไม่มีเงินทุนด้วย
ถ้าพอขายได้ ก็จะเจอปัญหาว่า ทำยังไงให้ขายดีกว่านี้ ขายเป็นอยู่สินค้าเดียว ช่องทางเดียว
ถ้าขายได้เยอะ ก็จะเจอปัญหาว่า ก็ยังมองหาของใหม่ๆมาขายนะ แต่ว่าต้องดีกว่าของที่ขายได้อยู่แล้ว หรือเป็นของที่ขายดีอยู่แล้ว แต่ต้นทุนต่ำกว่านี้
หรือบางคนเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่อยากสต็อกของ ไม่เกี่ยงว่าของต้องถูกสุด แต่ต้องสามารถขายแบบไม่สต็อกของได้
พอคุณเข้าใจแม่ค้าออนไลน์แต่ละกลุ่มแล้ว คุณก็เริ่มคิดว่า
ปัญหาของกลุ่มไหนดูต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
กลุ่มไหน ปัญหาไหน ที่คิดดูแล้ว น่าจะมีทางแก้ได้
เมื่อเลือกได้แล้ว ก็โฟกัสกับการเข้าใจลูกค้ากลุ่มนั้น
.
ถ้าชอบ content การทำของใหม่ หาไอเดีย ทดสอบไอเดีย ทำ new tech product
ฝากกด Like กด Share ด้วยนะครับ
จะได้ไม่พลาดคอนเทนท์ที่ตั้งใจเขียนทุกวัน
ใครมีอะไรอยากพูดคุย สอบถาม, message มาได้เลยครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา