24 ธ.ค. 2022 เวลา 08:16 • ท่องเที่ยว
Aru Valley เสน่ห์ที่เล็กๆ
หมู่บ้านอารุ ชุมชนน้อยๆ ที่อยู่ท่ามกลางทิวเขาลดหลั่นและรายล้อมรอบด้าน มีลำธารหล่อเลี้ยง
ก่อนเดินทางกลับไปแคว้นแคชเมียร์อีกครั้ง(ซึ่งไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไรแล้ว..)
สืบเนื่องจากคณะนี้เห็นทริปก่อนหน้าแล้วต้องการเปิดประสบการณ์อีกครั้งกับแคชเมียร์หลังสถานการณ์โควิทดีขึ้น แต่ไม่ขอซ้ำเส้นทาง นี่คือโจทย์ของเรา
ส่วนความตั้งใจส่วนตัว คือ เบิกเส้นทางต่อไปอีก
ครั้งนี้วางแผนว่าเราจะมาทางหุบเขาพาฮาลแกมแต่ไม่พักที่นี่ ขึ้นเขาไปอีกราว 12 กิโลเมตร จะเป็นที่พักของคณะเรา
เมื่อเราเดินทางถึงตัวเมืองพาฮาลแกม และทานอาหารกลางวัน ทำธุระส่วนตัวและหาซื้ออาหารสดเพิ่มเติม
เมื่อพร้อมก็เดินทางไปจุด Taxi stand เพื่อเปลี่ยนเป็นรถท้องถิ่นแทนพาหนะเดิม อันนี้เห็นด้วยยิ่ง ชาวบ้านสุข-เราสนุก win-win ค่ะ
สำหรับการมาพักที่หมู่บ้านอารุนี้ เป็นเกสต์เฮ้าส์ส่วนใหญ่ มีแค้มป์ไม่กี่ที่ ซึ่งเป็นโชคดีของเราที่เลือกไปช่วงท้ายฤดูร้อนเลย นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่น
แต่ยังมีแค้มป์รอเราอยู่ แน่ซิ้ จองกันไว้แต่ต้นปี
แค้มป์เราอยู่ตรงเวิ้งภูเขา ทางเข้าหมู่บ้าน
ด้านหน้าติดถนนหลัก ด้านล่างเป็นลำน้ำ เรียกว่าทำเลไม่เลวเลย
เราพักที่นี่ 2 คืน ดังนั้นเราจะได้สัมผัสทั้งแสงเย็น แสงเช้า และค่ำๆ ยามน้ำค้างลง ยะเยือกเหมือนกัน
หลังเก็บสัมภาระ ออกสำรวจตัวหมู่บ้านกันก่อนค่ำ จากที่พักเดินเลียบลำน้ำที่กระแสแรงตามแบบฤดูร้อนของหมู่บ้านในหุบเขา
ต้นน้ำมาจากร่องเขาด้านบน บางส่วนละลายมาจากธารน้ำแข็ง ไหลมารวมตัวเป็นลำธารขนาดกลางและสมทบกันที่ด้านล่าง เรียกว่าแม่น้ำลีดเดอร์ ผ่านแหล่งท่องเที่ยวในหุบเขาพาฮาลแกมนั่นเอง
ผู้คนในหมู่บ้าน ดำรงชีวิตกับอาชีพปศุสัตว์ ปลูกพืชเฉพาะกินและงานบริการในสายท่องเที่ยว
โดยเฉพาะสายเดินเขา เนื่องจากที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินพิชิตทะเลสาบ Tasar Masar และอีกหลายทะเลสาบย่อยๆ เยอะมาก
ซึ่งทริปนี้ เราแอบระบุทะเลสาบ Katarnag ลงไปด้วย
พรุ่งนี้เราจะไปกันค่ะ
รุ่งเช้า ยังไม่ทันจบมื้อเลย ทีมม้าก็มาเคาะเต้นท์เรียกแล้ว พร้อมมาก พร้อมเร็ว
วันนี้ก็ใช้เส้นทางเดินผ่านหมู่บ้าน ทางเดินเมื่อวาน
แต่วันนี้ใช้ม้าขี้ผ่านหมู่บ้านเป็นทีมอัญเชิญคัมภีร์เชียว เราขี่ม้าไปทางตะวันออก เป็นอันเริ่มต้นขี่ม้าชมสนกันเลย
พอผ่านพ้นหมู่บ้านออกมา เริ่มเห็นแนวป่าสน เดินค่อยๆ สูงไปเรื่อย ผ่านฝูงแกะ บ้านเรือนแบบชั่วคราวของชาว Nomad
ระยะทางไม่แน่ใจแต่ใช้เวลา ราวชั่วโมงเศษ ก็ถึงจุดสิ้นสุดทางม้าแล้วค่ะ ได้เวลาเบรคก่อนตัดสินใจลุยต่อค่ะ
หลังจิบชาร้อนๆ พร้อมขนมขบเคี้ยวที่พกกันมาเรียบร้อย ได้เวลาเริ่มต้นเดินเท้าขึ้นไปสู่ทะเลสาบด้านบนกันค่ะ
Tea Break
จุดนี้เราต้องพกอาหารกลางวันแบบง่ายๆ ไปด้วย เช่นแซนวิช ไข่ต้ม โรตี ไก่ทอด พวกเราหมดเวลากับการคลานขึ้นเขาประมาณ 5 ชั่วโมง ขึ้นและลง
ถูกต้องค่ะ เราเลือกใช้คำว่าคลานเพราะช่วงท้ายๆ นี้ทั้งชันและหินเป็นก้อนกลมๆ แบบหินแม่น้ำเยอะมาก เดินไม่ง่าย และบางคนรองเท้าไม่อำนวย ก็ถอยลงเพื่อความปลอดภัย
ท้ายสุดสมาชิกก็เหลือแค่ครึ่งนึงที่ไม่ยอมแพ้ใจตัวเอง ง่ายๆ หรือว่าเสียดายที่เดินมาไกลแล้วไม่อยากย้อนกันแน่ ยังไม่มีข้อสรุป
หลังหยุดพักกินอาหารกลางวัน ยืดเส้นกันสักพัก
เดินต่ออีกระยะ ก็มาถึงปลายทางที่เรียกว่าทะเลสาบ ห๊ะ... ใช่ ลุงไกด์บอก Katarnag เป็นทะเลสาบเล็กๆ
Katarnag lake น้ำจะมากในต้นฤดูร้อน
โชคดี ซ้ำสองฝนตกขาลงเขา เอาแล้ววว ข้อเข่าและเท้าต้องจิกกว่าเดิม ภาพขาลงเขาแทบไม่มีเลยค่ะ ไม่มีมือจับกล้องจริงๆ เพราะมือขวาไม้โพล มือซ้ายตะกายหิน
ในที่สุดพวกเรากลับมายืนจุดเดิมที่เวลา 16.30 โดยประมาณ ตะกายขึ้นหลังม้ากลับแค้มป์ไปนวดขากันต่อไป
ลุงเชฟ กำลังเตรียมเสบียง
เห็นทีปีนี้จะปิดท้ายกันที่หมู่บ้านอารุ ก่อนละค่ะ แล้วปีหน้าเราจะพาความสดใสที่ไหนมาฝากทุกคนอีกติดตามกันนะ...ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านค่ะ
เด็กๆชาวยิปซี(Nomad)
---------- H a p p y N e w Y e a r ---------
โฆษณา