24 ธ.ค. 2022 เวลา 12:24 • การศึกษา
ความคิดเห็นส่วนตัว เกี่ยวกับสถาบันการศึกษา
มาถึงเรื่องที่เป็นประเด็นสังคมกันอีกเรื่องนะครับ อย่างเรื่อง เรียนที่ไหนเหมือนกันไหม
ส่วนตัวมองว่าไม่เหมือนกัน เเต่ละมหาลัยล้วนมีองค์ประกอบทางการศึกษาต่างกัน เเต่ละมหาลัยฝึกให้เด็กเก่งในเรื่องที่เเตกต่างกัน
ตัวผมเองเรียนได้ในระดับที่เรียกว่าเด็กท้ายห้องของห้องคิงหรือที่เค้าเรียกกันว่าหางสิงโตมาตั้งเเต่เด็กครับ เคยเรียนในมหาลัยรัฐชั้นนำในคณะกฎหมาย เเต่ซิ่วออกมาเรียนมหาลัยเอกชนในคณะ บริหารธุรกิจ เเล้วก็ไปจบ MBA ในมหาลัยชั้นนำ ภาคภาษาอังกฤษ เเละปัจจุบันก็เป็นนักเรียน ป เอก ของ ม เอกชนครับ
จึงเรียกได้ว่าผ่านมาผมเรียนในมหาลัยมาหลายเเบบ มีเพื่อนที่จบจากหลากหลายสถาบันจึงสรุปได้ประมาณนี้ครับ
ม รัฐ ชั้นนำจะสอนให้เด็กเก่งครับ เเละประกอบกับคนที่สอบเข้ามาก็ค่อนข้างคงเเก่เรียน เด็กที่จบจากมหาลัยดังกล่าวจึงมีความสามารถในการทำงานสูงที่สุดในทุกกลุ่มครับ เเต่นายจ้างก็ต้องมีความสามารถที่จะตอบเเทนความสามารถดังกล่าวด้วยครับ จึงเหมาะที่จะทำบริษัทขนาดใหญ่ มีชื่อเสียง ให้เงินเดือนสูง
ม ระดับที่ไม่มีชื่อนัก เด็กที่เข้ามามักจะเรียนไม่เก่งจึงจำเป็นต้องมีทักษะการเอาตัวรอดสูง ดังนั้น เด็กที่จบออกมาจะมีลักษณะที่เล่นการเมืองเป็น เเละเป็นคนสู้งานมากเนื่องจากค่อนข้างเห็นค่าของโอกาสที่ตนได้รับมากๆครับ ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเจ้าของกิจการขนาดเล็กหรืองานที่ต้องลุยพื้นที่เเละปะทะกับคน มากๆครับ
ม เอกชน เด็กที่เข้ามาหลายคนจะมีพื้นฐานมาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจครับ อาจมีขนาดเล็กใหญ่เเตกต่างกันไป ดังนั้นเด็กที่เข้ามาจะได้รับอิทธิพลทางสังคมจากเพื่อนๆในเรื่องหัวการค้าเเละในบางครั้งอาจคิดนอกกรอบบ้าง เด็กหลายคนจึงจบออกมาเป็นเจ้าของกิจการซึ่งจะใหญ่เล็กก็ขึ้นอยู่กับความสามารถเเละเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับงาน Creative
ดังนั้นจบจากไหนมีผลกับอนาคตเเละความถนัดพอสมควรทีเดียวครับ เเต่ถึงอย่างไรก็ตามตัวบุคคลสำคัญกว่า เเละเเท้จริงเราเป็นคนยังไงโดยไม่ว่าคุณจะจบจากที่ไหนความสำเร็จก็เกิดจากตัวคุณเป็นสำคัญไม่ใช่สถาบันที่จบมา
รูปรับปริญญาโทMBA ที่ Asian Institute of Technology ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา