24 ธ.ค. 2022 เวลา 12:39 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Netflix ลงทุนต่อยอดความสำเร็จ ของ Knives Out (เคสใครฆ่าคุณปู่) สร้างภาคต่อ (ที่ไม่ต่อ) ในเคสฆาตกรรมใครฆ่าเพื่อน Glass Onion: A Knives Out Mystery
ในขณะที่ Murder on the Orient Express และ Death on the Nile ของ Kenneth Branagh กำลังดาวน์เกรดหนังหมวด “Whodunit” ในยุคนี้ ก็ได้ Knives Out กับ Glass Onion: A Knives Out Mystery ของ Rian Johnson นี่แหละที่มาช่วยชูหน้าชูตาและปั่นความนิยมต่อไปของหนังหมวดนี้
ทั้งสองแฟรนไชส์ เราไม่จำเป็นต้องดูภาคใดภาคหนึ่งมาก่อนจึงจะดูอีกภาคหนึ่งรู้เรื่อง เพราะแต่ละภาคก็เป็นเรื่องราวคนละคดีกันไป เพียงแต่ใช้นักสืบหัวเห็ดคนดีคนเดิมเป็นตัวเดินเรื่องสำคัญของทุกภาค อย่างของแฟรนไชส์ Knives Out นี้ก็คือ นักสืบ Benoit Blanc นั่นเอง (Daniel Craig หรือ James Bond 007)
Glass Onion: A Knives Out Mystery ยังคงเป็นคดีในแวดวงสังคมคนรวย (นักสืบระดับโลกค่าตัวแพง) เมื่ออภิมหาเศรษฐี Miles Bron (Edward Norton) ซึ่งรวยและมี vibes ระดับ Elon Musk จัดปาร์ตี้สุดสัปดาห์ ชวนเพื่อน ๆ มาเล่นเกมปริศนาฆาตรกรรม ณ เกาะหรูส่วนตัวแห่งหนึ่งในกรีซ โดยเพื่อน ๆ แต่ละคนก็ล้วนเป็นคนดัง คนรวย หรือผู้มีอิทธิพลในวงการต่าง ๆ ตั้งแต่นักการเมือง อินฟลูเอนเซอร์ ฯลฯ
ซึ่งหนังยังคงคอนเซ็ปต์รวมดาว ตัวละครเยอะและคาแรกเตอร์ชัด แต่ภาคนี้มันเล่นใหญ่กว่าภาคแรก จากสเกลครอบครัวมาสู่สเกลระดับสังคมไฮโซ (ที่กระทบถึงรากหญ้า)
ภาคแรกตัวละครมันเป็นวงศาคณาญาติกัน คนไทยหลายคน (พวกญาติเยอะหรืออยู่กับวังวนระบบกงสี) อาจจะรู้สึกมีอารมณ์ร่วมและจอยกับภาคแรก โดยเฉพาะเวลาพวกเขาต่อปากต่อคำหรือแขวะกัน ได้ง่ายกว่าการมาดูความสัมพันธ์ฉันเพื่อนของคนรวยที่ต่างมากันคนละทิศละทางแบบในภาคนี้ ในขณะเดียวกัน คนต่างชาติหรือสากลโลกหลายคนอาจจะอินกับภาคสองนี้มากกว่าก็ได้ เรื่องการดูหนังมันขึ้นอยู่กับแบคกราวนด์ของผู้ชมอยู่แล้วด้วยส่วนหนึ่ง
และเช่นเดียวกับภาคแรกคือ หนังไม่ได้ทำให้คาดเดาผู้ต้องสงสัยหรือผู้ร้ายได้ยากจนเกินไป แต่ความหรรษาจริง ๆ ของหนังอยู่ที่ตัวละคร บริบท ไดอะล็อก และการเล่าเรื่อง
โดยจุดเด่นของการเล่าเรื่องในภาคนี้คือ เขาตัดต่อโดยไม่เปิดเผยเนื้อหาทั้งหมดตั้งแต่แรก ทำให้คนดูเห็นหรือรู้ประมาณเท่า ๆ กับพวกสมาชิกแก๊งคุณเพื่อนทั้งหลาย ก่อนที่จะค่อย ๆ เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมจากมุมมองของนักสืบ Benoit Blanc ในครึ่งหลัง
ดังนั้น จะไม่มีคนดูหน้าไหนสามารถพูดได้ว่า “เดาได้ตั้งแต่แรก” อย่างน้อย… ก็ไม่อาจเดาเรื่องราวได้ทั้งหมดตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของหนัง
และแก่นสำคัญของเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่การสืบหาว่าใครคือฆาตกรผู้ฆ่าเพื่อน แต่หากสะท้อนและเสียดสีถึงอำนาจ ชื่อเสียง และเงินทองของคนในสังคมกลุ่มหนึ่ง ที่มักอยู่บนพื้นฐานของความเห็นแก่ตัว การโกหกหลอกลวง ผลประโยชน์ส่วนตัว และความเพิกเฉย (ignorance) และหนังก็นำเสนอมันได้อย่างตลกร้าย
เช่น ตัวละครที่ Kate Hudson เล่น ที่มักมีปัญหาทางการสื่อสาร จนเข้าใจว่า “sweatshops” คือโรงงานทำ “sweatpants” เป็นต้น
ป.ล. นี่เป็นหนังที่ Cameo เยอะมาก บางทีแค่กระพริบตา ก็อาจพลาด Cameo นั้นไปเลยก็ได้
===
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
#kwanmanie
#รีวิวหนัง #KnivesOut #knivesoutglassonion #GlassOnion #GlassOnionAKnivesOutMystery#KnivesOut2 #Netflix
===
📌 ช่องทางการติดตาม Kwanmanie
📌 ช่องทางการติดต่อ Kwanmanie >>>
LINE: @kwanmanie
โฆษณา