25 ธ.ค. 2022 เวลา 05:00 • ไลฟ์สไตล์
ส่องรายได้ต่อปีของเพลงดังประจำเทศกาล “คริสต์มาส” ตั้งแต่ “All I Want For Christmas Is You” ของ นักร้องดีว่าตัวแม่ “มารายห์ แคร์รี” จนถึง “Last Christmas” เพลงสุดเศร้าของ “Wham!”
เพลงคริสต์มาสที่ปัจจุบันเปิดกันอยู่เป็นประจำนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านที่มีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของศาสนาคริสต์และพระเยซู เช่น Only Child, O Holy Night, Silent Night, The First Noel เป็นต้น
1
ขณะที่อีกส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพลงคริสต์มาสที่แต่งขึ้นมาใหม่ โดยอาจจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก การกลับไปหาครอบครัว หรือแม้กระทั่งอกหักในช่วงเทศกาล เช่น Let It Snow, Santa Baby, Happy Xmas (War Is Over) แต่ไม่ว่าจะเป็นเพลงประเภทใด เพลงเหล่านี้มักจะถูกนำไปคัฟเวอร์โดยศิลปินชื่อดังอยู่เสมอ จนบางเพลงมีมากกว่าหมื่นเวอร์ชันใน Spotify ไม่ว่าจะเป็น Silent Night, White Christmas และ Jingel Bells
เนื่องจากในปัจจุบันเพลงคริสต์มาสไม่ได้ถูกเปิดแต่ในช่วงเดือน ธ.ค. แต่เริ่มขยับไปเปิดกันตั้งแต่เดือน พ.ย. เห็นได้จากชาร์ตเพลงต่าง ๆ ทั้งในสตรีมมิงหรือชาร์ตเพลงใหญ่ ๆ อย่าง Billboard ที่มีเพลงช่วงเทศกาลกลับเข้าชาร์ตเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ส่งให้ศิลปินเจ้าของบทเพลงพวกนี้สร้างรายได้จากส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ได้เป็นกอบเป็นกำ
โดยเฉพาะเพลง “All I Want For Christmas Is You” ของ นักร้อง “มารายห์ แคร์รี” ที่กลับติดขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 ทุกปี จนทำให้หลายคนแซวว่าเพลงนี้เป็น Passive Income ของแคร์รี ที่ออกครั้งเดียว แต่สร้างรายได้ให้เธอไปตลอดชีวิต
1
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จึงได้รวบรวมเพลงประจำเทศกาลคริสต์มาสที่ได้รายได้ส่วนแบ่งต่อปีมากที่สุด 5 อันดับแรก โดยอ้างอิงจากสำนักข่าว South China Morning Post (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ธ.ค. 2565)
🎅🏼Merry Christmas Everybody - Slade
วงร็อกสัญชาติอังกฤษอย่าง “Slade” ได้ปล่อยเพลงคริสต์มาสเป็นของตัวเองชื่อว่า “Merry Christmas Everybody” ในปี 2516 แม้ว่าคนไทยจะไม่ค่อยคุ้นหูเพลงนี้เท่ากับเพลงประจำเทศกาลเพลงอื่น ๆ แต่เพลงนี้เป็นที่โด่งดังมากในสหราชอาณาจักร สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 1 ล้านชุด และเป็นหนึ่งในเพลงคริสต์มาสที่ชาวอังกฤษรู้จักมากที่สุด ทำให้ในทุกปี เพลงนี้สามารถทำรายได้ไปได้ถึง 1,200,000 ดอลลาร์
1
💃All I Want For Christmas Is You - Mariah Carey
หากจะพูดถึงเพลงคริสต์มาสที่ถูกเปิดบ่อยมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ คงจะหนีไม่พ้น “All I Want For Christmas Is You” ของนักร้องสาวตัวแม่ “มารายห์ แคร์รี” กลายเป็นเพลงแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถกลับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของ Billboard Hot 100 ได้ทุกปี นับตั้งแต่ขึ้นอันดับ 1 ครั้งแรกในปี 2562 จนถึงปี 2565 ส่งผลให้หลาย ๆ สื่อขนานนามให้แคร์รีเป็น “ราชินีแห่งเทศกาลคริสต์มาส” และทำรายได้ให้เธออย่างน้อยปีละ 485,000 - 1,000,000 ดอลลาร์ แม้ว่าเพลงนี้จะปล่อยมาตั้งแต่ปี 2537 แล้วก็ตาม
1
🌃Fairytale of New York - The Pogues and Kirsty MacColl
“Fairytale of New York” ของวง The Progues ที่ได้ คริสตี แมคคอลล์ (Kirsty MacColl) มาร่วมขับร้องด้วย เพลงเป็นคริสต์มาสที่ว่าด้วยการทะเลาะเบาะแว้งกันของคู่รัก โดยเนื้อเพลงมีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงทำให้คลื่นวิทยุหลายแห่งเซนเซอร์คำเหล่านี้ออกจากเนื้อเพลง แต่เพลงนี้สามารถทำรายได้ราว 485,000 ดอลลาร์
1
❄️White Christmas - Bing Crosby
ไม่ว่าจะมีใครนำเพลง “White Christmas” ไปคัฟเวอร์ใหม่กี่หมื่นเวอร์ชันก็ตาม แต่เวอร์ชันต้นฉบับของ บิง ครอสบี (Bing Crosby) ที่ปล่อยออกมาครั้งแรกในปี 2485 เพื่อเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Holiday Inn ก็ยังคงเป็นที่ครองใจผู้ฟังทั่วโลก อีกทั้งถูกยกให้เป็นหนึ่งในเพลงคริสต์มาสที่คนอเมริกันรักมากที่สุด พร้อมครองตำแหน่งเพลงประจำเทศกาลที่มียอดขายสูงสุดในโลกกว่า 50 ล้านชุด และสามารถทำรายได้ต่อปีได้ 400,000 ดอลลาร์
🎄Last Christmas - Wham!
“Last Christmas” เพลงคริสต์มาสสุดเศร้าสำหรับคนอกหัก ก็กลายเป็นอีกเพลงหนึ่งที่ศิลปินดังแห่งยุคนำไปคัฟเวอร์เอาไว้มากมาย แต่ก็ยังไม่มีเวอร์ชันใดที่ยิ่งใหญ่และโด่งดังไปกว่าเวอร์ชันต้นฉบับของ “Wham!” ในปี 2527 ที่ยังคงได้รับความนิยมและไต่ขึ้นชาร์ตมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน
1
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเมื่อ “จอร์จ ไมเคิล” นักร้องนำของเพลงนี้เสียชีวิตในวันคริสต์มาสปี 2559 แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้ยอดขายเพลงนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อระลึกถึงไมเคิล โดยทำยอดขายได้ประมาณ 1,900,000 ชุด (ไม่รวมยอดดาวน์โหลด) และสามารถขึ้นอันดับ 1 บน Official Chart ชาร์ตเพลงที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษได้ในปี 2563 และ 2565 โดยประมาณการว่าทำรายได้ต่อปีของเพลงนี้อยู่ที่ 365,000 ดอลลาร์
1
โฆษณา